สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯทรงถวาย ผ้าพระกฐิน วัดสุทัศฯ
เมื่อเวลา 16.32 น. วันที่ 3 พฤศจิกายน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯพร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ โดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังวัดสุทัศนเทพวราราม ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน พุทธศักราช 2561 โดยมีกรรมการบริหารมูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์ ฯ และคณะกรรมการ เฝ้าฯ รับเสด็จ การนี้ เสด็จเข้าพระวิหารหลวง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องท้ายที่นั่งบูชาพระศรีศากยมุนีแล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคาร รัชกาลที่ 8 ทรงกราบ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ
พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องท้ายที่นั่งบูชาพระศรีศากยมุนี ทรงกราบ เสด็จออกจากพระวิหารหลวง ไปยังพระอุโบสถ เสด็จเข้าพระอุโบสถ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงยืนเฝ้าฯ หน้าพระเก้าอี้
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับผ้าไตรจากเจ้าพนักงานศุภรัต ทรงวางผ้าไตรเหนือพานแว่นฟ้าซึ่งตั้งอยู่หน้าอาสน์สงฆ์ใกล้เจ้าอาวาสทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธตรีโลกเชษฐ์ประธานพระอุโบสถ ทรงกราบ ทรงหยิบผ้าห่มสำหรับพระประธานที่วางอยู่บนหลังผ้าไตร พระราชทานเจ้าพนักงานภูษามาลา แล้วทรงยืน ณ ที่นั้น เจ้าหน้าที่กรมการศาสนากราบบังคมทูลรายงานจำนวนพระสงฆ์ จบแล้ว ทรงหยิบผ้าไตรที่พานแว่นฟ้านั้นพาดระหว่างพระกร แล้วประนมพระหัตถ์ ผินพระพักตร์สู่พระประธาน ทรงว่า “นะโม ตัสสะ ฯ” จบ 3 หนแล้ว ผินพระพักตร์สู่ที่ชุมนุมสงฆ์ กล่าวคำถวายผ้าพระกฐิน ทรงวางผ้าไตรไว้บนพานแว่นฟ้าที่เดิม ทรงประเคนผ้าไตรและเทียนปาฏิโมกข์แด่พระสงฆ์รูปที่ 2 ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ประทับพระราชอาสน์ (พระสงฆ์ทำพิธีกฐินกรรม) เมื่อพระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐินออกไปครองผ้าพระกฐินเสร็จ กลับมานั่งยังอาสน์สงฆ์พร้อมแล้ว เสด็จฯ ไปถวายเครื่องบริวารพระกฐินแด่พระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐิน ประทับพระราชอาสน์ ทรงหลั่งทักษิโณทก (พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก)
จากนั้น เสด็จฯ ไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ เสด็จออกชานหน้าพระอุโบสถ ประทับพระราชอาสน์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ประทับพระเก้าอี้ พันตำรวจเอก สุริยา จำนงโชค กรรมการบริหารมูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์ฯ กราบบังคมทูลรายงานกิจการมูลนิธิ ฯ และเบิกผู้มีจิตศรัทธาผู้บริจาคเงินโดยเสด็จ พระราชกุศลเพิ่มทุนมูลนิธิฯ เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานของที่ระลึก จำนวน 100 คนเสด็จออกจากชานหน้าพระอุโบสถ ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จ ฯ ไปยังวัดอรุณราชวราราม ซึ่งเป็นวัดที่ 2
ต่อจากนั้นเวลา 16.30 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯพร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ โดยรถยนต์พระที่นั่ง จากวัดสุทัศนเทพวราราม ไปยังวัดอรุณราชวราราม เสด็จเข้าพระอุโบสถ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงยืนเฝ้าฯ หน้าพระเก้าอี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับผ้าไตรจากเจ้าพนักงานศุภรัต ทรงวางผ้าไตรเหนือพานแว่นฟ้าซึ่งตั้งอยู่หน้าอาสน์สงฆ์ใกล้เจ้าอาวาส ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธธรรมิศรราชโลกธาตุดิลกประธานพระอุโบสถ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคาร รัชกาลที่ 2 ทรงกราบ ทรงหยิบผ้าห่มสำหรับพระประธานที่วางอยู่บนหลังผ้าไตร พระราชทานเจ้าพนักงานภูษามาลา
