ความภาคภูมิใจ แพทย์-นักสาธารณสุข รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล 2561
เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก จึงเป็นที่มาของการพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ซึ่งมอบรางวัลให้แก่บุคคลหรือองค์กรที่มีผลงานดีเด่นด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ดำเนินมาแล้ว 27 ปี
การนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ในพิธีพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี พ.ศ.2561 ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง และในงานพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำ ณ พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร
โดยผู้ได้รับรางวัลพระราชทานปีนี้ต่างเปิดใจด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เริ่มที่ผู้คิดค้นยารักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดซีเอ็มแอล จนทำให้ผู้ป่วยมีอายุยืนขึ้น ศ.นพ.ไบรอัน เจ. ดรูเคอร์ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งไนท์ มหาวิทยาลัยการแพทย์และวิทยาศาสตร์แห่งโอเรกอน สหรัฐอเมริกา ได้รับรางวัลสาขาการแพทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันการรักษาโรคมะเร็งเป็นการรักษาด้วยเคมีบำบัด ซึ่งมีปัญหาแทรกซ้อนและผลข้างเคียง แต่ยาตัวนี้มีผลกระทบค่อนข้างน้อย ทำให้คนไข้มีชีวิตยืนยาวขึ้น จากปกติผู้ป่วยจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 3-5 ปี แต่เมื่อได้รับยาอิมาทินิบพบว่าผู้ป่วยร้อยละ 95 มีอายุยืนยาวกว่า 5 ปี ซึ่งถือเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่และอนาคตจะขยายไปยังมะเร็งชนิดอื่นๆ
“คิดว่าการตรวจเรื่องพันธุกรรมจะมีส่วนสำคัญมากในอนาคต ไม่ว่าผู้ป่วยจะเป็นมะเร็งช่วงแรกหรือระยะร้ายแรง วิธีการตรวจพันธุกรรมจะสามารถช่วยรักษาคนไข้ได้ ปัจจุบันมีหลายประเทศมีศักยภาพในการตรวจพันธุกรรมมากขึ้น รวมทั้งประเทศไทยที่มีการตั้งสถาบันพันธุกรรม”
“สำหรับรางวัลนี้ ผมรู้สึกเป็นเกียรติ การมาถึงจุดนี้ได้เริ่มต้นจากการอยากจะช่วยเหลือผู้อื่น ที่ผ่านมาได้เห็นผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว ได้กลับบ้านมีชีวิตตามปกติ มีลูกมีหลาน ทำให้ผมมีกำลังใจในการทำงานต่อไป” ศ.นพ.ไบรอันกล่าว
ขณะที่แพทย์ผู้มีคุณูปการต่อผู้ป่วยมะเร็งอีกคน ศ.ดร.แมรี่ แคลร์ คิง จากภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับรางวัลสาขาการแพทย์เช่นกัน กล่าวว่า โรคมะเร็งเต้านมสามารถส่งผ่านทางพันธุกรรม จึงแนะนำอยากให้ผู้หญิงที่มีความเสี่ยง คือหากมีมารดาหรือคนในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งเต้านม ก็ควรจะตรวจเช็กร่างกาย หากพบว่าเป็น ให้ติดตามผลอย่างใกล้ชิด และรักษาอย่างทันท่วงที
ศ.ดร.แมรี่ เป็นผู้ค้นพบยีนที่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งเต้านมที่ถ่ายทอดได้ทางกรรมพันธุ์ และพัฒนาการตรวจยีนมะเร็งด้วยเทคนิคใหม่เพื่อสามารถนำไปใช้ได้ทั่วโลก ส่งผลให้ปัจจุบันการตรวจหายีนมะเร็งมีราคาถูกจนคนเข้าถึงได้จำนวนมาก ป้องกันการเสียชีวิตจากการลุกลามของโรคได้อย่างกว้างขวาง
“ดิฉันมีหลักคิดในการทำงาน 2 ส่วน คือการทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมและความอยากรู้อยากเห็น และอยากทำสิ่งใหม่ๆ ที่ผ่านมาทำงานด้วยความรักและใส่ใจ จึงเป็นที่มาของผลงานนี้” ศ.ดร.แมรี่กล่าว
ขณะที่ผู้ได้รับรางวัลสาขาการสาธารณสุข ศ.นพ.จอห์น ดี. คลีเมนส์ ผู้อำนวยการบริหารศูนย์วิจัยโรคท้องร่วงนานาชาติ ประเทศบังกลาเทศ พร้อมด้วย ศ.นพ.ยอน อาร์. โฮล์มเกรน ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งมหาวิทยาลัยโกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน กล่าวร่วมกันว่า พวกเราเลือกเรียนแพทย์เพราะคิดว่าจะสามารถช่วยคนได้ และจากการทำวิจัยครั้งนี้ได้พบว่าโรคอหิวาตกโรค เป็นโรคที่เกิดขึ้นกับคนยากจนเป็นส่วนใหญ่และไม่มีทางเลือกที่จะป้องกันได้ จึงมีความภูมิใจและสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยที่ยากจนให้หายจากโรคนี้ได้ อย่างไรก็ตาม จากการวิจัยและพัฒนาต่างๆ เราคาดหวังว่าในปี ค.ศ.2030 จะไม่มีโรคอหิวาตกโรคในโลกนี้อีก
ศ.นพ.จอห์น ดี. และ ศ.นพ.ยอน อาร์. ทำงานร่วมกันเป็นเวลากว่า 30 ปี ในการศึกษาค้นคว้าวิจัย และพัฒนาวัคซีนป้องกันอหิวาตกโรคชนิดกิน ซึ่งมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันมากกว่าวัคซีนชนิดฉีด ทำให้ช่วยป้องกันโรคได้ในวงกว้าง ลดการเสียชีวิตจากอหิวาตกโรคได้ในประชากรหลายล้านคนทั่วโลก
การคิดค้นและพัฒนาสุดยิ่งใหญ่