สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใกล้ชิด ‘ประชาชน’ สุขอิ่มเอมใจ อุ่นไอรัก

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทอดพระเนตรงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว

ยังความปลาบปลื้มอย่างหาที่สุดมิได้มาสู่พสกนิกรชาวไทย เมื่อได้เฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างใกล้ชิด

ในการเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงาน อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ณ บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า

ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์ในชุดราชปะแตนสีงาช้าง พระภูษาโจงกระเบนสีแดง เสด็จฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฉลองพระองค์ชุดไทยสีม่วง พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ในฉลองพระองค์ชุดไทยสีโอลด์โรส และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ในฉลองพระองค์ชุดไทยแขนหมูแฮมผ้าไหมแพรวา ซึ่งถือเป็นราชินีแห่งไหมไทย พระภูษาโจงกระเบนสีแดง ซึ่งเป็นผ้าในโครงการศิลปาชีพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีสีพระพักตร์แจ่มใส ทรงแย้มพระสรวล โบกพระหัตถ์ทักทายประชาชนที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จตลอด 2 ข้างทาง ระหว่างที่เสด็จฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการตามโซนต่างๆ ณ พระลานพระราชวังดุสิต อาทิ พระมหากรุณาธิคุณแห่งสายน้ำ และทอดพระเนตรร้านจิตอาสา 904 ตลอดจนร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์ ร้านค้ารับเชิญ จากนั้น เสด็จไปยังลานกิจกรรม “มัจฉาพาโชค” ณ บริเวณสนามเสือป่า ทรงร่วมเล่นเกมลุ้นรางวัลด้วย

Advertisement

สำหรับงาน อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ด้วยพระราชประสงค์ของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะพระราชทานความสุขแก่คนไทย และเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานฤดูหนาวขึ้นเป็นครั้งแรก ด้วยพระบรมราชวิเทโศบายในการให้ประชาชนได้มีโอกาสใกล้ชิดกับพระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์ ผ่านการจัดงานออกร้านทั้งได้ร่วมทำบุญและได้ความสุขอิ่มเอมใจทั่วกัน

และในการเสด็จฯ ครั้งนี้ พสกนิกรต่างรู้สึกอิ่มเอมใจที่ได้ชื่นชมพระบารมีและเฝ้าฯ รับเสด็จอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน กิจกรรมไบค์ อุ่นไอรัก ที่พระองค์ทรงจักรยานนำพสกนิกรกว่า 1 แสนคน ปั่นจักรยานจากเส้นทางพระลานพระราชวังดุสิตถึงสวนสุขภาพลัดโพธิ์ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ไป-กลับ รวมระยะทาง 39 กิโลเมตร โดยมีพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงจักรยานร่วมในขบวนด้วย

'ประชาชน' สุขอิ่มเอมใจ อุ่นไอรัก

ตลอดเส้นทางมีประชาชนสวมเสื้อเหลืองมาเฝ้าฯ รับเสด็จอย่างเนืองแน่น ครั้นเมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจักรยานผ่าน พสกนิกรต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง โดยตลอด 39 กิโลเมตร ไม่มีรั้วเหล็กมากั้นระหว่างพระองค์กับประชาชน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงแย้มพระสรวล และโบกพระหัตถ์ทักทายประชาชนอย่างไม่ถือพระองค์ ยิ่งสร้างความรู้สึกใกล้ชิดระหว่างพระองค์กับประชาชนได้อย่างแนบแน่น

นางจินดา วรมิ่ง อายุ 56 ปี ที่พา นางซิ่วไน้ ทิพพยการ มารดา อายุ 97 ปี นั่งรถเข็นมารับเสด็จ บริเวณฟุตปาธ ใกล้สวนสุขภาพลัดโพธิ์ เผยว่า ย้ายมาอยู่ที่พระประแดงได้ 3 ปีแล้ว แม่พูดหลายครั้งว่าอยากมากราบพระบรมรูปทรงงานรัชกาลที่ 9 แต่ไม่มีโอกาส เพราะเช่าบ้านอยู่ชั้น 2 จะเดินทางก็ลำบาก แต่วันนี้ถือเป็นโอกาสพิเศษที่จะได้รับเสด็จในหลวง ร.10 แม่ก็ตั้งใจมาก ถัดบันไดลงมา นั่งรถเข็นมารับเสด็จ เพราะถือเป็นโอกาสพิเศษของชาวพระประแดง ไม่รู้จะมีโอกาสอีกไหม จึงต้องมา

นางจินดา วรมิ่ง และมารดา

ขณะที่ นางสาวภัทรา กะนะลัย อายุ 59 ปี เดินทางมาจากเขตเยาวราชพร้อมเพื่อนสนิท นางกัญจนภัสสร์ ทิพอาสน์ อายุ 50 ปี มาจับจองที่นั่งเฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เผยความรู้สึกหลังรับเสด็จ ว่า รู้สึกปลื้มปีติอย่างมากที่ได้ชื่นชมพระบารมีของพระองค์จนทำให้น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ด้วยใจจริงอยากร่วมปั่นไบค์ อุ่นไอรัก แต่ร่างกายไม่พร้อมจึงตั้งใจมาเฝ้าฯ รับเสด็จ และให้กำลังใจนักปั่นทุกคน

