สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานรางวัลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประจำปี 2561 แก่ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.อฟาฟ อิบราฮิม เมลิส
เมื่อเวลา 16.07 น. วันที่ 17 ตุลาคม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในพระบรมราชูปถัมภ์ เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานรางวัลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประจำปี 2561 ณ พระที่นั่งมูลสถานบรมอาสน์ ในพระบรมมหาราชวัง และพระราชทานเลี้ยงน้ำชาเป็นเกียรติแก่ผู้ได้รับพระราชทานรางวัล ณ พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร ในพระบรมมหาราชวัง
ซึ่งมี อาทิ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นพ.เกษม วัฒนชัย นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี, นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี, นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข คณะทูตานุทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย ตลอดจนคณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จพระศรีนครินราบรมราชชนนี เฝ้าฯรับเสด็จ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงยืน ณ พระสุจหนี่ระราชทานรางวัลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประจำปี 2561 ซึ่งปีนี้มีได้รับคัดเลือก 1 คนคือ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.อฟาฟ อิบราฮิม เมลิส (Professor Emeritus Dr.Afaf Ibrahim MELEIS) อายุ 76 ปี ชาวสหรัฐอเมริกา-อียิปต์ ได้รับประกาศนียบัตร โล่รางวัล และเงินจำนวน 30,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา
สมเด็จพระเทพฯ พระราชทานพระราชดำรัสแสดงความยินดี
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำรัสแก่ผู้ได้รับพระราชทาน รางวัลรางวัลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ความตอนหนึ่งว่า ขอแสดงความยินดีกับ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.อฟาฟ อิบราฮิม เมลิส ผู้มีบทบาทโดดเด่นระดับโลก ทั้งในฐานะผู้นำนักวิจัยและนักการศึกษา สามารถสร้างงานวิจัยและวิชาการรวมทั้งการเผยแพร่ และจัดประชุมในเวทีระดับโลก ทำให้สังคมได้ตระหนักถึงภาระของสตรีที่ต้องทำงานหลายบทบาท ความไม่เท่าเทียมในสังคม การถูกกีดกัน และภาวะสุขภาพเป็นครูผู้สร้างแรงบันดาลใจและบ่มเพาะให้ศิษย์พัฒนาเป็นนักวิชาการและผู้นำที่แข็งแกร่งในวิชาชีพ
ทำให้เห็นคุณค่าและภูมิปัญญาของวิชาชีพการพยาบาล และเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์สามารถสร้างนวัตกรรมการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาความเข้มแข็งขององค์กร ระบบสุขภาพ และวิชาชีพให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก
ซึ่งผลงานทั้งหมดส่งผลต่อการปรับปรุงสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้หญิงในวงกว้างทั่วโลก โดยเฉพาะผู้หญิงในประเทศที่กำลังพัฒนาและกลุ่มที่อพยพย้ายถิ่น ผลงานของท่านเป็นแบบอย่างอันงดงามให้ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ในการมุ่งมั่นพัฒนางานเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
ข้าพเจ้าขออวยพรให้ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.อฟาฟ อิบราฮิม เมลิส และผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ทุกท่าน ประสบความสุข สำเร็จ มีกำลังกาย กำลังใจบริบูรณ์ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนตนและส่วนรวมโดยทั่วกัน
ประวัติผู้ได้รับ รางวัลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
สำหรับ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.อฟาฟ อิบราฮิม เมลิส เป็นผู้นำวิชาชีพการพยาบาลระดับโลกที่ มีผลงานทางด้านการศึกษา วิจัย และการพัฒนาศาสตร์ทางการพยาบาล ตลอดชีวิตการทำงาน อีกทั้งได้รณรงค์เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางและด้อยโอกาส โดยเฉพาะสตรีมีความเท่าเทียมในสังคม
ดร.เมลิส ขณะดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยคณบดี คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟานซิสโก ดร.เมลิสได้ริเริ่ม “หลักสูตรพยาบาลศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต” ขึ้นเป็นครั้งแรก มุ่งทำการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพบริการพยาบาล โดยหลักสูตรดังกล่าวนี้ ได้เป็นต้นแบบของหลักสูตรระดับปริญญาเอก สาขาพยาบาลศาสตร์ทั่วโลก และต่อมาท่านยังได้ผลักดันให้มาหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิตขึ้นอีกหลักสูตรหนึ่ง เน้นการสร้างความรู้ใหม่ ท่านยังได้เป็นที่ปรึกษาในการพัฒนาหลักสูตรและพัฒนาอาจารย์ให้กับคณะพยาบาลศาสตร์ในประเทศต่างๆ ทั่วโลกถึง 16 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย เมื่อมหาวิทยาลัยมหิดลเป็นแกนนำในการจัดทำโครงการร่วมผลิตบัณฑิตระดับปริญญาเอก สาขาการพยาบาลศาสตร์
นอกจากนั้น ดร.เมลิส ยังได้เขียนหนังสือการพัฒนาทฤษฎีการพยาบาล ซึ่งเป็นหนังสือที่ใช้ในระดับบัณฑิตศึกษา สาขาพยาบาลศาสตร์ทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน
เมื่อดำรงตำแหน่งคณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย ดร.เมลิส ได้ปรับโครงสร้างของคณะพยาบาลศาสตร์ให้สอดรับกับการปรับเปลี่ยนของระบบสุขภาพ และการศึกษาในทศวรรษใหม่ โดยแสวงหาโอกาสและส่งเสริมสนับสนุนให้อาจารย์ทำงานร่วมกับองค์กรท้องถิ่นและชุมชน ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของสหวิชาชีพ และการสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ
ด้วยผลงานสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ทำให้คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย ได้รับการจัดลำดับให้เป็นคณะพยาบาลศาสตร์ ลำดับที่ 1 ของโลก 3 ปีติดต่อกัน
ดร.เมลิส เป็นแบบอย่างของผู้นำสตรีที่เข้มแข็ง เป็นปากเสียงให้กับสตรี และเป็นผู้นำในประเด็นสุขภาพของประชาคมโลก ท่านได้ผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศในการจัดประชุมนานาชาติ และทำวิจัยด้านสตรีและผู้ด้อยโอกาสในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา โดยเฉพาะกลุ่มผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน ทำให้ประเด็นปัญหาและความท้าทายที่ผู้หญิง เด็กผู้หญิง และผู้ด้อยโอกาสต้องประสบ เป็นที่ตระหนักชัดเจนในสังคมทั่วโลก
ประกอบกับท่านได้ตีพิมพ์ทั้งงานวิจัย บทความวิชาการ และหนังสือ รวมทั้งเป็นองค์ปาฐกก่อให้เกิดแรงบันดาลใจและพลังให้ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและผู้หญิงอย่างมาก
ขอบคุณรูปภาพจาก มูลนิธิรางวัลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี