เสียงร้องถึงภาครัฐ เปิดสาดน้ำ-ปลุกเศรษฐกิจ

หมายเหตุ ความเห็นภาคเอกชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรณีกลุ่มเครือข่ายผู้ประกอบการถนนคนเดินหลายจังหวัด เรียกร้องให้ ศบค.พิจารณาผ่อนปรนพื้นที่กิจกรรมให้เล่นสาดน้ำในเทศกาลสงกรานต์เหมือนที่เคยทำเพื่อรับการท่องเที่ยวและให้เศรษฐกิจท้องถิ่นเดินหน้าต่อไปได้

กิตติ พรศิวะกิจ
นายกสมาคมการตลาดท่องเที่ยวไทย

ขณะนี้ธุรกิจเกี่ยวกับท่องเที่ยวทั่วประเทศกำลังติดตามการผ่อนคลายใน 3 เรื่อง คือ ข้อเสนอให้รัฐบาลผ่อนปรนการเล่นน้ำในช่วงสงกรานต์ ข้อเสนอผ่อนปรนจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงบ่ายถึง 23.00 น. และการผ่อนปรนให้จัดงานอีเวนต์ หรือออกบูธจำหน่ายสินค้าในแหล่งเล่นสงกรานต์ ว่า ทั้ง 3 เรื่องนี้ รัฐบาลจะกำหนดออกมาในทิศทางใด และสามารถดำเนินการได้ทันก่อนเข้าช่วงสงกรานต์หรือไม่

Advertisement

สำหรับในเรื่องข้อเสนอผู้ประกอบการสมาคมถนนคนเดินอยากให้ผ่อนปรนเรื่องการสาดน้ำในช่วงสงกรานต์นั้น สมาชิกสมาคมเห็นด้วยที่จะให้จัดกิจกรรมจัดงานสงกรานต์ แต่การสาดน้ำนั้นอยากให้ปรับวิธีการเล่นน้ำ โดยขอให้ยึดไม่สาดน้ำแรงจนเปียกไปทั้งตัว ควรเป็นการสาดน้ำโดนบางส่วน เช่น แขน ขา หรือลำตัว ที่ไม่ถึงบริเวณคอหรือหน้า เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคและแพร่ระบาดของเชื้อโควิด และใช้โอกาสฟื้นประเพณีการเล่นน้ำสงกรานต์ และรณรงค์ให้เด็กรุ่นใหม่ ได้รู้ว่าสาดน้ำเล่นน้ำแท้จริงนั้นไม่จำเป็นต้องสาดให้เปียกทั้งตัว

เรายังอยากให้มีประเพณีการเล่นน้ำแต่ไม่ควรเล่นแบบเดิมๆ ช่วงหลายปีที่ผ่านมาค่อนข้างจะเล่นกันหนัก รวมถึงอุปกรณ์เล่นน้ำ อย่างปืนฉีดน้ำ ก็ควรยืดหยุ่นให้เล่นปืนฉีดน้ำแรงดันน้อยๆ เพราะถ้าไม่มีกิจกรรมเลย บรรยากาศสงกรานต์อาจหงอยไปเลย

มุมมองต่อบรรยากาศส่งกรานต์ปีนี้ ต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกคนไทยเที่ยวไทยคาดว่าการเดินทางจะดีกว่า 2 ปีก่อน แต่เป็นการเดินทางเพื่อการกลับบ้านภูมิลำเนาและแวะท่องเที่ยวระหว่างทางเล็กน้อย ไม่ได้เจาะจงเหมือนในอดีตก่อนเกิดการระบาดของโควิดคนยังกังวลเรื่องการแพร่ระบาด และปัจจัยเรื่องค่าใช้จ่าย ยังมองเรื่องการระมัดระวังใช้จ่ายมากที่สุด

Advertisement

ส่วนที่สองต่างชาติเที่ยวไทยจากการที่รัฐบาลเปิดประเทศและผ่อนคลายเรื่องการตรวจโควิด มีผลต่อการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเริ่มหันมาเที่ยวในไทยมากขึ้น คาดว่าในเดือนเมษายนที่ตรงกับเทศกาลสงกรานต์และโปรแกรมห้องพักของไทยยังไม่สูงขึ้น น่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทยเดือนเมษายนกว่า 3 แสนคน มากกว่า 3 เดือนแรกปีนี้เฉลี่ยประมาณเดือนละ 1 แสนคน โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง นักท่องเที่ยวเอเชียเริ่มดีขึ้น อาทิ อินเดีย หรือซาอุดีอาระเบีย หลังฟื้นสัมพันธ์กับไทย มีสัญญาณว่าจะเดินทางมาเที่ยวไทยเพิ่มอีก 10 เท่าจากจำนวนต่อปี 3 หมื่นคน จะเพิ่มเป็น 3 แสนคน

