‘พระสังฆราช’ ทรงนำสวดกรณียเมตตสูตรอธิษฐานจิตให้ 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง-ปชช.ร่วมพิธีมหามงคลคับคั่ง

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ผู้แทนพระองค์ไปในพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระลานพระราชวังดุสิต ในโอกาสนี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงนำสวดบทกรณียเมตตสูตร จำนวน 3 จบ เพื่อร่วมอธิษฐานจิตตภาวนาให้เด็กและโค้ช ทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ปลอดภัย

ทั้งนี้ สำหรับบทกรณียเมตตสูตร หรือ เมตตสูตร เป็นพระสูตรที่ว่าด้วยการเจริญเมตตา และการปฏิบัติตนเพื่อเจริญธรรม นำไปสู่การบรรลุมรรคผลในท้ายที่สุด โดยมีฉันทลักษณ์เป็นแบบคีติโบราณ อันเป็นฉันทลักษณ์แบบเก่าแก่ที่สุดแบบหนึ่งในฉันทลักษณ์ภาษาบาลี ทั้งนี้ กรณียเมตตสูตร บางครั้งเรียกว่า เมตตปริตร เนื่องจากใช้สวดเป็นพระปริตร เพื่อป้องกัน คุ้มครองภยันตรายต่าง ๆ

ในเวลา 17.26 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ พลอากาศเอก เกษม อยู่สุข อัญเชิญพระชัยนวรัฐไปในพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศล จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต โดยริ้วขบวนพระราชยานไปยังพลับพลาพิธี ณ พระลานพระราชวังดุสิต

Advertisement

ต่อมาเวลา 17.53 น. พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ เดินทางถึงพระลานพระราชวังดุสิต วางพวงมาลัยพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ กราบราบ จากนั้นเดินทางไปยังพลับพลาพิธี จุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระชัยนวรัฐ กราบราบ จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กราบราบ ถวายความเคารพพระราชอาสน์ นั่งเก้าอี้ซึ่งจัดไว้ข้างพระราชอาสน์ ขณะนั้นเจ้าหน้าที่กรมการศาสนาอารธนาศีล

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานสงฆ์ให้ศีล จบ พระสงฆ์ 199 รูป สวดมาติกา จบ ผู้แทนพระองค์ทอดผ้าไตรที่อาสน์สงฆ์แถวหน้า 10 รูป นอกนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทอดผ้าไตรจนครบ 199 รูป กรวดน้ำ ขณะนั้นพระสงฆ์อนุโมทนา ถวายอดิเรก เจ้าหน้าที่กรมการศาสนา อารธนาพระปริตร จากนั้นพระสงฆ์ 199 รูป เจริญพระพุทธมนต์ถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช พระสยามเทวาธิราช พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร, พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

จากนั้นผู้แทนพระองค์ ประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม แด่พระสงฆ์ 10 รูป นอกนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม แด่พระสงฆ์จนครบ 199 รูป กรวดน้ำ ผู้แทนพระองค์กราบที่หน้าเครื่องนมัสการ กราบที่พระบรมฉายาลักษณ์ ถวายความเคารพพระราชอาสน์ ผู้แทนพระองค์ยืนหน้าเก้าอี้ที่จัดไว้ ผู้อัญเชิญพระชัยนวรัฐไปยังโต๊ะหมู่บูชา กราบราบพระชัยนวรัฐ ที่โต๊ะหมู่บูชา นายทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ อัญเชิญพระชัยนวรัฐออกจากโต๊ะหมู่บูชา ขึ้นพระราชยานอัญเชิญไปยังพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

Advertisement

สำหรับ พระชัยนวรัฐ เป็นพระพุทธรูปนั่งขัดสมาธิราบ หน้าตักกว้างศอกเศษ พระกรซ้ายวางทอดกับ พระเพลา พระหัตถ์ซ้ายถือตาลปัตร พระชัยองค์นี้เป็นพระหล่อมาแต่โบราณโดยฝีมือช่างชาวล้านนา เจ้าแก้วผู้เป็นเจ้าอุปราชเมืองนครเชียงใหม่เชิญมาถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อ พ.ศ. 2452 อันเป็นปีที่ทรงเจริญพระชนมายุเสมอพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระชนมายุสมมงคล และฉลองพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม กับฉลองพระชัยในคราวเดียวกัน เริ่มการพระราชพิธีในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2452 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวถวายน้ำอภิเษกสรงพระชัย ทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ทรงติดพระอุณาโลมเพชร และพระสุพรรณบัตรถวายพระนามว่า พระชัยนวรัฐ หมายความว่า พระชัยเมืองเชียงใหม่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน และเชิญไปประดิษฐานในมณฑลพิธีเมื่อมีการบำเพ็ญพระราชกุศลต่างๆ แทนพระชัยวัฒน์ประจำรัชกาล

