เมื่อเวลา 13.14 น. วันที่ 21 เมษายน ที่อาคารสวนเจ้าเชตุ หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ถนนสนามไชย กรุงเทพฯ กองอำนวยการจัดริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ พยุหยาตราสถลมารค ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ได้จัดประชุม ซึ่งมี พล.อ.ชัยชนะ นาคเกิด เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เป็นประธานการประชุม และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ กองทัพภาคที่ 1, กรมศิลปากร, กรุงเทพมหานคร ฯลฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมได้มีการรายงาน ผลการซักซ้อมริ้วขบวนพยุหยาตราสถลมารค เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา โดยสรุปว่าจากกำหนดที่คาดว่าจะใช้เวลาฝึกซ้อม 4 ชั่วโมงครึ่ง ปรากฏว่าใช้เวลาจริง 5 ชั่วโมง 51 นาที แบ่งเป็นการเดินอย่างเดียว 4 ชั่วโมงครึ่ง เวลาพัก 1 ชั่วโมง 23 นาที โดยระยะทางจากพระบรมมหาราชวัง ไปยังวัดบวรนิเวศวิหาร ใช้เวลา 70 นาที จากวัดบวรนิเวศวิหาร ไปยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ใช้เวลา 100 นาที วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ไปยังวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ใช้เวลา 20 นาที และจากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เทียบเกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ ในพระบรมมหาราชวัง ใช้เวลา 50 นาที
ทั้งนี้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้ปรับปรุงรูปแบบการเดินเป็นยกเท้าสูง 25 เซนติเมตร ด้วยลักษณะการงุ้มปลายเท้า ขนานกับพื้น นอกนั้นก็ปรับปรุงตามข้อสั่งการ พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ แม่ทัพภาคที่ 1 ที่ได้สั่งการให้ชุดตำรวจ ทหาร กทม. ตรวจเส้นทางริ้วขบวนล่วงหน้า 1 ชั่วโมงว่ามีสิ่งกีดขวางเป็นอุปสรรคต่อการเดินริ้วขบวนหรือไม่ โดยขอให้ปฏิบัติข้อนี้ด้วยความเคร่งครัดและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ในส่วนของกรมศิลปากรได้รายงานความคืบหน้าการติดตั้งเสาชัยทั้งด้านซ้ายและขวาบริเวณเกยทั้ง 3 วัด เพื่อให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประคองพระองค์ระหว่างทรงพระดำเนินขึ้นลงเกย พบว่าเกยบริเวณวัดบวรนิเวศวิหารและวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม มีความกว้าง 1.65 เมตร แต่เกยบริเวณวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม จะหน้าแคบกว่าเหลือเพียง 87 เซนติเมตร จึงเสนอติดตั้งเสาชัยทีละเสา และสามารถถอดสอดสลับข้างได้ระหว่างเสด็จฯเข้าวัด รวมทั้งเกยที่ระเบียงคดวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ที่ต้องใช้แนวทางดังกล่าว เพราะหน้าแคบ นอกนั้นก็รายงานผลการปรับปรุงแก้ไขจากการซักซ้อมพื้นที่ครั้งแรก อาทิ ต้องเพิ่มเส้นสะท้อนแสงตั้งแต่ออกจากวัดบวรนิเวศวิหารเป็นต้นไป เพราะจะเป็นเวลาช่วงพลบค่ำ รวมถึงฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ประชาชนที่จะมาชมริ้วขบวนที่ 3 อย่าถ่ายภาพเจ้าหน้าที่ระหว่างพักขบวนหรือดื่มน้ำ แต่สามารถถ่ายภาพระหว่างเดินริ้วขบวนได้
ทั้งนี้ ในการซ้อมเดินริ้วขบวนที่ 3 พื้นที่จริงครั้งที่สองนี้ จะมีการสมมุติพิธีการในพระบรมมหาราชวังตามจริง ตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จลงจากรถยนต์พระที่นั่งไปยังเกยพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท ประทับบนพระราชยานพุดตานทอง เริ่มตั้งขบวนพระบรมราชอิสริยยศพยุหยาตราสถลมารค เวลา 16.20 น. รวมทั้งมีการฝึกซ้อมยิงปืนใหญ่สลุต บริเวณท้องสนามหลวง 2 นัด นัดแรกตอนเริ่มเคลื่อนขบวนและนัดที่สองยิงปิดท้ายเสร็จสิ้น โดยในวันพระราชพิธีจริง 5 พฤษภาคม 2562 จะมีการยิงปินใหญ่สลุตทั้งสิ้น 21 นัด
