เว็บไซต์ tatler.com ของนิตยสารชื่อดังของอังกฤษ ได้เผยแพร่บทความเกี่ยวกับเรื่องราวของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ โดยขึ้นหัวเรื่องว่า “หรือพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์จะเป็นสมาชิกราชวงศ์ที่มีความสามารถมากที่สุดในโลก” และโปรยหัวเรื่องว่า “กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าหญิงองค์หนึ่งที่มีพระปรีชาสามารถรอบด้านตั้งแต่การขี่ม้าไปจนถึงการออกแบบแฟชั่นเสื้อผ้า ซึ่งดูราวกับเป็นเรื่องดั่งเทพนิยาย แต่สิ่งที่พิเศษที่สุดสำหรับ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พระธิดาของพระมหากษัตริย์ไทย คือ “พระองค์ทรงมีอยู่จริง” “
เนื้อหาของบทความระบุว่า พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงอ่อนโยน มีพระเนตรกลมโตงดงามไร้เดียงสาเหมือนกับเจ้าหญิงของดิสนีย์ พระเกศายาวสลวย ผิวพรรณเนียนละเอียด และริมฝีปากอวบอิ่ม ขณะที่ชีวิตของพระองค์ก็เช่นกัน ที่เปรียบดั่งเทพนิยาย แค่ลำพังพระประวัติของพระองค์ก็ดูเป็นเรื่องเหนือจริง ด้วยพระชันษา 31 ปี พระธิดาในพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์นี้ ทรงเคยได้รับรางวัลจากการแข่งขันขี่ม้าภายในประเทศ ทรงเคยร่วมอยู่ในทีมชาติแบดมินตันของไทย และที่น่าทึ่งกว่านั้น พระองค์ยังทรงเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ และยังทรงเป็นผู้ก่อตั้ง และผู้อำนวยการฝ่ายความคิดสร้างสรรค์แบรนด์แฟชั่น “Sirivannavari” ของพระองค์
พระองค์ทรงเริ่มมีผลงานด้านแฟชั่นครั้งแรกเมื่อปี 2550 ขณะมีพระชันษา 20 ปีเมื่อทรงสำเร็จการศึกษาด้านแฟชั่น โดยทรงได้รับเชิญจากปิแอร์ บัลแมง ดีไซเนอร์ชื่อดังระดับโลก ให้ร่วมนำผลงานการออกแบบคอลเล็กชั่นของพระองค์ไปร่วมโชว์ในงาน ปารีส แฟชั่น วีค
ด้วยเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว 10 ปีนับจากนั้น พระองค์ทรงเล่าอย่างตื่นเต้นถึงผลงานในคอลเล็กชั่นใหม่ ล่าสุด ที่ทรงใช้ชื่อว่า ‘Horse, Helen and Henri’ ว่า มาจากหนึ่งในบทกลอนรักที่พระองค์ทรงพระนิพนธ์ขึ้น “ข้าพเจ้าเริ่มเขียนบทกลอนเมื่อราว 2-3 ปีก่อน เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักระหว่างนายทหารหนุ่มกับสาวชาวไร่ ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นจากเรื่องของม้า ที่นำตัวนายทหารที่ได้รับบาดเจ็บมาสู่อ้อมกอดของสาวชาวไร่ผู้นี้ “
พระองค์หญิงตรัสถึงคอลเล็กชั่นใหม่ว่า เป็นธีมเหมือนความฝัน ความโรแมนติก ท่ามกลางทุ่งหญ้า ที่เต็มไปด้วยดอกป๊อปปี้ และต้นบาร์เลย์
พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงได้ความรักในเรื่องแฟชั่นมาจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 พระอัยยิกา ผู้ทรงมีความทันสมัยในเรื่องเครื่องแต่งกาย โดยพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ตรัสว่า พระอัยยิกาคือ บุคคลที่พระองค์เอาเป็นแบบอย่างที่แท้จริง แม้ว่าอาจจะเป็นไปได้ว่าพระองค์อาจจะได้แรงบันดาลใจมาจากพระราชบิดา พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน
นอกจากนี้ พระองค์หญิงยังทรงมีความรักในสุนัขเหมือนกับพระราชบิดา ทรงเลี้ยงสุนัขพันธุ์ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย โกลเดนรีทรีฟเวอร์ ลาบราดอร์ และไซบีเรียนฮัสกี นอกจากนี้ยังทรงเลี้ยงม้าอีก 7 ตัว
พระองค์หญิงยังตรัสถึงการฝึกขี่ม้าว่า พระองค์ทรงฝึกขี่ม้าสัปดาห์ละ 6 วัน โดยจะทรงม้า 3 ตัว ตัวละ 1 ชั่วโมง พระองค์ทรงเคยได้รับบาดเจ็บ ขาหักมาแล้ว แต่ก็ทรงไม่ย่อท้อ ทรงทำทุกวิถีทางเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้
ขณะที่ชีวิตของพระองค์ในกรุงเทพฯ จะทรงใช้เวลาในการขี่ม้า ทรงงานอยู่ภายในสตูดิโอออกแบบ หรือไม่ก็ปฏิบัติพระกรณียกิจ เมื่อใดที่พระองค์ทรงรู้สึกอารมณ์ไม่ดี จะทรงเข้าวัดหรือไม่ก็เสด็จไปทะเล พระองค์ยังทรงชื่นชอบการดำน้ำ และปีที่แล้วยังได้ทำตามความฝันที่ทรงเคยวาดไว้คือ ได้ว่ายน้ำเคียงคู่กับฉลามวาฬที่ประเทศฟิลิปปินส์
พระองค์หญิงเสด็จไปหลายพื้นที่ และทรงชื่นชอบการผจญภัย และทรงชื่นชอบสไตล์การแต่งตัวของชาวปารีส หลังจากทรงจบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่กรุงเทพฯ พระองค์ทรงจบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านแฟชั่นที่กรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส พระองค์ทรงชื่นชอบยุโรป แม้แต่ในชนบทของอิตาลี พระองค์ตรัสว่า เต็มไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ หรืออย่างที่กรุงลอนดอน ก็ทรงชอบใช้เวลาไปกับการซื้อของหรือเสด็จไปพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ และหวังว่าวันหนึ่งจะได้เสด็จไปยัง รอยัล อัลเบิร์ต ฮอลล์ ที่พระองค์ยังไม่เคยได้มีโอกาสเสด็จไป
ก่อนที่บทความจะตบท้ายว่า ด้วยคำพูดที่มีเสน่ห์ ความงดงาม และภาพลักษณ์ที่ดูสากลของพระองค์ แต่หัวใจของพระองค์ยังทรงเป็นไทย “ที่แยกจากกันไม่ได้”