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเจ้าหน้าที่เปิดจุดคัดกรองให้ประชาชนเข้ารับการตรวจสัมภาระ และลงทะเบียนประชาชนต่างจับจองเก้าอี้รอสวดมนต์ถวายเป็นพระราชกุศลตั้งแต่ช่วงบ่าย โดยประชาชนบางส่วนที่เดินทางมาถึงก่อน ได้เข้าคิวรับเครื่องสักการะพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัว ทั้งนี้ประชาชนส่วนมากต่างแต่งกายมาในชุดสีขาวและสีเหลือง ตลอดจนเจ้าหน้าที่ได้จัดอาหารและเครื่องดื่มบริการให้กับประชาชนบริเวณสวนอัมพร โดยผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในวันนี้ประชาชนเดินทางมาสวนมนต์แน่นพระลานพระราชวังดุสิต ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มเก้าอี้ด้วย

นางสาวนกยูง ภิรมย์แก้ว อายุ 80 ปี เดินทางมาจากเขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะเดินทางมาสวดมนต์ในวันนี้ ตนได้เดินทางไปยังบ้านญาติที่จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ใกล้กับถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน สถานที่ที่สมาชิกทีมฟุตบอลหมูป่าทั้ง 13 คนได้หายตัวไป เพื่อช่วยทำอาหารให้กับเจ้าหน้าที่ และร่วมสวดมนต์กับประชาชนในพื้นที่

“ตนเดินทางไปบ้านญาติเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน และกลับมากรุงเทพฯ เมื่อวาน (28 มิถุนายน) ตอนอยู่ในพื้นที่เห็นเจ้าหน้าที่ ตลอดจนประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศร่วมใจกันช่วยเหลือเด็กๆ ทั้ง 13 คน ก็ตื้นตันใจ แต่ด้วยช่วยอะไรเขามากไม่ได้เลยคุยกันในครอบครัวว่าอยากจะทำกับข้าวให้เจ้าหน้าที่ บริการแจกข้าวแจกน้ำ ช่วยในสิ่งที่เราสามารถทำได้ก็ยังดี ได้เจอกับผู้ปกครองของเด็กๆด้วย จึงช่วยกันทำพิธีเรียกขวัญ ร่วมสวดมนต์ภาวนาขอให้เด็กๆ ทุกคนกลับออกมาอย่างปลอดภัย กลับมาสู่อ้อมอกของพ่อแม่ วันนี้ก็เลยตั้งใจมาสวดมนต์อีก” ป้านกยูงกล่าว

นกยูง

ขณะที่ นางสาวนวลักษณ์ สวัสดิ์วงศ์ อายุ 37 ปี เดินทางมาพร้อมเพื่อนสนิท นายเทพชาติ คงเกิด อายุ 40 ปี กล่าวร่วมกันว่า ปกติมาร่วมสวดมนต์ที่พระลานพระราชวังดุสิตทุกครั้ง และในวันนี้ตั้งใจมาสวดมนต์ให้กับน้องๆทั้ง 13 คนด้วย เพราะเชื่อว่าด้วยพลังความร่วมมือของคนไทยจะต้องส่งผลให้น้องๆปลอดภัย

“เชื่อมั่น 100% ว่าน้องๆปลอดภัย เราไม่สามารถลงพื้นที่ไปช่วยได้ แต่สิ่งที่ทำได้คือส่งกำลังใจไปให้น้อง ให้ครอบครัวของน้อง ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติงาน ติดตามข่าวตลอด เอาใจช่วย และภาวนาให้น้องทั้ง 13 คนปลอดภัย” นางสาวนวลักษณ์ กล่าว

นวลักษณ์และครอบครัว
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image