สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรไทย

พระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรไทย

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรไทย

พระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรไทย – สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยและทรงคำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนเป็นสำคัญ และทรงมีพระราชปณิธานแน่วแน่ที่จะทำให้ประเทศชาติมั่นคงและประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยมีพระราชประสงค์ที่จะ “สืบสาน รักษา และต่อยอด” โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและแนวพระราชดำริต่างๆ ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในการบำบัดทุกข์และบำรุงสุขให้แก่ปวงชนชาวไทย และพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าสืบไป โดยตลอดปี 2561 ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่เพื่อให้พสกนิกรมีความสุข

นับตั้งแต่ต้นปี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยราชการในพระองค์ หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกันจัดงานขึ้น “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” เพื่อพระราชทานความสุขให้กับประชาชน ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ – 11 มีนาคม 2561 โดยรายได้จากการจัดงานไม่หักค่าใช้จ่าย ทรงนำไปใช้ในการพระราชกุศล บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากภัยและเหตุการณ์ต่างๆ ทั่วภูมิภาคของประเทศ

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯทรงเปิดงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย


จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ครั้งที่ 2 ในวันที่ 9 ธันวาคม 2561-19 มกราคม 2562 เพื่อพระราชทานความสุขให้คนไทยในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯทรงเปิดงานและทรงจักรยานนำพสกนิกรนับแสนคนร่วมกิจกรรมไบค์ อุ่นไอรัก เส้นทางประวัติศาสตร์พระลานพระราชวังดุสิต-คลองลัดโพธิ์ ระยะทางไป-กลับ 39 กิโลเมตร

ยังความปลาบปลื้มและความสุขมาสู่พสกนิกชาวไทย ที่ได้เฝ้าฯ รับเสด็จอย่างใกล้ชิด และได้ร่วมงานอุ่นไอรักฯ โดยงานทั้ง 2 ครั้ง ได้ชุบชีวิตผ้าไทยและชุดไทยในสมัยต่างๆ ให้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง

Advertisement
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจักรยานนำพสกนิกรร่วมกิจรรม ไบค์ อุ่นไอรัก

ก้าวเข้าสู่ฤดูร้อน พสกนิกรชาวไทยได้ร่วมซึมซับความเป็นไทยอีกครั้ง เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดงาน “เถลิงศกสุขสันต์ มหาสงกรานต์ ตำนานไทย” ขึ้น ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า เพื่อร่วมกันปลูกฝังความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณและพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ส่งเสริม สืบสานศิลปวัฒนธรรม และประเพณีอันดีงามของชาติ ตั้งแต่วันที่ 6-8 เมษายน 2561

นอกจากนี้ ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้จัด “พิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศล” ในวาระสำคัญต่างๆ ณ พระลานพระราชวังดุสิต เพื่อสานพระราชปณิธาน “ธรรมราชินี” ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 พร้อมกันนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชานุญาตให้จัดพิมพ์หนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์เพื่อพระราชทานให้แก่ผู้มาร่วมพิธี ซึ่งทรงออกแบบหน้าปกด้วยพระองค์เอง

Advertisement

ในแต่ละครั้งจะมีพสกนิกรชาวไทยเดินทางมาร่วมสวดมนต์อย่างเนืองแน่น ณ พระลานพระราชวังดุสิต ต่างพร้อมใจกันเปล่งเสียงสวดมนต์ถวายเป็นพระราชกุศลและเสริมความเป็นสิริมงคลในชีวิตด้วย

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯไปทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูร้อนพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เพื่อทรงเครื่องสำหรับฤดูฝน โอกาสนี้ ทรงพระสุหร่ายน้ำพระพุทธมนต์สรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรแก่ประชาชนที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จด้วย

หนึ่งพระราชกรณียกิจสำคัญในรัชกาลที่ 10 คือกิจกรรม “จิตอาสาเราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ซึ่งริเริ่มขึ้นจากพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีพระราชประสงค์ให้คนไทยร่วมกันบำเพ็ญประโยชน์สาธารณะ ทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดโครงการสัปดาห์จิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ในการขุดลอกคูคลองที่ตื้นเขิน กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ทำความสะอาดและปรับภูมิทัศน์พื้นที่สาธารณประโยชน์ต่างๆ บริเวณโดยรอบพระราชวังดุสิต

