ภูมิรัฐศาสตร์กับสงครามรัสเซีย-ยูเครนในปัจจุบัน

วิชาภูมิรัฐศาสตร์ประกอบด้วย 3 วิชาหลัก คือวิชารัฐศาสตร์เป็นหลักและวิชาภูมิศาสตร์กับวิชาวิทยาการทหาร (Military science) ซึ่งวิชารัฐศาสตร์เน้นการศึกษาเรื่องอำนาจ แต่วิชารัฐศาสตร์ไม่มีวิธีวิทยาเป็นของตัวเอง ต้องยืมวิธีวิทยาของวิชาอื่นๆ มาใช้ศึกษาเรื่องของอำนาจ เริ่มจากวิธีวิทยาของวิชาปรัชญา ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ วิทยาศาสตร์ จิตวิทยา สังคมวิทยา มานุษยวิทยาและพฤติกรรมศาสตร์ โดยเลือกใช้วิธีวิทยาตามความเหมาะสมของเนื้อหาของเรื่องที่จะต้องศึกษาในแง่ของอำนาจนั่นเอง

สำหรับวิชาภูมิศาสตร์คือการศึกษาเกี่ยวกับโลก เป็นสาขาวิชาทางวิทยาศาสตร์ที่มุ่งเน้นถึงการศึกษาเกี่ยวกับพื้นแผ่นดิน ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ประชากร และปรากฏการณ์บนโลกโดยมุ่งเน้นความเข้าใจเกี่ยวกับโลกและความซับซ้อนระหว่างมนุษย์และธรรมชาติที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่เฉพาะแต่ในรูปธรรมแต่ยังรวมถึงความเป็นมาและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ภูมิศาสตร์เป็นตัวเชื่อมระหว่างมนุษย์และวิทยาศาสตร์กายภาพ

ส่วนวิชาวิทยาการทหาร คือการศึกษาถึงเรื่องสถาบันทหาร กระบวนการการดำเนินงานของทหารและพฤติกรรมของทหารเพื่อที่จะได้สามารถแยกแยะยุทธศาสตร์ การเมือง เศรษฐกิจ สังคม จิตวิทยา เทคโนโลยี การดำเนินการ และยุทธวิธี เพื่อที่จะทรงความเหนือกว่าทางด้านการทหารเพื่อที่จะในไปใช้ในยามสงคราม หรือความได้เปรียบในการต่อรองยามสงบ

ครับ ! สำหรับสงครามยูเครน-รัสเซีย ที่ดำเนินมาเข้าเดือนที่ 8 แล้วปรากฏว่ากำลังทหารของยูเครนกำลังรุกกลับคืนรุดหน้าไปยึดดินแดนที่ถูกรัสเซียใช้กำลังทหารเข้ายึดครองไปถึง 18% ของดินแดนยูเครนเมื่อตอนเริ่มสงครามใหม่ๆ ในแนวรบทั้งทางด้านทิศตะวันออกและทิศใต้กลับคืนมาได้เป็นจำนวนหลายพันตารางกิโลเมตร ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงศักดิ์ของสงครามแล้วต้องยอมรับว่าทหารของยูเครนเป็นทหารที่มีคุณภาพเหนือกว่าทหารรัสเซียมากทีเดียว เมื่อพิจารณาถึงขวัญกำลังใจที่พร้อมสู้รบอย่างฮึกเหิมและมียุทธวิธีในการรบที่ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดีจากหลักนิยมของทหารจากองค์การนาโตที่มีการกระจายอำนาจการบังคับบัญชาลงไปถึงระดับหมู่ ระดับหมวด ให้ตัดสินใจปฏิบัติการในสถานการณ์เฉพาะหน้าในสนามรบได้โดยอิสระ ตรงกันข้ามกับทหารรัสเซียที่มีการสั่งการตามลำดับขั้นทำให้การตัดสินในสนามรบยาวและช้าเกินกว่าเหตุ ซึ่งผู้บังคับบัญชาระดับสูงจำเป็นต้องอยู่ใกล้กับสนามรบทำให้นายทหารระดับแม่ทัพและนายทหารระดับชั้นนายพลต้องเสียชีวิตไปเป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว

ADVERTISMENT

ตามหลักของวิทยาการทหารได้บ่งบอกความสำคัญสุดยอดในองค์ประกอบของการรบของทหารยูเครนคือระบบส่งกำลังบำรุงที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพเหนือกองทัพทุกกองทัพในโลกของสหรัฐอเมริกา ที่ทำให้กองทัพของยูเครนสามารถรบรุกไล่กองทัพรัสเซียให้ถอนร่นไปได้ทุกสมรภูมิดังตัวอย่างที่เป็นประจักษ์พยานแบบไม่มีใครอ้าปากเถียงได้ในความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพของกองทัพอเมริกันในการส่งกำลังบำรุง ในกรณีตัวอย่างที่ทางการอเมริกันสามารถส่งปืนใหญ่อัตตาจรฮาวอิตเซอร์น้ำหนัก 27.5 ตัน กระสุนขนาด 115 มิลลิเมตร แยกบรรจุที่อยู่ในโกดังของมลรัฐแคนซัส สหรัฐอเมริกา มายังแนวรบหน้าสุดในยูเครนโดยใช้เวลาน้อยกว่าการส่งจดหมายจากประเทศโปแลนด์ ซึ่งมีพรมแดนติดต่อกับยูเครนมาถึงประเทศยูเครนเสียอีก

เนื่องจากสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ให้ความช่วยเหลือยูเครนในการรบกับรัสเซียมาตั้งแต่เริ่มแรก และได้ส่งอาวุธและเงินตลอดมาช่วยเหลือยูเครนมากที่สุดยิ่งกว่าทุกประเทศที่ให้ความช่วยเหลือยูเครนรวมกันทั้งหมดเสียอีก ดังนั้นจุดแข็งในสงครามที่สหรัฐอเมริกาทำการรบได้รับชัยชนะไม่ว่าจะเป็นสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือสงครามอิรัก พ.ศ.2546 เมื่อกองทัพรถถังอเมริกันต้องบุกจากคูเวตไปยังกรุงแบกแดดที่มีระยะประมาณ 500 กิโลเมตร ผ่านทะเลทรายเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์เพื่อมาเผชิญกับกองทัพที่ดีที่สุดของอิรักตั้งแนวรบตอบโต้แต่กองทัพอเมริกันสามารถทำลายกองทัพริพับลิกันการ์ดของอิรักได้ยับเยินภายใน 48 ชั่วโมง โดยทหารฝ่ายอเมริกันตายและบาดเจ็บระหว่าง 50-100 เท่านั้น

ADVERTISMENT

ครับ ! ทางการอเมริกันต้องส่งกำลังบำรุงให้กับกองทัพครึ่งล้านคนมายังคูเวตซึ่งห่างจากดินแดนอเมริกาที่ใกล้ที่สุดกว่า 10,000 กิโลเมตร และยังต้องส่งกำลังบำรุงอันได้แก่อาหาร น้ำมันเชื้อเพลิง กระสุน จรวด และอาวุธสำรองอีกจำนวนมหาศาลผ่านทะเลทรายที่ไกลถึง 500 กิโลเมตรอย่างมีประสิทธิภาพด้วยความสามารถของกองทัพอเมริกันในการส่งกำลังบำรุงนี้เองที่เป็นส่วนสำคัญในการรุกรบของกองทัพยูเครนในขณะนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image