เมื่อเวลา 16.29 น. วันที่ 2 พฤษภาคม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมราชานุสรณ์ พระลานพระราชวังดุสิต ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสรณ์ พระลานพระราชวังดุสิต การนี้ สมเด็จพระราชินีสุทิดา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา โดยเสด็จฯ ด้วย
ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงวางพานพุ่มดอกไม้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงกราบ แล้วประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จฯ ไปยังปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า
ต่อมาเวลา 16.38 น. รถยนต์พระที่นั่งถึงยังปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงวางพานพุ่มดอกไม้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงกราบ จากนั้นประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จฯไปยังศาลหลักเมือง โดยมี คณะองคมนตรี อาทิ นายเกษม วัฒนชัย, พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา, พล.ร.อ.พงษ์เทพ หนูเทพ, พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท และ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม , พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน, นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกทม. และข้าราชการ เฝ้าฯรับเสด็จ
เวลา 16.48 น. รถยนต์พระที่นั่งถึงศาลหลักเมือง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จเข้าหอพระพุทธรูป ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ทรงกราบ เสด็จเข้าศาลหลักเมือง ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะศาลหลักเมือง ทรงกราบ เสด็จเข้าศาลเทพารักษ์ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะ พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระกาฬชัยศรี เจ้าหอกลอง เจ้าเจตคุปต์ ทรงกราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สะพานพุทธ ประชาชนจำนวนมากได้แต่งกายด้วยเสื้อสีเหลือง มารอรับเสด็จที่กำแพงโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย อันเป็นเส้นทางเสด็จฯผ่าน โดยต่างเปล่งเสียง ทรงพระเจริญและซาบซึ้งที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโบกพระหัตถ์ให้
นายอนนท์ วิมุกตายน อายุ 51 ปี ชาวจ.พิจิตร ที่เดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อร่วมรับเสด็จในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 กล่าวว่า รู้จากหมายกำหนดการ ว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จฯมาที่สะพานพุทธ เมื่อลงรถไฟที่หัวลำโพงก็รีบนั่งรถมาที่นี่เพื่อรับเสด็จ นับเป็นบุญอย่างยิ่งที่ได้เห็นพระองค์จากระยะใกล้ รู้สึกตื่นเต้น เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้รับเสด็จฯ แม้จะเป็นปีที่ 4 ในรัชกาล ยิ่งได้เห็นสมเด็จพระราชินี ยิ่งรู้สึกเป็นบุญ พระองค์ทรงพระสิริโฉมงดงาม เราไม่เคยได้เห็นมาก่อน สำหรับงานพระราชพิธีนี้ก็เตรียมตัวไว้มาก ซื้อเสื้อสีเหลืองไว้ครึ่งโหล เตรียมจะใส่ในช่วงงานพระราชพิธี ในฐานะคนไทยคนหนึ่งการได้ร่วมในงานมงคลเช่นนี้ ถือเป็นบุญกับชีวิต
ขณะที่ นายธนาวุฒิ โชควนากุล อายุ 34 ปี เดินทางมาจากย่านจรัญสนิทวงศ์ เพื่อมาร่วมรับเสด็จ เผยว่า รู้สึกปลาบปลื้มใจ ที่มีโอกาสรับเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะตอนแรกคิดว่าจะมาไม่ทันแล้ว เสียดายที่ได้เห็นสมเด็จพระราชินีไม่ชัด หากมีโอกาสจะเดินทางไปเฝ้าฯรับเสด็จที่ต่างๆ อยู่เสมอ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 9 ที่จะไปอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช การได้เห็นพระองค์ เหมือนเป็นการเติมกำลังใจให้ชีวิตได้สู้ต่อไป พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ นับได้ว่าทรงมีบุญคุณกับคนไทย ยิ่งในสถานที่แห่งนี้ หากมีโอกาสก็จะมากราบสักการะรัชกาลที่ 1 อยู่เสมอ
“ประทับใจในโครงการจิตอาสาเราทำความ ดี ด้วยหัวใจ ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงช่วยเหลือประชาชน เป็นการทำความดีที่ออกมาจากหัวใจ วันนี้นับได้ว่าเป็นวันมงคล เมื่อพระองค์ทรงมีสมเด็จพระราชินี คู่พระบารมี ทรงเป็นกำลังใจให้แก่กัน ในช่วงงานพระราชพิธีนี้ ก็จะไปรับเสด็จแน่นอน โดยได้ไปดูสถานที่ต่างๆแล้ว คาดว่าจะไปรอรับเสด็จที่วัดราชนัดดาฯ เตรียมเสื้อไปหลายตัว เตรียมน้ำ และที่สำคัญคือใจ แม้ว่าอากาศจะร้อนก็ตาม” นายธนาวุฒิกล่าว