จากความสำเร็จดังกล่าว ภายหลังจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เป็นโครงการจิตอาสาเราทำความ ดี ด้วยหัวใจ ขยายขอบเขตงานไปทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ต่อมาขยายไปยังทุกจังหวัดที่มีเขตพระราชฐาน และปัจจุบันขยายไปทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ

และในเดือนกรกฎาคม 2561 ซึ่งเป็นเดือนมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทุกภาคส่วนได้น้อมนำโครงการจิตอาสาฯ มาปฏิบัติในพื้นที่ตนเอง

นับเป็นพระราชกรณียกิจที่ไม่เพียงเป็นปลุกจิตสำนึกให้คนไทยมีจิตสาธารณะ ยังเป็นอีกหนึ่งพลังที่ช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ไม่น้อย

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯไปถวายผ้าพระกฐินวัดราชบพิธฯ ทรงโบกพระหัตถ์ทักทายประชาชน

นับตั้งแต่เสด็จขึ้นทรงราชย์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยในทุกข์สุขของประชาชน พระราชทานความช่วยเหลือพสกนิกรที่ประสบความเดือดร้อนมิขาดสาย ทั้งจากภัยพิบัติต่างๆ อุทกภัย วาตภัย พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์ เชิญถุงยังชีพพระราชทานไปช่วยเหลือผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระราชูปถัมภ์ และหน่วยงานภาครัฐต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

ไม่ว่าเรื่องใดจะเกิดขึ้นกับพสกนิกรชาวไทย สมเด็จพระจ้าอยู่หัวทรงอยู่เคียงข้างประชาชนเสมอ ดั่งเช่นปฏิบัติการช่วยเหลือ ทีมหมูป่าอะคาเดมี ทั้ง 13 ชีวิต ที่สูญหายไปในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมพระราชทานกำลังใจ ความช่วยเหลือต่างๆ จนกระทั่งสามารถช่วยเหลือเยาวชน 12 คน และโค้ช 1 คน ออกจากถ้ำและคืนกลับสู่อ้อมอกครอบครัวอย่างปลอดภัย

“สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีรับสั่งผ่านราชเลขานุการในพระองค์ว่า พระองค์ทรงห่วงใยเยาวชนทุกคน รวมทั้งให้กำลังใจเยาวชนและครอบครัว พระราชทานพรให้ปลอดภัย นอกจากนี้ พระองค์พระราชทานพรให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานทุกฝ่าย ขอให้สำเร็จ” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

และว่า

“พระองค์พระราชทานคำแนะนำเรื่องการบริหารจัดการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกฝ่าย ทรงให้แนวทางโดยสรุปว่า ให้แบ่งพื้นที่ส่วนหน้า ส่วนหลัง ส่วนสนับสนุน สำหรับประชาชน หรือผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานก็ให้ไปอยู่ในอีกพื้นที่หนึ่ง เพื่อจะได้ไม่กีดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่”

ไม่เพียงพระราชทานกำลังใจ ยังพระราชทาน “โรงครัวพระราชทาน” จิตอาสาเราทำความดี ด้วยหัวใจ เพื่อปรุงอาหารสำเร็จแจกจ่ายให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ ผู้ปกครอง สื่อมวลชน และประชาชนที่มาเกาะติดสถานการณ์ ได้อิ่มท้องพร้อมปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือเด็กๆ

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯไปทรงเป็นประธานในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

ตลอด 17 วันแห่งการค้นหา และท้ายที่สุดเสียงแห่งความยินดีก็กึกก้องไปทั่วประเทศไทยและทั่วโลก เมื่อทั้ง 13 หมูป่าออกมาจากถ้ำอย่างปลอดภัย

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงยินดีด้วยเช่นกัน โดยมีพระราชสาส์นแสดงความยินดี ความตอนหนึ่งว่า