แล้วทรงยืน ณ ที่นั้น เจ้าหน้าที่กรมการศาสนากราบบังคมทูลรายงานจำนวนพระสงฆ์ จบแล้ว ทรงหยิบผ้าไตรที่พานแว่นฟ้านั้นพาดระหว่างพระกร แล้วประนมพระหัตถ์ ผินพระพักตร์สู่พระประธาน ทรงว่า “นะโม ตัสสะ ฯ” จบ 3 หนแล้ว ผินพระพักตร์สู่ที่ชุมนุมสงฆ์ กล่าวคำถวายผ้าพระกฐิน ทรงวางผ้าไตรไว้บนพานแว่นฟ้าที่เดิม
จากนั้น ทรงประเคนผ้าไตรและเทียนปาฏิโมกข์แด่พระสงฆ์รูปที่ 2 ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ประทับพระราชอาสน์ (พระสงฆ์ทำพิธีกฐินกรรม)
เมื่อพระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐินออกไปครองผ้าพระกฐินเสร็จ กลับมานั่งยังอาสน์สงฆ์พร้อมแล้ว เสด็จฯ ไปถวายเครื่องบริวารพระกฐินแด่พระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐิน ประทับพระราชอาสน์ ทรงหลั่งทักษิโณทก (พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก) กรรมการวัดกราบบังคมทูลเบิกผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินบำรุงพระอาราม เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานของที่ระลึก จำนวน 100 คน ต่อจากนั้น เสด็จ ฯ ไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ เสด็จออกชานหน้าพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยบูชาพระพุทธนฤมิต (พระพุทธรูปฉลองพระองค์รัชกาลที่ 2) ทรงกราบ
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปยังพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงวางพุ่มดอกไม้ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงวางพุ่มดอกไม้ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ เสด็จ ฯ ไปประทับรถยนต์พระที่นั่งที่หน้าวัดอรุณราชวราราม เสด็จพระราชดำเนินกลับ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน พุทธศักราช 2561 ที่วัดสุทัศนเทพวราราม มีประชาชนจากทุกสารทิศพร้อมใจใส่ชุดสุภาพสีขาวและสีเหลืองมารอเฝ้าฯรับเสด็จ และร่วมทำบุญในพระราชพิธีจนเนืองแน่นบริเวณวัด โดยทางวัดได้จัดเตรียมเต็นท์และที่นั่งให้ประชาชนโดยรอบพระอุโบสถ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารคอยตรวจอาวุธบริเวณทางเข้า และรักษาความปลอดภัยเข้มงวด ครั้นถึงเวลาเสด็จฯประชาชนต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องบริเวณวัด สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหันพระพักตร์ทอดพระเนตรประชาชนที่มาเฝ้าฯรับเสด็จ ทรงแย้มพระสรวลและโบกพระหัตถ์ทักทายประชาชน
โดย นางสุวรรณา เคนน้ำเที่ยง อายุ 64 ปี ชาวหนองแขม กรุงเทพฯ มาพร้อมเพื่อนๆ กล่าวด้วยสีหน้าปลาบปลื้มว่า ตนและกลุ่มเพื่อน ได้ติดตามเฝ้าฯรับเสด็จพระบรมวงศานุวงศ์ในงานกฐินหลวงทุกปี ตั้งแต่ปี 2549 ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เสด็จฯด้วยพระองค์เอง เรื่อยมาจนถึงสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างวันนี้ ก็ยังติดตามมาเฝ้าฯรับเสด็จ เพราะมีความตั้งใจว่าอยากทำบุญร่วมกับพระองค์ท่าน ซึ่งไม่ได้หาโอกาสง่ายๆ มีเพียงปีละหน และยังชอบทำบุญกฐินหลวงตามวัดประจำรัชกาลต่างๆ เพราะรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ที่ปกป้องคุ้มครองแผ่นดินให้อยู่มาถึงปัจจุบัน
“นอกจากบุญที่ได้ในงานกฐินหลวง ดิฉันยังได้รู้สึกอิ่มเอมใจที่ได้มีโอกาสเฝ้าฯรับเสด็จพระบรมวงศานุวงศ์ อย่างตลอด 3 มาวันนี้ ได้เฝ้าฯรับเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้ง 3 วัน ได้เห็นพระองค์ในระยะใกล้ๆ ได้เปล่งเสียงทรงพระเจริญอย่างที่ตั้งใจ และพระองค์ทรงรับฟังและทักทายกลับมาด้วยการโบกพระหัตถ์และแย้มพระสรวลมาทางประชาชน ดิฉันรู้สึกปลาบปลื้มใจอย่างหาที่สุดไม่ได้” นางสุวรรณากล่าว
