คาร์ทิปส์ : วิธีควบคุมรถ เมื่อเจอเหตุฉุกเฉิน

เหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา สิ่งสำคัญต้องมีสติ และรีบหาทางแก้ไขโดยเร็ว ยานยนต์ “มติชน” มีข้อแนะนำดังนี้

-ยางแตก หรือยางระเบิด
ไม่ว่าอยู่ในช่วงความเร็วใด จะต้องถือพวงมาลัยไว้ให้มั่นคง ต้องพยายามบังคับรถให้เข้าข้างทางให้ได้ด้วยความระมัดระวัง ควรคำนึงถึงว่าอย่าใช้เบรกอย่างกะทันหัน เมื่อรถวิ่งในความเร็วสูง เพราะจะทำให้รถที่วิ่งมานั้นหมุนเป็นวงกลม พยายามใช้เกียร์ของเครื่องยนต์เป็นตัวชะลอความเร็ว โดยการเปลี่ยนเกียร์ต่ำทันที
กรณียางหลังระเบิด ด้านหลังรถจะส่าย แต่ถ้าถือพวงมาลัยไว้ให้มั่นคงและรักษาทิศทางให้ตรง ก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ พยายามย้ำเบรกหลายๆ ครั้งติดกัน เพื่อน้ำหนักของรถจะได้ตกอยู่บนล้อข้างยังใช้งานได้
กรณียางหน้าระเบิด พยายามจับพวงมาลัยให้มั่นคง ใช้เบรกให้เบาที่สุด มิฉะนั้นน้ำหนักจะทิ้งไปข้างหน้ามากขึ้น ถ้ารถแฉลบไปข้างใดต้องคอยขืนพวงมาลัยกลับมาให้ตรงทิศทางให้ได้ จนกว่ารถจะเข้าข้างทางได้เรียบร้อย

-มีสัตว์ขวางทาง
มีสัตว์วิ่งตัดหน้า หรือขวางทาง ควรลดความเร็ว แล้วตรึงพวงมาลัย จับให้มั่น แต่ไม่ควรเบรกอย่างรุนแรง หรือหักหลบทันที เพราะอาจทำให้รถยนต์พลิกคว่ำได้ และไม่ควรหักหลบในช่องทางที่รถยนต์แล่นสวนมา หากไม่รีบเร่ง ควรปล่อยให้สัตว์เหล่านั้นเดินจนพ้นจากถนน ไม่ควรบีบแตรไล่ เพราะอาจทำให้สัตว์ตกใจและหันมาทำอันตราย หรือยืนขวางทาง
การแซงควรเลี้ยวไปทางด้านหลังของสัตว์ เพราะการตัดหน้าจะทำให้สัตว์ตกใจและเตลิด อาจจะทำอันตรายกับรถยนต์ในช่องทางอื่นได้

-มีรถวิ่งสวนเข้ามาในเลน
ขั้นแรกควรลดความเร็วลง แต่อย่ามากเกินไป จนทำให้รถยนต์คันที่ตามมาด้านหลังชนได้ มองกระจกด้านซ้ายเพื่อหาทางหนีทีไล่ พร้อมกะพริบไฟสูงและบีบแตรเตือน เบี่ยงออกทางเลนซ้าย ไม่ควรหลบข้ามเลนเลยไปในช่องทางของรถยนต์แล่นสวนมา เพราะบ่อยครั้งคนขับเพิ่งรู้สึกตัวแล้วหักหลบกลับเข้ามายังเลนเดิม จนทำให้เกิดการชนกันได้

Advertisement

-คันเร่งค้าง
ให้ใช้เบรกช่วยชะลอความเร็วโดยไม่ต้องแตะคลัตช์ ให้ใช้คลัตช์เฉพาะเปลี่ยนเกียร์เท่านั้น เพื่อช่วยลดความเร็วลงเมื่อจำเป็น และประคองรถมาเรื่อยๆ โดยใช้เบรกหลายๆ ครั้งในกรณีเครื่องยนต์รอบไม่จัด เมื่อรถยนต์ลดความเร็วมาถึงอัตราปลอดภัยแล้ว ให้ใช้ปลายเท้าขวาสอดเข้าใต้คันเร่งแล้วดันขึ้น ถ้าคันเร่งไม่ขึ้นก็ให้พารถยนต์เข้าข้างทางด้วยการปิดสวิตช์การทำงานของเครื่องยนต์ แต่ต้องให้รถยนต์มีความเร็วช้าๆ และต้องใช้เบรกมือช่วยชะลอความเร็ว
ข้อควรระวัง การปิดสวิตช์กุญแจ ควรปิดมาตำแหน่ง OFF อย่าปิดมาที่ตำแหน่งล็อก LOCK เพราะพวงมาลัยจะถูกล็อกทำให้ไม่สามารถบังคับรถยนต์ได้

