ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ! มหรสพสมโภชฯ วันแรก ปชช.ร่วมงานคึกคัก แจกภาพประวัติศาสตร์ 7 วัน 7 แบบ (คลิป)

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม รัฐบาลโดยคณะกรรมการฝ่ายโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ และคณะอนุกรรมการจัดมหรสพสมโภช เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จัด งานมหรสพสมโภช เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ระหว่างวันที่ 22-28 พฤษภาคม ณ ท้องสนามหลวง

เวลา 19.30 น. ที่บริเวณสนามหลวง ฝั่งทิศใต้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานเปิดงาน ซึ่งมี นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ผู้บริหาร วธ. ตลอดจนข้าราชการ และประชาชนให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ นายวิษณุเปิดกรวยกระทงดอกไม้ถวายราชสักการะ หน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นกล่าวราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ และนำขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีจอมราชา ก่อนเริ่มทำการแสดงในชุดรำถวายพระพร “อาศิรวาททวยราษฎร์น้อมเกล้าฯ ถวายจอมราชัน” ที่ผู้แสดงแต่งกายเป็นเทพบุตรเทพธิดามือถือดอกไม้เงินและทองออกมาร่ายรำ ซึ่งการรำถวายพระพรและรำโคม ถือเป็นการแสดงที่ปรากฏมาตั้งแต่โบราณเนื่องในโอกาสมหามงคล แต่หนนี้ นายเกษม ทองอร่าม ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ได้สร้างสรรค์บทร้องขึ้นใหม่ ร่วมกับศิลปินแห่งชาติและผู้เชี่ยวชาญต่างๆ มาร่วมประดิษฐ์ท่ารำใหม่

ต่อมาเป็นการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ชุดพระบารมีเกริกฟ้ารามาวตาร แบ่งเป็น 3 ตอนย่อย ได้แก่ สถลมาศเฉลิมราชจักรี เล่ห์สุรีเมืองลงกา และบรมราชาภิเษกพระราม มีเนื้อหาตั้งแต่พระรามคิดยกทัพข้ามมหาสมุทรไปทำสงครามกับทศกัณฐ์เพื่อชิงนางสีดา จนกระทั่งเสร็จศึกลงกา พระรามยกทัพกลับกรุงอโยธยา ทรงรับการบรมราชาภิเษกเป็นกษัตริย์องค์ที่ 3 ปกครองบ้านเมืองผาสุกร่มเย็นด้วยทศพิธราชธรรม จัดแสดงโดยกรมศิลปากร สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และมูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง และการแสดงแสงสีเสียงม่านไฟประดับชุด “แสงแห่งพระมหากรุณาธิคุณอบอุ่นหล้า” ซึ่งเป็นงานประดับไฟครั้งแรกบนพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตรให้ได้ชมความงดงามตระการตาไปกับสวนดอกไม้และต้นไม้แอลอีดีนับ 10,000 ดวงที่ส่องประกายสว่างไสว พร้อมการแสดงม่านน้ำ นำเสนอเรื่องราวความงดงามของเจ้าพระยา สายน้ำแห่งชีวิตและพระมหากรุณาธิคุณที่แผ่ไพศาลไปยังพสกนิกรไทยทั่วประเทศ ให้มีความสุงบสุขร่มเย็นเป็นฉัตรแก้วของปวงประชาผ่านเทคนิคม่านน้ำและน้ำพุความยาวกว่า 40 เมตร

Advertisement

นายวิษณุกล่าวว่า รัฐบาลโดยกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงมหาดไทย และภาคเอกชน ตลอดจนประชาชน ได้ร่วมแรงร่วมใจจัดมหรสพสมโภชฯ อย่างงดงามและสมพระเกียรติ พร้อมกันทั่วประเทศอย่างยิ่งใหญ่เป็นเวลา 7 วัน ระหว่างวันที่ 22-28 พฤษภาคม ณ ท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ และ ณ สถานที่จัดงานส่วนภูมิภาค 76 จังหวัด โดยส่วนกลางจัดงานมหรสพสมโภชฯ ณ บริเวณท้องสนามหลวง