“เป็นกิจกรรมที่อบอุ่นใจมากๆ ปลื้มปีติ และรู้สึกว่าได้ใกล้ชิดกับพระองค์ท่าน น้ำตาไหลเลย อยากให้มีทุกๆ ปี ถ้ามีอีกก็จะมาอีกแน่นอน” ทั้งสองกล่าวด้วยน้ำเสียงตื้นตัน

นางสาวภัทรา กะนะลัย และนางกัญจนภัสสร์ ทิพอาสน์

ด้านนักปั่นจักรยานต่างรู้สึกเป็นสิริมงคลกับชีวิตที่ได้ปั่นจักรยานตามเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นายพายัพ เชื้อสุวรรณ อดีตพนักงานบริษัทวัยเกษียณ อายุ 85 ปี กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า รู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ปั่นจักรยานตามเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นับเป็นเกียรติของชีวิต วันนี้ออกจากบ้านตั้งแต่เช้าเดินทางมาจากดอนเมืองกับเพื่อนๆ ในชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพเสือพหล โดยตนเริ่มปั่นจักรยานตอนอายุ 74 ปี หลังจากที่ผ่าตัดบายพาสหัวใจ และหมอให้ออกกำลังกาย จึงมาปั่นจักรยาน เคยปั่นระยะทางไกลสุด 107 กิโลเมตร จักรยานเป็นกีฬาที่ดีมาก ทำให้ตนมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น

“นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชานุญาตให้จัดกิจกรรมไบค์ อุ่นไอรักขึ้น เพราะเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคม ก่อให้เกิดความรักความสามัคคี และการรวมพลัง อยากให้มีกิจกรรมแบบนี้ทุกปี” นายพายัพกล่าว

ดร.เจนศักดิ์ ชมเชย อายุ 53 ปี ชาวอำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ มาพร้อมนักปั่นจิตอาสาช่างภาพสายบุญ กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า แม้จะเคยเข้าร่วมในกิจกรรมปั่นเพื่อแม่และปั่นเพื่อพ่อที่ผ่านมา แต่ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นกับกิจกรรมประวัติศาสตร์นี้

“ถือเป็นกิจกรรมที่ดี อยากให้จัดต่อเนื่องปีละหน ทั้งนี้ ในกิจกรรมครั้งนี้ผมได้นำจักรยานที่มีอยู่แล้วมาปรับปรุงใหม่ ตั้งแต่ทาสี เปลี่ยนสายเกียร์ ติดตั้งไฟกะพริบหน้าหลัง และประดับอักษรทรงพระเจริญและธงชาติไทย ถือเป็นการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ให้เกิดประโยชน์ และไม่ฟุ่มเฟือย” ดร.เจนศักดิ์กล่าว

ดร.เจนศักดิ์ ชมเชย (ขวา)

 

นับเป็นกิจกรรมที่เปี่ยมไปด้วยความสุขและความปลื้มปีติ

อุ่นไอรัก คลายความหนาว

งานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 19 มกราคม พุทธศักราช 2562 ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า

โดยภายในงานได้จัดแสดงนิทรรศการต่างๆ อาทิ นิทรรศการพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 1-10 รวมทั้งยังมีมุมต่างๆ ให้ได้ถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ ณ พระลานพระราชวังดุสิต ซึ่งจำลองมาจากพระที่นั่งองค์จริง จากพระราชวังบางปะอิน, เรือพระที่นั่งจำลอง 4 ลำ ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์, เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ, เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ ทุกลำสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด

ขณะที่ด้านในสนามเสือป่า พบกับร้านจิตอาสา 904 ร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์ และร้านค้ารับเชิญกว่า 36 ร้าน ทั้งยังมีกิจกรรมการถ่ายภาพ รวมไปถึงมีตลาดเดินชิมริมทาง ตลาดบกวิถี 4 ภาค และตลาดน้ำในฝัน ให้ได้เลือกลิ้มรสอาหารและขนมโบราณ แล้วมาร่วมลุ้นไปกับกิจกรรม “มัจฉาพาโชค” ให้ประชาชนได้ร่วมลุ้นรางวัล ใบละ 25 บาท และสลากการกุศล ราคา 129 บาท รายได้จากการจัดจำหน่ายโดยไม่หักค่าใช้จ่ายนำไปช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ

ขอเชิญชวนแต่งกายในชุดไทยย้อนยุคสมัยรัชกาลที่ 5 หรือชุดไทยแบบต่างๆ ด้วยผ้าไทย ผ้าท้องถิ่น เพื่อสะท้อนวิถีไทยผ่านเครื่องแต่งกาย ร่วมกันเที่ยวชมงานในครั้งนี้ ด้วยความสุข สดใส สนุกสนานเพลิดเพลินและยังได้ร่วมทำบุญโดยเสด็จพระราชกุศลเป็นความสุข

อิ่มบุญ อิ่มใจ ร่วมกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image