ที่น่าจับตา คือ กำลังซื้อกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทย มีการพักในไทยนานขึ้นและยอมใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากเดิมกว่า 1 เท่าตัว จากข้อมูลเดิมพบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติจะใช้เงินต่อครั้งต่อคนกับการมาพักผ่อนและท่องเที่ยวในไทยเฉลี่ย 5 หมื่นบาท แต่ปัจจุบันเพิ่มเป็นเฉลี่ย 8 หมื่นบาท ถือเป็นมูลค่าสูงสุดเท่าที่เคยสำรวจตัวเลขไว้

อีกทั้งพบว่า นักท่องเที่ยวเข้าพักในไทยนานขึ้นถึงเฉลี่ย 12 คืนต่อครั้ง จากเดิม 8-9 คืน มูลค่าใช้จ่ายและจำนวนพักที่สูงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สะท้อนว่า ไทยเป็นประเทศปลายทางที่นักท่องเที่ยวนิยม ซึ่งแหล่งเที่ยวไทย 3 แหล่งที่ทั่วโลกนิยมมากสุด คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต

อีกเรื่องที่ภาคเอกชนและสมาคมท่องเที่ยว อยากให้รัฐเร่งพิจารณาและติดตามอย่างใกล้ชิด คือ ยกเลิกไทยแลนด์พาส (Thailand Pass) และขั้นตอนการตรวจเชื้อเพื่อให้อำนวยความสะดวกต่อการท่องเที่ยวของต่างชาติ โดยทางสมาคมอยากให้เริ่มตั้งแต่ 1 พฤษภาคม เร็วกว่าที่รัฐกำหนดไว้ 1-2 เดือน และให้ประกาศตั้งแต่ 1 เมษายนเลย เพื่อให้การประชาสัมพันธ์ต่อการท่องเที่ยวทั่วโลกได้รับรู้ จะช่วยส่งเสริมให้ไทยบรรลุเป้าหมายการกระตุ้นนักท่องเที่ยวมาไทยปี 2565 ไม่น้อยกว่า 12 ล้านคน โดยเฉลี่ยต่อเดือนตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 ไม่ต่ำกว่า 3-4 แสนคน และหากรัฐสามารถประกาศยกเลิกมาตรการต่างๆ และกระตุ้นนักท่องเที่ยวเข้าไทย มีโอกาสทั้งปีนี้จะฟื้นการท่องเที่ยวจากต่างชาติมาไทยกว่า 40% ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 หรือประมาณ 16 ล้านคน ซึ่งมูลค่าใกล้เคียงปี 2562 ปีนี้มีจำนวน 40 ล้านคน มูลค่า 2 ล้านล้านบาท เฉลี่ยใช้จ่ายประมาณ 5 หมื่นบาท แต่ตอนนี้เฉลี่ยถึง 8 หมื่นบาท เป้าหมายนี้ไม่น่าจะเกินคาดหวัง เปรียบเทียบกับสถานการณ์การเปิดประเทศของมัลดีฟส์ ดูไบ และตุรกี ในปี 2564 พบว่าช่วยฟื้นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 77% 50% และ 35% ตามลำดับ หากไทยเปิดประเทศก็เชื่อว่าจะฟื้นได้ 40% ไม่ได้เป็นตัวเลขที่เกินความเป็นจริง

ก็เหลือความหวัง อยากให้รัฐบาลประกาศแผนเปิดประเทศภายในวันที่ 15 เมษายน โดยการยกเลิกมาตรการและขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม เพื่อให้ภาคเอกชนได้เตรียมตัวเปิดรับนักท่องเที่ยว ยิ่งรวมกับรัฐผ่อนปรนกิจกรรมความบันเทิงตามเทศกาล เริ่มจากสงกรานต์ ก็เชื่อได้ว่าบรรยากาศเที่ยวไทยจะดีขึ้นตั้งแต่สงกรานต์

ธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์
นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น