Advertisement

ขณะที่ รูปแบบการจัดงาน ได้น้อมนำพระปฐมบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษาและต่อยอดเป็นแนวทางจัดงาน โดยนำเสนอศิลปวัฒนธรรมหลายแขนง ทั้งเชิงอนุรักษ์และร่วมสมัย อีกทั้งมีคณะนักแสดงจากประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนมาร่วมแสดงด้วย โดยศิลปิน นักแสดงทุกคน ล้วนมีความรู้สึกปีติยินดีและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานมหรสพสมโภชฯ เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

สำหรับการแสดงงานมหรสพสมโภชฯ ณ ท้องสนามหลวง แบ่งเป็น 2 เวที คือ เวทีกลาง ทำการแสดงระหว่างเวลา 18.30-21.30 น. และ เวทีย่อย แบ่งเป็น 2 ฝั่งได้แก่ ฝั่งศาลฎีกา และฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ทำการแสดงระหว่างเวลา 17.30-18.30 น.

โดยใน การแสดงวันที่ 22 พฤษภาคม เวทีกลางเป็นการแสดงในพิธีเปิดงาน ได้แก่ รำถวายพระพร “อาศิรวาททวยราษฎร์น้อมเกล้าฯ ถวายจอมราชัน”, การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ชุดพระบารมีเกริกฟ้ารามาวตาร, การละเล่นของหลวง และเวทีย่อยฝั่งศาลฎีกาเป็นการแสดงหุ่นละครเล็กโจหลุยส์

ส่วน การแสดงในวันที่ 23 พฤษภาคม เวทีกลางเป็นการแสดงของวงมหาดุริยางค์สากลรวมใจภักดิ์ชุด “ทศมราชันขวัญหล้า” (ดนตรีสากล) ส่วนเวทีย่อยฝั่งศาลฎีกาเป็นการแสดงหนังใหญ่วัดขนอน เวทีย่อยฝั่งมธ.เป็นการแสดงกระตั้วแทงเสือ และโขนสด ส่วนบริเวณถนนกลางสนามหลวง มีการแสดงจากวงโยธวาทิต โรงเรียนวัดสุทธิวราราม ระหว่างเวลา 17.00-17.30 น.

นอกจากนี้ ยังมีการแสดงแสงสีเสียงม่านไฟประดับชุด “แสงแห่งพระมหากรุณาธิคุณอบอุ่นหล้า” ซึ่งทำการแสดงระหว่างเวลา 21.30-23.00 น. ทุกวันในงานมหรสพ รวมถึงการจัดตลาดวัฒนธรรม ชมการสาธิตและให้เลือกชิมขนมและอาหารไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนจากทุกสารทิศพร้อมใจใส่เสื้อสีเหลืองและชุดสุภาพมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยเดินเท้าเข้าผ่านจุดคัดกรองประชาชนที่อยู่บริเวณกลางสนามหลวงทั้งสองฝั่ง โดยมีการตรวจบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง และสัมภาระ จากนั้นเดินเข้าบริเวณภายในซึ่งมีเต็นท์อาหารพระราชทานที่มีอาหารว่างและน้ำดื่มแจก โดยมีประชาชนมาต่อแถวเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ด้วยการตกแต่งสถานที่สวยงาม อาทิ ลานดอกไม้ไฟแอลอีดี ตลอดจนการตกแต่งสถานที่ย้อนยุค ทำให้ประชาชนต่างนำกล้องถ่ายภาพและสมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ก่อนไปนั่งบริเวณหน้าเวทีเพื่อชมการแสดง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดเก้าอี้บริการประชาชน ท่ามกลางสภาพอากาศเย็นสบายและมีฝนตกโปรยปราย แต่ก็ไม่ย่อท้อ ขอรับชมความยิ่งใหญ่นี้

ตลอดจนประชาชนที่เดินทางมาเข้าชมการแสดงมหรสพสมโภชฯ ณ สนามหลวง จะได้รับแจก ภาพประวัติศาสตร์การแสดงมหรสพสมโภชทั้ง 7 วัน มีจำนวน 7 แบบ โดยแจกวันละ 1 แบบ

ภาพที่ 1 การแสดงรำถวายพระพร ชุด อาศิรวาททวยราษฎร์ น้อมเกล้าฯถวายจอมราชัน ประกอบด้วยรำกิ่งไม้เงินทอง และรำโคม

ภาพที่ 2 การแสดงโขน เรื่อง รามเกียรติ์ มหรสพที่มีมาแต่อดีตกาล

 

