เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 เมษายน กองทัพเรือ จัดให้มีการซ้อมใหญ่การเชิญเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์จาก อู่หมายเลข 1 อู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ ไปจอดบริเวณท่าราชวรดิฐ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 4 – 6 พฤษภาคม และใช้ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราชลมารค ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดในช่วงเสด็จฯ ไปในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวราราม ในช่วงปลายเดือนตุลาคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการซักซ้อมใหญ่ครั้งนี้ พล.ร.ต.มาศพันธุ์ ถาวรามร เจ้ากรมการขนส่งทหารเรือ ผู้อำนวยการซ้อมใหญ่ คอยกำกับดูแล มี น.อ.อ.เกษม เอี่ยมสุพันธ์ นายเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ นำกำลังพลประจำเรือไหว้แม่ย่านาง จากนั้นเคลื่อนเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ออกจากอู่ทหารเรือธนบุรี ไปยังท่าราชวรดิฐ ระยะทางประมาณ 100 เมตร ซึ่งมีการซักซ้อมทั้งการเทียบเรือ แบบทวนน้ำ และตามน้ำ ไปจนถึงการนั่งประจำเรือ โดยได้ซักซ้อมจนถึงเวลา 13.30 น.
ทั้งนี้ ในวันที่ 4 พฤษภาคม เวลา 11.00 น. จะนำเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เทียบท่าราชวรดิฐ เป็นเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศ ขบวนเรือจะนำเรือเทียบที่ท่าราชวรดิฐ เมื่อเรือเทียบกับโป๊ะเรือแล้ว พนักงานรับเชือกจะนำเชือกไปผูกกับโป๊ะเรือ ก่อนที่กำลังพลประจำเรือ จะถวายบังคม 3 ครั้ง ขานพระปรมาภิไธยเต็ม และจะอยู่บนเรือเช่นนั้นจนกว่าจะเสร็จพระราชพิธีตามพระราชกิจในพระบรมมหาราชวัง ขณะที่วันที่ 5 พฤษภาคม กำลังพลจะขึ้นบนเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เวลา 17.00 น. แล้วถวายบังคมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อริ้วขบวนพยุหยาตราสถลมารคเคลื่อนผ่าน ขณะที่วันที่ 6 พฤษภาคม กำลังพลจะขึ้นเรือเวลา 17.00 น. และนำเรือกลับเข้าอู่เวลา 21.00 น. จากนั้นในวันที่ 7 พฤษภาคม ทำการถอดบุษบกพร้อมนำเรือเข้าเก็บรักษา เพื่อเตรียมสำหรับการเสด็จพระราชดำเนินพยุหยาตราชลมารคต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ราชนาวิกสภา ประชาชนชาวฝั่งธนบุรีที่ได้ทราบข่าว ต่างเดินทางมาร่วมชมการซักซ้อมเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ บ้างจูงลูกหลานมาดู เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต ต่างนำเอาสมาร์ทโฟนและกล้องถ่ายภาพมาบันทึกความทรงจำ อาทิ นางสุพัตร สุวรรณปัญญา อายุ 85 ปี ชาวบางกอกน้อย ที่เดินทางมาชมความงดงามของเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เผยว่า มาร่วมชมขบวนเรือทุกครั้งที่จะมาได้ มาชมหลายครั้งแล้ว ทุกครั้งมีความงามที่น่าจดจำ ทำให้ภูมิใจในความงดงาม และวัฒนธรรมของคนไทย เป็นบุญที่ได้ชม และอยากให้คนรุ่นใหม่ได้มาสัมผัสกับความงดงามนี้เช่นกัน