สําหรับทางเทศบาลนครขอนแก่นและภาคีเครือข่ายร่วมกันจัดงานสงกรานต์ปีนี้ ใช้ชื่อนำ “สุดยอดสงกรานต์อีสาน เทศกาลดอกคูณ เสียงแคน และถนนข้าวเหนียว” ซึ่งเป็นชื่อเดิม เพียงแต่ว่าคอนเซ็ปต์การจัดงานปีนี้ ตั้งชื่องานใหม่ว่า “สงกรานต์ นฤมิต เสริมจิต สร้างบุญ” เน้นไปทางประเพณีใช้บุญนำหน้า ขณะเดียวกันได้เพิ่มเทคนิค AR บางอย่างเข้ามาเพื่อให้การสาดน้ำและประแป้งผ่านออนไลน์ ไม่ใช่การสาดน้ำประแป้งจากของจริง เพื่อเป็นกิมมิคให้มีบรรยากาศได้สนุกบ้างแต่ไม่ได้ให้มาประแป้ง เล่นน้ำกันจริงๆ

หลักๆ ของเทศบาลนครขอนแก่นจะมีพิธีทำบุญตักบาตรในตอนเช้า วันที่ 13 เมษายน 2565 ที่ ศาลหลักเมือง สรงน้ำพระพุทธรูป อัญเชิญพระพุทธรูปจาก 9 วัด และจัดงานทางด้านประเพณีตกประทาย หรือก่อเจดีย์ทราย 9 วัด โดยให้พี่น้องประชาชนกระจายตัวกันออกมา ไม่ใช่มารวมกันที่เดียว ขณะเดียวกันจะมีกิจกรรมตกประทาย คือการขอพรผู้สูงอายุ จะเชิญผู้สูงอายุมา แต่ไม่ได้ให้มีการรดน้ำ

สำหรับถนนคนเดินที่เทศบาลนครขอนแก่นดูแลอยู่ ได้จัดในทุกวันเสาร์อยู่แล้ว โชคดีว่าคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่นเห็นชอบให้ดำเนินการได้ตามปกติ ที่ผ่านมาค้าขายได้เพียงแต่ต้องจัดตามมาตรการทางด้านสาธารณสุข คือการจัดล็อกเว้นล็อก จัดแถวคอยที่เหมาะสม การมีแผงพลาสติกกั้น การใส่ถุงมือการใส่หน้ากากอนามัย มีจุดคัดกรองเหล่านี้ให้ครบครอบคลุมถนนคนเดิน ก็สามารถค้าขายได้

สำหรับเทศกาลสงกรานต์คิดว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม บางพื้นที่ที่เคยประกาศห้ามเปิดถนนคนเดิน ก็อยากจะให้มีการเปิดให้มีการค้าขายกัน เพื่อรองรับคนที่เดินทางกลับบ้านและนักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเดินเที่ยว กำหนดเป็นมาตรการทางด้านสาธารณสุขที่เหมาะสมสำหรับในแต่ละพื้นที่แต่ละบริบทไป

สำหรับการปลดล็อกสงกรานต์ขอสาดน้ำด้วยนั้น ผมก็หนักใจแทน ศบค.อยู่เหมือนกัน เพราะว่าการอนุญาตให้เล่นสาดน้ำ หรือแม้กระทั่งมีการจัดงานรื่นเริง หรือคอนเสิร์ตเหล่านี้ เป็นเรื่องล่อแหลมกับความรู้สึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคนจัด และเกิดเป็นคลัสเตอร์ติดโควิดขึ้นมา ก็จะต้องแบกรับคำครหา แต่บางแห่งก็จำเป็นจะต้องทำ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปเยือน คิดว่ากิจกรรมนั้นอาจจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ อยากจะบอกว่าถ้าจะมีการอนุญาตให้จัดก็ให้กำหนดเป็นมาตรการทางด้านสาธารณสุข ให้มีแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน เพื่อเกิดความปลอดภัยกับพี่น้องประชาชน

ในส่วนของเทศบาลนครขอนแก่น ร่วมกับจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับเครือข่ายทางด้านสาธารณสุข เราพยายามรณรงค์ให้กลุ่ม 608 สามารถฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ให้ได้มากที่สุด เพื่อรองรับการกลับบ้านของลูกหลาน ไม่เช่นนั้นแล้วเกิดติดขึ้นมากลุ่ม 608 กลุ่มผู้สูงอายุ ก็จะมีปัญหาทางด้านสุขภาพ เราเร่งรณรงค์ในเรื่องนี้