ภาพที่ 3 การแสดงหุ่นละครเล็ก มหรสพดั้งเดิม

ภาพที่ 4 การแสดงมหาดุริยางค์ไทยแห่งกรุงรัตนโกสินทร์

ภาพที่ 5 การแสดงละครเวทีชุด ในสวนฝันผสานใจภักดิ์จงรักนฤบดี มหรสพในยุคปัจจุบัน

ภาพที่ 6 การแสดงแสง สี เสียง ม่านน้ำ ชุดแสงแห่งพระมหากรุณาธิคุณอบอุ่นหล้า

และภาพที่ 7 การแสดงริ้วขบวนอัญเชิญเครื่องราชสักการะจากพสกนิกรไทย 4 ภูมิภาค เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ด้าน นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อํานวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตําแหน่ง ผู้อํานวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนเข้าร่วมงานมหรสพสมโภชฯ ระหว่างวันที่ 22-28 พฤษภาคม ณ บริเวณท้องสนามหลวง ขสมก.จึงจัดเดินรถโดยสารเฉพาะกิจให้บริการฟรี จอดรับ-ส่งทุกป้าย จำนวน 5 เส้นทาง เส้นทางละ 5 คัน ให้บริการตั้งแต่เวลา 17.00 – 23.00 น. หรือจนกว่าจะส่งประชาชนออกจากพื้นที่หมด ดังนี้ เส้นทางที่ 1 หมอชิต 2 – สนามหลวง, เส้นทางที่ 2 อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-สนามหลวง, เส้นทางที่ 3 วงเวียนใหญ่-สนามหลวง, เส้นทางที่ 4 หัวลําโพง-สนามหลวง และเส้นทางที่ 5 สนามศุภชลาศัย-สนามหลวง

ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเส้นทางรถเมล์ ขสมก.โทร.1348

ด้าน นางสาวอารียา ภูมิเมือง มาพร้อม นางสาวอาทิกา ขุนจันทร์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยนาฏศิลป์จังหวัดนครปฐม กล่าวร่วมกันว่า วันนี้พวกเรามาในนามคณะต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ ทำหน้าที่แต่งชุดไทยคอยยืนรับแขกตรงทางเข้า และหลังจบหน้าที่มีโอกาสได้เดินชมงาน ถือว่าจัดได้ยิ่งใหญ่และสมพระเกียรติมาก อย่างการแสดงโขนบนเวทีถือว่าจัดได้ยิ่งใหญ่มาก ใช้นักแสดงกว่า 400 คน จากโขนปกติไม่ใช้คนแสดงมากขนาดนี้ และหากมีโอกาสจะกลับมาเที่ยวอีก และขอเชิญชวนคนไทยมาร่วมงานมหรสพสมโภชที่สนามหลวง จะได้รับชมการแสดงที่สะท้อนถึงคุณค่าวัฒนธรรมไทยที่สวยงาม และยังได้รับชมแสงสีเสียงที่จัดแสดงอย่างสวยงามอีกด้วย

นางสาวอารียา ภูมิเมือง มาพร้อมนางสาวอาทิกา ขุนจันทร์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยนาฏศิลป์จังหวัดนครปฐม

ส่วน นางสาวกุลธดา วินิจอัครชล หัวหน้ากลุ่มกัลญาณมิตรจิตประเสริฐ มาพร้อมสมาชิกกลุ่มกว่า 25 คน พร้อมใจแต่งกายชุดไทยย้อนยุค กล่าวว่า พวกเรามากันด้วยความตั้งใจ และพร้อมใจที่จะมาถวายพระพรและร่วมงานมหรสพสมโภชที่จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมีประชาชนมาร่วมกันด้วยความสามัคคี ส่วนที่แต่งกายชุดไทยโบราณ เพราะอยากสะท้อนคุณค่าทางวัฒนธรรมให้คนรุ่นใหม่และคนทั่วไปได้เห็นว่าชุดไทย สามารถใส่ได้จริง ไม่แพง และแสดงถึงความเป็นภูมิใจที่เกิดมาเป็นคนไทย ทั้งนี้ ชอบทุกอย่างที่งานได้จัด ถือว่ามีความสวยงามและสมพระเกียรติมาก ก็อยากเห็นคนไทยมาร่วมงานกันมากๆ มาแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นางสาวกุลธดา วินิจอัครชล หัวหน้ากลุ่มกัลญาณมิตรจิตประเสริฐ (แต่งชุดไทยสีน้ำเงิน)

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image