| ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
|---|
การปรับคณะรัฐมนตรีในกระทรวงเศรษฐกิจนั้นมีสัญญาณบ่งบอกว่า ต้องการทำให้ทีมเศรษฐกิจปราศจากกลิ่นอายท็อปบู๊ต
รายนามรัฐมนตรีใหม่จึงไม่มีนายทหารนายตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง
ยิ่งเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแสดงเจตนา อยากให้รัฐมนตรีแบ่งเบางานสำคัญที่รองนายกรัฐมนตรีทำอยู่
ยิ่งมองเห็นความพยายามในการ “ล้างภาพ”
ล้างภาพ “ทหาร” ให้เป็นภาพ “พลเรือน”
แต่ภาพ “พลเรือน” ที่ปรากฏ ทุกคนล้วนแล้วมีความเป็นมา
ส่องกล้องมองไปที่รัฐมนตรีใหม่ 4 คน
พบว่า นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
และ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี
ขณะที่ น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้น
มีข่าวว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จองตัวไว้
ส่องกล้องมองไปที่รัฐมนตรีที่เปลี่ยนแปลงเก้าอี้
พบว่า นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ ที่เคยนั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แล้วเปลี่ยนเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น
ได้รับมอบหมายภารกิจพิเศษจากนายสมคิด
ให้ดูแลภาพรวมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 4.0 ซึ่งรัฐบาลหมายมั่นปั้นมือ
ขณะที่ นางอรรชกา สีบุญเรือง ซึ่งได้รับการชักชวนจากนายสมคิดให้เข้าร่วม ครม.
แม้จะพ้นจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมไป
แต่ตำแหน่งที่ยังเกาะกุมอยู่ก็เป็นระดับว่าการ … เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ถือว่าไม่ย่ำแย่
เช่นเดียวกับ นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ ที่พ้นจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯแต่ก็ได้เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นกระทรวงที่ “อัพเกรด” มาจากกระทรวงไอซีที
ถือว่าได้รับความไว้วางใจให้ไปบุกเบิกงาน “ดิจิทัล”
แต่สำหรับ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ซึ่งฝ่ายทหารชักชวนให้มาช่วยงานคณะรัฐมนตรี
คราวนี้หลุดจากเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ไปเป็นรัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี
ยังไม่ทราบว่า จะได้รับมอบให้ทำงานอะไร
เมื่อสังเกตจากความเป็นมาของบรรดารัฐมนตรีเศรษฐกิจชุดที่เพิ่งปรับ ครม.ใหม่
พบว่าแม้จะเป็นรัฐมนตรีที่เป็น “พลเรือน” แต่ก็แบ่งเป็น “พลเรือน” ที่มาจากความซี้ปึ้กกับนายสมคิด
และ “พลเรือน” ที่มาจากฝ่ายทหาร
น่าสงสัยว่า ในจำนวนรัฐมนตรีเศรษฐกิจที่มีการปรับปรุง รัฐมนตรีที่ได้ชื่อว่าเป็นสายสมคิดมี 5 คน
จำนวน 5 คน เป็นรัฐมนตรีว่าการ 2 คน คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
1 คนเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่ดูแลเศรษฐกิจ 4.0
อีก 2 คน เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
ถือว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้ “พลเรือน” สายนายสมคิดคึกคัก
เริ่มกระชับพื้นที่
อย่างไรก็ตาม การปรับคณะรัฐมนตรีในส่วนของกระทรวงเศรษฐกิจครั้งนี้
ดูเหมือนว่า ฝ่ายทหารยังไม่ปล่อยวางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
กระทรวงดิจิทัล มี นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ ซึ่งคลุกคลีอยู่กับฝ่ายทหาร นั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการ
ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังมีรัฐมนตรีว่าการชื่อ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ
แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีข่าวความขัดแย้งระหว่างนายสมคิดกับ พล.อ.ฉัตรชัย
ขัดแย้งกันจนกระทั่งมีข่าวว่าทำงานร่วมกันได้ยาก
ขัดแย้งกันจนต้องมี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีลงไปช่วยเหลือ
แต่ทุกอย่างยังคงสภาพเดิม
แม้การปรับ ครม.ครั้งนี้ดูเหมือนว่า นายสมคิดจะขยับพื้นที่เข้าคุมงานเศรษฐกิจมากขึ้น
แต่สำหรับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มี พล.อ.ฉัตรชัยนั่งอยู่….
นายสมคิดยังไม่อาจแตะต้อง
