เหยี่ยวถลาลม ทางที่เลือกเดิน วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ.2561

พุทธศาสนิกชนล้วนเข้าใจว่า ภิกษุสงฆ์ท่านเป็นเพียง “ผู้บำเพ็ญเพียร” เพื่อพ้นทุกข์ โดยที่มีคำสอน หรือพระธรรมวินัย “กำกับ” และ “นำทาง” ซึ่งทางที่จะไปสู่ความสำเร็จนั้น เรียกว่า มรรค มีองค์แปด

ขณะเดียวกันก็มีทางหนึ่ง ที่คู่ขนานกันไป

นั่นคือทางที่จะนำไปสู่ความวิบัติฉิบหาย เรียกว่า “วิบัติสี่ประการ”

หนึ่ง ศีลวิบัติ หรือเสียศีล อาบัติปาราชิก

Advertisement

สอง อาจารวิบัติ หรือการประพฤติเสื่อมเสีย จรรยามารยาทแย่

สาม ทิฏฐิวิบัติ หรือความคิดที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อน ผิดธรรมวินัย และ

สี่ อาชีววิบัติ หรือการหาเลี้ยงชีพในทางที่ผิด ได้ลาภมาด้วยการอวดอุตริหลอกลวงอ้างคุณวิเศษ

Advertisement

มีภิกษุสงฆ์มากมายที่หลงไปทางนี้ !

บางรูปบวชแล้วติดเรียน ติดทฤษฎี รู้แต่ไม่ทำ รู้แต่ไม่ประพฤติ บางรูปประสบความสำเร็จในด้านการพูด ก็เรียกว่าพระนักเทศน์ บางรูปชอบขีดเขียนก็กลายเป็นพระนักเขียน บางรูปบวชไปนานๆ หลงติดสุข ก็กลายเป็นพระติดสุข เสพติดอำนาจวาสนาบารมีตำแหน่งยศถา จน “หลง” ย่ำอยู่ในทางวิบัติ

ดังที่ปรากฏทั้งกรณีเงินทอนวัด และ “พุทธะอิสระ”

กล่าวสำหรับ “พุทธะอิสระ” นั้น คงไม่มีใครกล้าและห้าวเหิมเท่า !

ไม่มีใครกล้าอวดอุตริเรียกตัวเองว่า “หลวงปู่” มาตั้งแต่อายุ 40 กว่าๆ

ไม่มีใครกล้าแอบอ้างและปลอมพระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

แต่ถึงแม้ในวันนี้ “พุทธะอิสระ” จะมากไปด้วยคดี ทั้งอั้งยี่ ซ่องโจร สนับสนุนให้มีการปล้นทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย กับปลอมพระปรมาภิไธยและใช้พระปรมาภิไธย ก็ยังมีกระแสข่าวว่า ลูกศิษย์ระดับอภิมหาบิ๊กกำลัง “กางแขน” สยายปีกออกโอบอุ้มปกป้องเพื่อช่วยเหลือ “ผู้ต้องขังชาย” สุวิทย์ ทองประเสริฐ

นั่นบางคนเรียกว่า ศรัทธา

แต่บางคนว่า งมงาย

พุทธศาสนานั้นเน้นที่ “ปัญญา” หรือความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ รู้ผิดชอบชั่วดีถี่ห่างผ่าน “การปฏิบัติ” จึงจะลุล่วง “ปฏิเวธ”

ถามจริงๆ เถอะ ลูกศิษย์ของนายสุวิทย์หลายคนนั้นก็แก่เฒ่าเป็นไม้ใกล้ฝั่งเต็มทีแล้ว ไม่เคยรู้บ้างเลยหรือว่า “หะ-หริ” สะกดอย่างไร ถึงไม่รู้สึก “ละอาย” ต่อความชั่วความผิดที่กระทำกันเอาไว้ !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image