ส่วนอีกเรื่องหนึ่งการจัดงานของเทศบาลนครขอนแก่นจะไม่มีการเล่นน้ำ จะไม่อนุญาตให้เล่นน้ำ และจะไม่มีคอนเสิร์ต เน้นเป็นประเพณีกระจายตัวกันจัดไปในพื้นที่ต่างๆ เพื่อลดความคับคั่งของผู้คน และเสริมมาตรการทางด้านสาธารณสุขโดยเฉพาะใน 9 วัด ที่จะจัดงานตกประทายก็จะมีการสุ่มตรวจเอทีเคด้วย

อย่างไรก็ตาม หาก ศบค.พิจารณาสามารถให้จัดกิจกรรมสงกรานต์ได้ คงต้องมาดูว่ากิจกรรมที่อนุมัติสามารถจัดอะไรได้บ้าง ขณะเดียวกันก็ต้องเป็นไปตามบริบทของแต่ละพื้นที่ ถึงแม้จะเป็นกรอบ แต่ก็ไม่คิดว่าในกรอบนี้จะจัดได้เหมือนกันทั้งประเทศ แต่ก็ยินดีถ้าจะมีมาตรการที่ผ่อนคลายออกมาให้หลายชีวิตได้เดินหน้าต่อให้พี่น้องผู้ประกอบการสามารถกลับมาค้าขายได้บ้าง เรื่องนี้เป็นเรื่องสาระที่สำคัญด้วย

พัลลภ แซ่จิว
ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
จังหวัดเชียงใหม่

สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัด สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัด ร่วมกับเทศบาลนครเชียงใหม่ จัดกิจกรรม
ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง โดยประชุมร่วมกัน 2 ครั้ง ซึ่งกิจกรรมคงเหมือนกับปีที่แล้ว แต่เพิ่มกิจกรรมถนนคนเดินวันศุกร์ หรือฟินน์เดย์ ที่ถนนช้างคลาน ย่านไนท์บาซาร์ ซึ่งตรงกับวันที่ 15 เมษายนนี้ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยเสนอไปยัง ศบค.จังหวัด พิจารณาผ่อนผันเล่นสาดน้ำสงกรานต์ได้

ถนนคนเดินวันศุกร์ถือเป็นกิจกรรมที่เพิ่มพื้นที่งานสงกรานต์เชียงใหม่ที่สามารถเล่นสาดน้ำสงกรานต์ได้ เพราะเป็นพื้นที่ควบคุมและจำกัดผู้ร่วมงานได้ ภายใต้มาตรการเฝ้าระวังและคัดกรองอย่างเข้มงวด ส่วนกิจกรรมปี๋ใหม่เมืองของเทศบาล ได้เสนอไปยัง ศบค.จังหวัดพิจารณาแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา ต้องรอให้ทางจังหวัดและสาธารณสุข ประกาศเป็นทางการ
ก่อน เนื่องจากต้องชี้แจงแผนและการบริหารการจัดงานภายใต้ คำสั่ง ศบค.ชุดใหญ่ด้วย

อย่างไรก็ตาม ทางเทศบาลมีแผนจัดงานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองที่วัดต่างๆ รอบคูเมือง เน้นวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น ไม่ใช่งานสนุกสนานรื่นเริง เนื่องจากเป็นพื้นที่สาธารณะและรักษาระยะห่าง ดังนั้น ภาคเอกชนพยายามผลักดันให้เล่นน้ำสงกรานต์บางพื้นที่ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างสีสันงานไม่ให้เงียบเหงาเกินไป ถ้าห้ามจัดงาน หรือเล่นสาดน้ำ ทุกอย่างจบ ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ และส่งผลกระทบต่อการวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวได้ อาจไปเที่ยวที่อื่น ที่สามารถเล่นสาดน้ำได้แทน

ปีนี้ภาพรวมการจองห้องพัก เป็นตัวเลขที่ไม่สวย ยังต่ำกว่า 10% ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ มีจองที่พักล่วงหน้าแล้ว 40-50% ดังนั้น ยังไม่สามารถประเมินรายได้ หรือเงินหมุนเวียนได้ เนื่องจากต้องรอ ศบค.อนุญาตจัดกิจกรรมดังกล่าวก่อน ถ้าห้ามสาดน้ำเลย มีผลต่อธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่มาก ทั้งโรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร รถเช่า ของที่ระลึก อาจสูญเสียรายได้นับร้อยล้านบาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image