พระสังฆราช ทรงเป็นปธ.ฝ่ายสงฆ์ นายกฯ ปธ.ฝ่ายฆราวาส พิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ วัดสุทัศนฯ

เมื่อเวลา 17.03 น. วันที่ 18 เมษายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ เบื้องหน้าพระศรีศากยมุนี พระสำคัญสมัยรัชกาลที่ 1 ณ วิหารหลวง วัดสุทัศนเทพวราราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ โดยมี นายพรเพชร พิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ, นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา, นายปิยะ ปะตังทา ประธานศาลปกครองสูงสุด, นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง, พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ, พล.อ.ชนะทัพ อินทามระ ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน, พล.อ.วิทวัส รัชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและรักษาการจราจรงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก, นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานกรรมการฝ่ายกลั่นกรองการขอใช้งบประมาณงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก, นายวิษณุ เครืองาม ประธานกรรมการฝ่ายจัดพิธีการงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พร้อมด้วยคณะผู้นำเหล่าทัพ ร่วมในพิธีดังกล่าว

เมื่อ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จถึงมณฑลพิธีพระวิหารหลวง นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และ ประธานศาลฎีกา ร่วมกันถวายพัดรองที่ระลึกแด่พระสงฆ์จำนวน 68 รูป พระสงฆ์สวดภาณวาร จำนวน 4 รูป ได้แก่ พระประสิทธิสุตคุณ, พระครูสุนทรโชตยานุวัตร, พระมหากรวิก อหึโก, พระมหาคำแสน มงคลเสวี จากวัดสุทัศนเทพวราราม และ พระนั่งปรก (เจริญจิตภาวนา) จำนวน 5 รูป ได้แก่ พระเทพสังวรญาณ วัดบวรนิเวศวิหาร, พระภาวนาวิสุทธิโสภณ วัดประดู่, พระโสภณพัฒนคุณ วัดพุน้อย, พระบวรรังษี วัดระฆังโฆสิตาราม และพระนันทวิริยาภรณ์ วัดสว่างอารมณ์

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จุดธูปเทียนเครื่องนมัสการที่หน้าพระศรีศากยมุนี พระประธานพระวิหารหลวง กราบที่แท่นกราบ แล้วไปยังหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ ถวายราชสักการะ ถวายความเคารพ เมื่อกลับไปนั่งยังเก้าอีที่จัดไว้ เจ้าหน้าที่กรมการศาสนา อาราธนาศีล สมเด็จพระสัฆราช ให้ศีล จบ นายกรัฐมนตรี ไปยังตู้เทียนชัย สมเด็จพระสังฆราช เสด็จไปยังตู้เทียนชัย ทรงเจิมเทียนชัย เจ้าหน้าที่มอบเทียนชนวนที่จุดไฟให้แก่นายกรัฐมนตรี แล้วนายกรัฐมนตรี ถวายเทียนชนวนแด่ สมเด็จพระสังฆราช

Advertisement

กระทั่งเวลา 17.14 น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงจุดเทียนชัย ส่งเทียนชนวนคืนนายกรัฐมนตรี และเสด็จกลับไปประทับ ณ อาสน์สงฆ์ เมื่อนายกรัฐมนตรี ส่งเทียนชนวนคืนแก่เจ้าหน้าที่ แล้วเดินไปยังด้านหน้าพระประธาน รับเทียนชนวนจากเจ้าหน้าที่ จุดเทียนวิปัสสี จุดเทียนมหามงคล และเทียนมหาหรคุณ แล้วส่งเทียนชนวนคืนให้แก่เจ้าหน้าที่ แล้วนายกรัฐมนตรี กลับไปนั่งยังเก้าอี้ พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ จุดธูปเทียนบูชาเทพยดา แล้วอ่านประกาศชุมนุมเทวดา เจ้าหน้าที่กรมศาสนา อาราธนาพระปริตร พระสงฆ์ 68 รูป เจริญพระพุทธมนต์ สมเด็จพระสังฆราช เสด็จลงจากอาสน์สงฆ์ที่ประทับ ทรงโปรยข้าวตอก ดอกไม้ และทรงประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ที่คนโทน้ำพระพุทธมนต์จากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ภายในราชวัติ

Advertisement

พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ถวายคันประทีป สั่นกระดิ่ง และโปรยข้าวตอก ดอกไม้ ที่คนโทน้ำพระพุทธมนต์จากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศภายในราชวัติ จากนั้น นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประธานศาลฎีกา ร่วมกันถวายจตุปัจจัยไทยธรรม และถวายย่ามปักตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก แล้วนายกรัฐมนตรี กรวดน้ำ แล้วนายกรัฐมนตรีไปยังหน้าพระสวดภาณวาร จุดเทียนทอง-เงิน และเครื่องบูชากระบะมุก เจ้าหน้าที่กรมการศาสนา อาราธนาพระสวดภาณวาร จุดเทียนพุทธาภิเษก ข้างตู้เทียนชัยซ้าย-ขวา นายกรัฐมนตรี ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประธานศาลฎีกา เดินทางกลับ

