ที่มา | มติชนรายวันหน้า 18 |
---|---|
เผยแพร่ |
ยังความปลาบปลื้มอย่างหาที่สุดมิได้มาสู่พสกนิกรชาวไทย เมื่อได้เฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างใกล้ชิด
ในการเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงาน อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ณ บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์ในชุดราชปะแตนสีงาช้าง พระภูษาโจงกระเบนสีแดง เสด็จฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฉลองพระองค์ชุดไทยสีม่วง พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ในฉลองพระองค์ชุดไทยสีโอลด์โรส และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ในฉลองพระองค์ชุดไทยแขนหมูแฮมผ้าไหมแพรวา ซึ่งถือเป็นราชินีแห่งไหมไทย พระภูษาโจงกระเบนสีแดง ซึ่งเป็นผ้าในโครงการศิลปาชีพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีสีพระพักตร์แจ่มใส ทรงแย้มพระสรวล โบกพระหัตถ์ทักทายประชาชนที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จตลอด 2 ข้างทาง ระหว่างที่เสด็จฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการตามโซนต่างๆ ณ พระลานพระราชวังดุสิต อาทิ พระมหากรุณาธิคุณแห่งสายน้ำ และทอดพระเนตรร้านจิตอาสา 904 ตลอดจนร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์ ร้านค้ารับเชิญ จากนั้น เสด็จไปยังลานกิจกรรม “มัจฉาพาโชค” ณ บริเวณสนามเสือป่า ทรงร่วมเล่นเกมลุ้นรางวัลด้วย
สำหรับงาน อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ด้วยพระราชประสงค์ของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะพระราชทานความสุขแก่คนไทย และเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานฤดูหนาวขึ้นเป็นครั้งแรก ด้วยพระบรมราชวิเทโศบายในการให้ประชาชนได้มีโอกาสใกล้ชิดกับพระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์ ผ่านการจัดงานออกร้านทั้งได้ร่วมทำบุญและได้ความสุขอิ่มเอมใจทั่วกัน
และในการเสด็จฯ ครั้งนี้ พสกนิกรต่างรู้สึกอิ่มเอมใจที่ได้ชื่นชมพระบารมีและเฝ้าฯ รับเสด็จอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน กิจกรรมไบค์ อุ่นไอรัก ที่พระองค์ทรงจักรยานนำพสกนิกรกว่า 1 แสนคน ปั่นจักรยานจากเส้นทางพระลานพระราชวังดุสิตถึงสวนสุขภาพลัดโพธิ์ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ไป-กลับ รวมระยะทาง 39 กิโลเมตร โดยมีพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงจักรยานร่วมในขบวนด้วย
ตลอดเส้นทางมีประชาชนสวมเสื้อเหลืองมาเฝ้าฯ รับเสด็จอย่างเนืองแน่น ครั้นเมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจักรยานผ่าน พสกนิกรต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง โดยตลอด 39 กิโลเมตร ไม่มีรั้วเหล็กมากั้นระหว่างพระองค์กับประชาชน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงแย้มพระสรวล และโบกพระหัตถ์ทักทายประชาชนอย่างไม่ถือพระองค์ ยิ่งสร้างความรู้สึกใกล้ชิดระหว่างพระองค์กับประชาชนได้อย่างแนบแน่น
นางจินดา วรมิ่ง อายุ 56 ปี ที่พา นางซิ่วไน้ ทิพพยการ มารดา อายุ 97 ปี นั่งรถเข็นมารับเสด็จ บริเวณฟุตปาธ ใกล้สวนสุขภาพลัดโพธิ์ เผยว่า ย้ายมาอยู่ที่พระประแดงได้ 3 ปีแล้ว แม่พูดหลายครั้งว่าอยากมากราบพระบรมรูปทรงงานรัชกาลที่ 9 แต่ไม่มีโอกาส เพราะเช่าบ้านอยู่ชั้น 2 จะเดินทางก็ลำบาก แต่วันนี้ถือเป็นโอกาสพิเศษที่จะได้รับเสด็จในหลวง ร.10 แม่ก็ตั้งใจมาก ถัดบันไดลงมา นั่งรถเข็นมารับเสด็จ เพราะถือเป็นโอกาสพิเศษของชาวพระประแดง ไม่รู้จะมีโอกาสอีกไหม จึงต้องมา
ขณะที่ นางสาวภัทรา กะนะลัย อายุ 59 ปี เดินทางมาจากเขตเยาวราชพร้อมเพื่อนสนิท นางกัญจนภัสสร์ ทิพอาสน์ อายุ 50 ปี มาจับจองที่นั่งเฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เผยความรู้สึกหลังรับเสด็จ ว่า รู้สึกปลื้มปีติอย่างมากที่ได้ชื่นชมพระบารมีของพระองค์จนทำให้น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ด้วยใจจริงอยากร่วมปั่นไบค์ อุ่นไอรัก แต่ร่างกายไม่พร้อมจึงตั้งใจมาเฝ้าฯ รับเสด็จ และให้กำลังใจนักปั่นทุกคน