-ล้อหลุด
สาเหตุมักเกิดจากนอตล้อหลุด และรถจะเสียการทรงตัวส่ายไปมา กรณีนี้ต้องใช้เบรกฉุกเฉินและถือพวงมาลัยให้มั่นคง บังคับไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับรถที่ส่าย และนำรถเข้าข้างทางเพื่อแก้ไข เราสามารถถอดนอตจากล้ออื่นๆ อย่างละ 1 ตัว มาใส่ยึดล้อข้างที่หลุด เพื่อแทนที่นอตล้อตัวที่หลุดไป แล้วใช้ช่างแก้ไขเมื่อถึงอู่ที่อยู่ใกล้ที่สุด

-รถหลุดออกจากทางวิ่ง
อาจเป็นเพราะหักลบสิ่งกีดขวางอย่างกะทันหัน ทำให้รถยนต์ไถลออกนอกเส้นทางเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ควรตั้งสติให้มั่น ไม่ควรเหยียบเบรกอย่างแรง เพราะอาจทำให้ล้อล็อก หรือลื่นไถลจนรถยนต์เสียการทรงตัวได้
วิธีที่ถูกต้องควรลดความเร็วด้วยการแตะเบรกแล้วปล่อย พร้อมกับลดจังหวะเกียร์ เพื่อใช้เครื่องยนต์ช่วยชะลอความเร็วอีกเล็กน้อย และควรมองหาที่ราบไม่มีสิ่งกีดขวางเพื่อจอดรถ นอกจากนั้น สายตายังต้องมองทางข้างหน้าเพื่อหลบสิ่งกีดขวาง ไม่ควรหักหลบทันที เพราะรถยนต์อาจพลิกคว่ำได้

-เครื่องยนต์ร้อนจัด
จะมีไฟเตือนโชว์ขึ้นมาหรือเข็มวัดอุณหภูมิสูงถึงตัว H ย่อมแสดงว่าเกิดความผิดปกติในระบบระบายความร้อน ให้รีบนำรถเข้าข้างทางเปิดไฟฉุกเฉิน ห้ามเปิดฝาหม้อน้ำในทันที เพราะภายในหม้อน้ำร้อนจัดจะมีแรงดันสูงน้ำร้อน อาจพุ่งขึ้นเป็นอันตรายได้ ตรวจดูสภาพหม้อน้ำ ตรวจสภาพสายพาน ตรวจสภาพพัดลมระบายความร้อนและอื่นๆ ติดต่ออู่หรือศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุด

-สิ่งของตกกีดขวางอยู่บนถนน
ไม่ควรแล่นทับ เพราะอาจทำให้เกิดอันตราย หรือเกิดความเสียหายได้ ควรลดความเร็วลง หากช่องทางทั้งซ้าย-ขวาที่ไม่มีรถยนต์แล่นตามหลังมาให้หักหลบ พยายามเบี่ยงให้น้อยที่สุด เพราะการหักหลบมากๆ ขณะความเร็วสูง อาจทำให้รถยนต์หมุน หรือปัดส่ายไปมาได้ หากเลี่ยงไม่ได้หลังการทับหรือชน ควรจอดรถแล้วตรวจสอบชิ้นส่วนใต้ท้องรถยนต์ว่าเสียหายหรือไม่ เช่น คันชักคันส่ง, ท่อส่งน้ำมันเชื้อเพลิง, ถังน้ำมันเชื้อเพลิง, ยางล้อ เป็นต้น

-ฝากระโปรงหน้ารถยนต์เปิดบัง
รีบหยุดรถ แต่อย่าให้กะทันหันเกินไป เพราะรถยนต์คันหลังอาจตามมาติดๆ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ควบคุมสติอย่าตกใจ รีบนำรถยนต์เข้าข้างทาง ชะลอความเร็วของรถยนต์ และตรวจเช็กล็อกฝากระโปรงหน้าให้เรียบร้อย

ช่างเซียน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image