ต่อมาเวลา 20.10 น. สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตรวิทยาราม เดินทางมาถึงพระวิหารหลวง วัดสุทัศนเทพวราราม นั่งยังอาสน์สงฆ์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เชิญใบพลู สมเด็จพระพุฒาจารย์ เดินไปยังตู้เทียนชัย รมว.มหาดไทย ถวายใบพลูแด่สมเด็จพระพุฒาจารย์ จากนั้น สมเด็จพระพุฒาจารย์ บริกรรมคาถา และดับเทียนชัย เป็นอันเสร็จพิธี

สำหรับวันที่ 19 เมษายน เวลา 07.30 น. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยจะนำผู้บริหาร มท. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด เดินริ้วขบวนเชิญคนโทน้ำอภิเษก จากวัดสุทัศนเทพวราราม ไปยังพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ใช้เส้นทางถนนบำรุงเมือง ตรงไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชดำเนินกลาง ผ่านแยกผ่านพิภพลีลา เข้าถนนราชดำเนินใน ถึงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม รวมระยะทาง 1,940 เมตร ก่อนจะมีพิธีจารึกพระสุพรรณบัฏ ดวงพระราชสมภพ แกะพระลัญจกร ในวันที่ 23 เมษายนต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนจากทุกสารทิศพร้อมใจสีชุดสีเหลืองและชุดสุภาพมาร่วมในพิธีเสกน้ำอภิเษก ณ วัดสุทัศนเทพวราราม เป็นจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดให้นั่งโดยรอบระเบียบแก้ว บริเวณรอบพระอุโบสถที่ประกอบพิธี โดยต่างพนมมืออย่างตั้งใจ

นางสุวรรณา เคนน้ำเที่ยง อายุ 64 ปี ชาวเขตหนองแขม กรุงเทพฯ มาพร้อมกลุ่มเพื่อนๆตั้งใจมาสวดมนต์ในพิธี กล่าวทั้งรอยยิ้มว่า เดินทางมาตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อชมขบวนเชิญคนโทน้ำอภิเษก ซึ่งงดงามและยิ่งใหญ่มาก ก่อนปักหลักรออยู่รอบๆ วัดและเข้ามาสวดมนต์ในพิธีเสกน้ำอภิเษกดังกล่าว รู้สึกภูมิใจมากที่ได้มาร่วมในพิธี ถือเป็นบารมีแก่ตัวเองด้วย เป็นการสร้างบุญอันยิ่งใหญ่ และได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะตอนพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ของรัชกาลที่ 9 เกิดไม่ทัน จึงอยากมาดูให้เห็นกับตาตัวเองในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ของรัชกาลที่ 10 ทั้งนี้ ในวันที่ 5 พฤษภาคม เสด็จฯ เลียบพระนครด้วยขบวนพยุหยาตราสถลมารค และวันที่ 6 พฤษภาคม เสด็จออก ณ สีหบัญชร ตนและเพื่อนๆตั้งใจมาปักหลักรอเพื่อจะเข้าจับจองพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม เพราะอยากอยู่ร่วมในพระราชพิธีประวัติศาสตร์ ยิ่งใกล้ถึงวันพระราชพิธีตนและเพื่อนต่างรู้สึกตื่นเต้นมาก

นายเสริฐ (ไม่ประสงค์ออกนาม) อายุ 67 ปี ชาวจ.นนทบุรี ข้าราชการบำนาญกองทัพอากาศ พนมมือและร่วมสวดมนต์อย่างตั้งใจ กล่าวว่า ตั้งใจเดินทางมาสวดมนต์ เพราะเป็นคนชอบสวดมนต์อยู่แล้ว และเป็นคนที่จงรักภักดีสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมาก ด้วยเป็นทหารเก่าซึ่งเคยมีโอกาสได้เป็นหัวหน้าชุดควบคุมดูแลการซ่อมเครื่องบิน เอฟ5บี และเคยมีโอกาสได้ถวายงานพระองค์ จึงรักพระองค์และติดตามข่าวสารมาตลอด และมาร่วมพิธีต่างๆของพระราชพิธีบรมราชาภิเษกให้ได้ เพื่อแสดงความจงรักภักดี ในฐานะพสกนิกรคนไทยคนหนึ่ง ตนตั้งใจจะเป็นราษฎรที่ดีต่อประเทศชาติและต่อพระองค์ สิ่งที่ทำทุกวันนี้คือการสวดมนต์ คิดดี ทำดี ปฏิบัติดี จึงอยากเชิญชวนคนไทยมามาเป็นราษฎรที่ดีต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image