“เป็นกิจกรรมที่อบอุ่นใจมากๆ ปลื้มปีติ และรู้สึกว่าได้ใกล้ชิดกับพระองค์ท่าน น้ำตาไหลเลย อยากให้มีทุกๆ ปี ถ้ามีอีกก็จะมาอีกแน่นอน” ทั้งสองกล่าวด้วยน้ำเสียงตื้นตัน
ด้านนักปั่นจักรยานต่างรู้สึกเป็นสิริมงคลกับชีวิตที่ได้ปั่นจักรยานตามเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นายพายัพ เชื้อสุวรรณ อดีตพนักงานบริษัทวัยเกษียณ อายุ 85 ปี กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า รู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ปั่นจักรยานตามเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นับเป็นเกียรติของชีวิต วันนี้ออกจากบ้านตั้งแต่เช้าเดินทางมาจากดอนเมืองกับเพื่อนๆ ในชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพเสือพหล โดยตนเริ่มปั่นจักรยานตอนอายุ 74 ปี หลังจากที่ผ่าตัดบายพาสหัวใจ และหมอให้ออกกำลังกาย จึงมาปั่นจักรยาน เคยปั่นระยะทางไกลสุด 107 กิโลเมตร จักรยานเป็นกีฬาที่ดีมาก ทำให้ตนมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น
“นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชานุญาตให้จัดกิจกรรมไบค์ อุ่นไอรักขึ้น เพราะเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคม ก่อให้เกิดความรักความสามัคคี และการรวมพลัง อยากให้มีกิจกรรมแบบนี้ทุกปี” นายพายัพกล่าว
ดร.เจนศักดิ์ ชมเชย อายุ 53 ปี ชาวอำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ มาพร้อมนักปั่นจิตอาสาช่างภาพสายบุญ กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า แม้จะเคยเข้าร่วมในกิจกรรมปั่นเพื่อแม่และปั่นเพื่อพ่อที่ผ่านมา แต่ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นกับกิจกรรมประวัติศาสตร์นี้
“ถือเป็นกิจกรรมที่ดี อยากให้จัดต่อเนื่องปีละหน ทั้งนี้ ในกิจกรรมครั้งนี้ผมได้นำจักรยานที่มีอยู่แล้วมาปรับปรุงใหม่ ตั้งแต่ทาสี เปลี่ยนสายเกียร์ ติดตั้งไฟกะพริบหน้าหลัง และประดับอักษรทรงพระเจริญและธงชาติไทย ถือเป็นการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ให้เกิดประโยชน์ และไม่ฟุ่มเฟือย” ดร.เจนศักดิ์กล่าว
นับเป็นกิจกรรมที่เปี่ยมไปด้วยความสุขและความปลื้มปีติ
อุ่นไอรัก คลายความหนาว
งานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 19 มกราคม พุทธศักราช 2562 ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า
โดยภายในงานได้จัดแสดงนิทรรศการต่างๆ อาทิ นิทรรศการพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 1-10 รวมทั้งยังมีมุมต่างๆ ให้ได้ถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ ณ พระลานพระราชวังดุสิต ซึ่งจำลองมาจากพระที่นั่งองค์จริง จากพระราชวังบางปะอิน, เรือพระที่นั่งจำลอง 4 ลำ ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์, เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ, เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ ทุกลำสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด
ขณะที่ด้านในสนามเสือป่า พบกับร้านจิตอาสา 904 ร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์ และร้านค้ารับเชิญกว่า 36 ร้าน ทั้งยังมีกิจกรรมการถ่ายภาพ รวมไปถึงมีตลาดเดินชิมริมทาง ตลาดบกวิถี 4 ภาค และตลาดน้ำในฝัน ให้ได้เลือกลิ้มรสอาหารและขนมโบราณ แล้วมาร่วมลุ้นไปกับกิจกรรม “มัจฉาพาโชค” ให้ประชาชนได้ร่วมลุ้นรางวัล ใบละ 25 บาท และสลากการกุศล ราคา 129 บาท รายได้จากการจัดจำหน่ายโดยไม่หักค่าใช้จ่ายนำไปช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ
ขอเชิญชวนแต่งกายในชุดไทยย้อนยุคสมัยรัชกาลที่ 5 หรือชุดไทยแบบต่างๆ ด้วยผ้าไทย ผ้าท้องถิ่น เพื่อสะท้อนวิถีไทยผ่านเครื่องแต่งกาย ร่วมกันเที่ยวชมงานในครั้งนี้ ด้วยความสุข สดใส สนุกสนานเพลิดเพลินและยังได้ร่วมทำบุญโดยเสด็จพระราชกุศลเป็นความสุข
อิ่มบุญ อิ่มใจ ร่วมกัน