ขณะที่ นางสาวมนต์สินี ไชยพิทักษ์กุล ชั้นม.5 โรงเรียนหอวัง และ นางสาวพิจิตรา มีมงคล ชั้นม.6 โรงเรียนราชโบริกานุเคราะห์ ราชบุรี ที่มาร่วมเป็นจิตอาสาเก็บภาพความประทับใจในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เผยร่วมกันว่า ก่อนหน้านี้มีโอกาสได้ไปถ่ายภาพพิธีพลีกรรมตักน้ำที่จ.สุพรรณบุรี และถ่ายภาพการซักซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศเสด็จฯ เลียบพระนครสถลมารค วันนี้ได้มาถ่ายภาพเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ รู้สึกประทับใจในความสวยงาม ยิ่งมองผ่านเลนส์ยิ่งรู้สึกประทับใจยิ่ง เพราะแม้เคยมาดูแต่ก็นานมากแล้ว งานพระราชพิธีครั้งนี้นับได้ว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต ตื่นเต้นทุกครั้งที่จะได้มาถ่ายภาพ ได้เห็นความงดงามของวัฒนธรรมไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ท่าราชนาวีสโมสรและท่าราชวรดิฐ กองทัพเรือได้เปิดจุดคัดกรองเพื่อให้ประชาชนชมการฝึกซ้อมและความงดงามของเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ โดยกำหนดให้เข้าชมรอบละ 250 คน ประชาชนจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนก่อนเข้าสู่พื้นที่ ซึ่งมีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้ความสนใจเดินทางมาชมความงดงามของเรือพระที่นั่งสุพรรรณหงส์อย่างคึกคัก ส่วนใหญ่สวมใส่เสื้อสีเหลืองมาจับจองพื้นที่ตั้งแต่เช้า รวมถึงนำกล้องถ่ายภาพและสมาร์ทโฟนมาบันทึกภาพความสง่างามของการซักซ้อมเทียบเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เก็บไว้เป็นความทรงจำด้วยความตื่นตาตื่นใจ
เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เดิมชื่อ เรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส์ สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เป็นเรือพระที่นั่งขนาดเล็ก ลักษณะคล้ายนก ปากแหลมยื่นยาว และมีเขี้ยว ส่วนลำคอยืดยาว ทอดลำตัวเป็นลำเรือ ต่อมาในรัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดเรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส์ ทรงพระบรมธาตุที่อัญเชิญมาจากเวียงจันทน์ เมื่อ พ.ศ.2370 ต่อมาเรือพระที่นั่งมีสภาพชำรุดทรุดโทรมมาก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการบูรณะ
เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ลำปัจจุบัน เป็นเรือที่สร้างขึ้นใหม่ แทนเรือพระที่นั่งลำเดิม ที่ชำรุดจัดเป็นเรือพระที่นั่งกิ่ง มีนาวาสถาปนิกต่อเรือคือ พลเรือตรี พระยาราชสงคราม รน (กร หงสกุล) เริ่มสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แล้วเสร็จประกอบพิธีอัญเชิญเรือลงน้ำเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2454 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว การนี้ พระราชทานนามว่า “เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์” ลักษณะตัวเรือ โขนเรือเป็นรูปหงส์ ไม้ลงรักปิดทองประดับกระจก ศิลปะรัตนโกสินทร์พุทธศตวรรษที่ 24 ท้องเรือภายนอกทาสีดำ ภายในทาสีแดง มีความยาว 44.90 เมตร ความกว้าง 3.14 เมตร ลึก 0.90 เมตร กินน้ำลึก 0.41 เมตร หนัก 15.6 ตัน ปัจจุบันเก็บรักษาที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี กรมศิลปากร คลองบางกอกน้อย
ทั้งนี้ การจัดกำลังพลประจำเรือในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งนี้ ใช้กำลังพล กองทัพเรือ จำนวน 64 คน ประกอบด้วย ฝีพาย 50 คน นายท้าย 2 คน นายเรือ 2 คน คนถือธงสามชาย 1 คน พลสัญญาณ 1 คน คนเห่เรือ 1 คน และคนถือฉัตร 7 คน สำหรับพระราชพิธีในครั้งนี้ได้เชิญบุษบกมาติดตั้งแทนบัลลังก์กัญญา ซึ่งเป็นองค์เดิมที่เก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี
