ในช่วงเปิดเทอมใหญ่เดือนพฤษภาคมของทุกปี จะเป็นช่วงที่ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการศึกษารวมทั้งค้าปลีกขนาดใหญ่ทำการตลาด กระตุ้นกำลังซื้อหรือการใช้จ่ายจากผู้ปกครองกันอย่างคึกคักเพราะกำลังซื้อลูกค้ากลุ่มนี้มีเป็นจำนวนมากแม้ว่าจะมีการซื้อเพียงปีละครั้ง 2 ครั้งเท่านั้น
จากปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษาจัดแคมเปญเพื่อดูดซับกำลังซื้อให้ได้มากที่สุด ซึ่งจากการรวบรวมแคมเปญของกลุ่มผู้ประกอบการพบว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
เริ่มกันที่ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ได้มีการนำสินค้าชุดนักเรียนเครื่องใช้และอุปกรณ์เครื่องเขียนกว่า 7,000 รายการ มามอบส่วนลดสูงสุด 50% ผ่านแคมเปญ “ต้อนรับเปิดเทอม ช้อปครบสุดคุ้มกับบิ๊กซี” รับฟรีคูปองท้ายใบเสร็จมูลค่ารวม 200 บาท
นางวิภาดา ดวงรัตน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ กล่าวว่า ได้นำสินค้าเครื่องแบบนักเรียน และสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นมาลดราคา เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้ผู้ปกครองโดยจัดเตรียมสินค้าระดับต่างๆ ไว้รองรับ เช่น สำหรับระดับอนุบาล ชุดนักเรียนเริ่มต้น 59 บาท รองเท้าเริ่มต้น 99 บาท, ระดับประถมศึกษา ชุดนักเรียนเริ่มต้น 79 บาท รองเท้าเริ่มต้น 199 บาท, ถุงเท้านักเรียนเริ่มต้น 12 บาท ชุดชั้นในเด็กเริ่มต้นที่ 19 บาท และสินค้ากลุ่มอุปกรณ์กีฬาสำหรับนักเรียน กระเป๋านักเรียน อุปกรณ์เครื่องเขียนอีกมากมาย โดยหวังกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มขึ้นราว 10-15%
นอกจากนี้ยังให้สิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรบิ๊กการ์ด รับทันทีคูปองส่วนลดต้อนรับเปิดเทอม เมื่อซื้อสินค้าแผนกรองเท้าครบ 350 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ รับฟรี คูปองส่วนลดท้ายใบเสร็จมูลค่า 100 บาท เพื่อใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าชุดนักเรียน กระเป๋านักเรียน และ (ยกเว้นกระดาษถ่ายเอกสาร) ในครั้งถัดไป โดยมียอดซื้อขั้นต่ำ 500 บาทขึ้นไป นอกจากนี้สามารถผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการในอัตราดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 10 เดือน เมื่อซื้อชุดนักเรียน เครื่องเขียน และอุปกรณ์การเรียน
ขณะที่ฝั่ง เทสโก้ โลตัส ก็ไม่น้อยหน้า โดยได้ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์จัดแคมเปญ “รวมใจ เพิ่มสุข ช้อปสนุก ลดรับเปิดเทอม” โดยนำสินค้ากว่า 1,000 รายการ มาลดราคาสูงสุด 50% เช่น ราคาชุดนักเรียน เริ่มต้นที่ 59 บาท ซึ่ง นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า เทสโก้ โลตัส ให้ความสำคัญกับการลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเปิดเทอม ซึ่งต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายสำหรับการศึกษาของลูกหลานเพิ่มขึ้น จึงยังตรึงราคาสินค้าต้อนรับเปิดเทอมกว่า 1,000 รายการ โดยเฉพาะชุดนักเรียนมีการเพิ่มความหลากหลายของแบรนด์ชุดนักเรียน สินค้าลิขสิทธิ์การ์ตูนดัง อาทิ กลุ่มรองเท้า ชุดชั้นในเด็ก อุปกรณ์การเรียน ฯลฯ อย่างถุงเท้าเทสโก้แบรนด์ แอสซายน์แพค 3 คู่ ราคา 45 บาท จาก 63 บาท เป็นต้น พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุดถึง 600 บาท เมื่อช้อปผ่านเทสโก้ โลตัส วีซ่า ที่เทสโก้ โลตัสทุกสาขา และเทสโก้ โลตัส ช้อป ออนไลน์ด้วย