“ข้าพเจ้ามีความปลื้มใจ ยินดี และโล่งใจมาก ที่ได้ทราบว่าเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2561 เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้พบนักฟุตบอลเยาวชนและผู้ฝึกสอนทีมหมูป่าอะคาเดมี่รวม 13 คน ซึ่งสูญหายไปในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2561 แล้ว โดยทุกคนปลอดภัยดี นับเป็นข่าวดีที่เราชาวไทย ตลอดจนชาวต่างประเทศ ที่ได้ติดตามความคืบหน้าของการค้นหามาโดยตลอด ต่างก็มีความชื่นชมยินดีถ้วนหน้า”

ในวันสำคัญต่างๆ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจอย่างสม่ำเสมอ อาทิ วันวิสาขบูชา วันเข้าพรรษา วัยปิยมหาราช วันมหาธีรราชเจ้า วันรัฐธรรมนูญ

นอกจากนี้ พระองค์พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลเข้าเฝ้าฯ ในโอกาสต่างๆ พร้อมได้พระราชทานพระราชดำรัส พระราโชวาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานต่อไป อาทิ คณะผู้พิพากษา คณะตุลาการศาลทหาร คณะอัยการ คณะครู คณะทูต

ดังเช่น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชวโรกาสให้อัยการประจำกอง สำนักงานอัยการสูงสุด เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ พระราชทานพระราชดำรัส ความตอนหนึ่งว่า “บางทีการปฏิบัติก็ต้องใช้การประยุกต์ในทฤษฎีต่างๆ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและเที่ยงธรรม โดยไม่ใช้กฎหมาย หรือช่องโหว่ของกฎหมาย ทำในสิ่งใดที่เป็นอคติ หรือความรู้สึกที่ไม่ดี หรือเป็นทาสของสิ่งต่างๆ ที่ไม่ดี ก็คือ รู้จักตัวเอง รู้จักความถูกต้อง รู้จักศีลธรรม หรือความเมตตาธรรม เพราะปัญหามีตลอด หน้าที่ของท่านคือทำงาน และต้องแก้ปัญหา เพื่อให้บ้านเมืองและส่วนรวม เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสิริมงคลก็จะเกิดขึ้นแก่ตัวเอง และส่วนรวม”

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำต่างประเทศ เข้าเฝ้าฯกราบถวายบังคมลา ในโอกาสที่จะเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่

ด้วยพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงห่วงใยความเป็นอยู่ของประชาราษฎร์ นอกจากพระราชกรณียกิจต่างๆ แล้ว “บัตรอวยพร” และ “สมุดไดอารี ภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์” เป็นอีกหนึ่งพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทย

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานภาพวาดฝีพระหัตถ์ ชุด “ครอบครัวออกกำลังกาย” เพื่อให้จัดทำบัตรอวยพรประจำปีพุทธศักราช 2562 พร้อมข้อความด้วยลายพระหัตถ์ และทรงลงพระปรมาภิไธยกำกับไว้ จำนวน 4 แบบ จากภาพวาดฝีพระหัตถ์พระราชทานดังกล่าวเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าพระองค์ทรงให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัว ความเอาใจใส่ต่อสุขภาพกาย สุขภาพใจ และหวังให้ประชาชน ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการมีสุขภาพที่ดี ด้วยการออกกำลังกาย อันเป็นกิจกรรมดีๆ ที่สมาชิกในครอบครัวสามารถทำร่วมกันได้ทั้งที่บ้านหรือสถานที่อื่นๆ

โดยรายได้จากการจัดทำบัตรอวยพรและไดอารีจะนำไปใช้ในพระราชกุศลบำบัดทุกข์ บำรุงสุขของประชาชน และผู้ได้รับความเดือดร้อนจากภัยคุกคามต่างๆ ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถหาซื้อไว้เป็นการส่วนตัว หรือส่งไปยังบุคคลอันเป็นที่รักและเคารพได้ อีกทั้งยังได้มีส่วนร่วมในการทำบุญทำกุศลในกิจการพระราชกุศลต่างๆ ร่วมกันด้วย

โรงครัวพระราชทาน
โปรดเกล้าฯ องคมนตรีเชิญถุงยังชีพพระราชทานไปมอบแก่พสกนิกรผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติต่างๆ

นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพรปีใหม่ 2562 แก่ประชาชนชาวไทย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image