ส่วนทางด้าน แม็คโคร ก็ได้ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จัดแคมเปญ Back to School เช่นกัน โดยได้นำสินค้า เครื่องเขียน อุปกรณ์การเรียน และสินค้าอุปโภคบริโภคกว่า 4,000 รายการ มาจำหน่ายในราคาลดพิเศษตั้งแต่ 10-60% เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน พ่อแม่ ผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอม นอกจากนี้ยังมีสินค้าประเภทอื่นๆ สำหรับร้านค้าปลีกรายย่อยที่ประกอบธุรกิจใกล้โรงเรียน หรือสถานศึกษาต่างๆ ให้มาซื้อเพื่อนำไปจำหน่ายต่อ เช่น อุปกรณ์การเรียน เครื่องเขียน ขนมขบเคี้ยว นม เครื่องดื่ม อาหารสด และอาหารแช่แข็ง สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารตามสถานศึกษาในราคาพิเศษด้วย สินค้าที่ขายดีในช่วงนี้คืออุปกรณ์การเรียน เครื่องเขียน เช่น ดินสอ ปากกา สมุด โดยส่วนใหญ่จะซื้อเป็นแพคเพราะราคาถูกกว่า และเด็กๆ ต้องใช้ทุกวัน
ขณะที่ผู้บริหาร บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ระบุว่า ภาพรวมตลาดรองเท้านักเรียนปีนี้คาดว่าจะขยายตัวดีกว่าปี 2560 ที่เติบโตเพียง 0-1% เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มปรับตัวดีขึ้นตามภาพรวมเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว
อย่างไรก็ตาม นอกจากค้าปลีกแล้วยังพบว่าในส่วนของสถาบันการเงินก็มีการจัดแคมเปญสินเชื่อต้อนรับเปิดเทอมด้วยเช่นกัน โดยเริ่มกันที่ ธนชาต โดย นางธีรนารถ พ่วงมหา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงเปิดเทอมเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ผู้ปกครองส่วนใหญ่มีความจำเป็นต้องใช้เงินมากขึ้นกว่าปกติ บัตรสินเชื่อบุคคลธนชาต FLASH Plus ซึ่งเป็นทั้งบัตรกดเงินสดและบัตรที่ใช้รูดผ่อนสินค้าและบริการได้ในบัตรเดียวได้เปิดให้ผ่อนชำระนานกว่าถึง 60 เดือน (ขึ้นอยู่กับร้านค้าที่ร่วมรายการ) และรับดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 3 เดือน เมื่อสมัครบัตรสินเชื่อบุคคล FLASH Plus พร้อมบริการโอนเงินผ่อนสบาย ”Sabai Cash” โดยเน้นเจาะกลุ่มผู้ปกครองหรือพนักงานที่มีเงินเดือนประจำ อายุระหว่าง 30-40 ปี เฉลี่ยวงเงินของบัตรอยู่ที่ 65,000 บาท/บัตร
ส่วน เคทีซี หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดย นางสาวพิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้อำนวยการธุรกิจสินเชื่อบุคคล เคทีซี ระบุว่า ภาพรวมตลาดสินเชื่อบุคคลปี 2561 มีความท้าทายจากกำลังซื้อที่ยังค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้น ผู้บริโภคจึงยังใช้จ่ายไม่เต็มที่ การแข่งขันในตลาดที่รุนแรงมากขึ้นจึงได้จัดแคมเปญ “เปิดเทอมนี้ผ่อนหนักเป็นเบากับเคทีซี พราว” รับเครดิตเงินคืนเข้าบัญชีสูงถึง 70% ของยอดใช้จ่ายดอกเบี้ย ตั้งแต่วันนี้-30 มิถุนายน ซึ่งพบว่าเริ่มมียอดสินเชื่อเข้ามาแล้ว ทั้งระดับโรงเรียน มหาวิทยาลัย รวมทั้งการศึกษาต่อต่างประเทศ วงเงินเฉลี่ยต่อรายราว 15,000 บาท และระยะเวลาการใช้วงเงินราว 2-3 เดือน นอกจากนี้ยังมีแคมเปญเพิ่มวงเงินชั่วคราวกรณีฉุกเฉิน เมื่อมีเหตุจำเป็นต่อการดำรงชีพ รู้ผลอนุมัติใน 1 วัน วงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้ และผ่อนชำระขั้นต่ำเพียง 3%
ทั้งนี้ ล่าสุด ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้สำรวจพฤติกรรมผู้ปกครองในกรุงเทพฯและปริมณฑลในช่วงเปิดเทอมใหญ่ปี 2561 พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 64% มีความกังวลเกี่ยวกับสภาพคล่องทางการเงินจึงต้องไปลดรายจ่ายด้านอื่น รวมทั้งจะซื้อสินค้าเกี่ยวเนื่องกับการศึกษา อย่างชุดนักเรียน หนังสือ และอุปกรณ์การเรียนในราคาประหยัดแทน โดยคาดว่าในช่วงเปิดเทอมใหญ่ปีนี้ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลมีเงินสะพัดจากการใช้จ่ายในด้านการศึกษาประมาณ 27,500 ล้านบาท ขยายตัว 1.9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
เปิดเทอมใหญ่ปีนี้ ผู้ปกครองคงถูกดูดสภาพคล่องกระเป๋าฉีกไปตามๆ กัน
