เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2562 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยราชการในพระองค์ เชิญภัตตาหารไปถวายแด่พระสงฆ์ที่อาพาธ และเชิญอาหารพระราชทานไปพระราชทานเลี้ยงแก่สถานสงเคราะห์ จำนวน 7 แห่ง ด้วยทั้งสองพระองค์ทรงห่วงใยพระสงฆ์ที่อาพาธ และทรงให้ความสำคัญต่อสุขภาพอนามัยและโภชนาการที่ดีของผู้สูงอายุ เด็ก และเยาวชน ประกอบด้วย
โรงพยาบาลสงฆ์ เขตราชเทวี โดยมีนายจิตรพัฒน์ ไกรฤกษ์ เป็นประธาน เชิญอาหารพระราชทานไปถวายแด่พระสงฆ์ จำนวน 202 รูป
สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านกึ่งวิถี (หญิง) อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี โดยมี คุณจันทนี ธนรักษ์ เป็นประธาน เชิญอาหารพระราชทานไปพระราชทานเลี้ยงแก่ผู้ป่วยจิตเวช จำนวน 548 คน
สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งหญิงธัญบุรี อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี โดยมี พลอากาศตรีจักรพงษ์ หอมไกรลาศ เป็นประธาน เชิญอาหารพระราชทานไปพระราชทานเลี้ยงแก่คนไร้ที่พึ่ง จำนวน 500 คน
สถานแรกรับเด็กหญิงบ้านธัญญพร อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี โดยมีนายไพศาล ล้อมทอง เป็นประธาน เชิญอาหารพระราชทานไปพระราชทานเลี้ยงแก่เด็กและเยาวชน จำนวน 80 คน
สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ โดยมีท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ เป็นประธาน เชิญอาหารพระราชทานไปพระราชทานเลี้ยงแก่เด็กและเยาวชน จำนวน 400 คน
สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เขตราชเทวี โดยมีท่านผู้หญิงสุภรภ์เพ็ญ หลวงเทพนิมิต เป็นประธาน เชิญอาหารพระราชทานไปพระราชทานเลี้ยงแก่เด็ก จำนวน 400 คน
ศูนย์ข้าราชบริพารผู้สูงอายุ สำนักพระราชวัง หมู่บ้านมหามงคล เขตบางแค โดยมีนางพรจันทร์ นุกูลประดิษฐ์เป็นประธาน เชิญอาหารพระราชทานไปพระราชทานเลี้ยงแก่ข้าราชบริพารผู้สูงอายุ
สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี โดยมี พลอากาศตรี ธวัชชัย ศรีแก้ว เป็นประธาน เชิญอาหารพระราชทานไปพระราชทานเลี้ยงแก่เด็กและเยาวชน จำนวน 220 คน
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญอาหารพระราชทานไปพระราชทานเลี้ยง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2562 ด้วยมีพระราชประสงค์ที่จะสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธาณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการบำรุงสุขแก่พสกนิกร รวมทั้ง พระสงฆ์ที่อาพาธ ผู้ทุพพลภาพ เด็ก เยาวชน และคนไร้ที่พึ่ง ในสถานสงเคราะห์เหล่านี้ ได้รับประทานอาหารที่ดี มีคุณค่าทางโภชนาการ เหมาะสมตามวัย เพื่อให้มีสภาพร่างกายที่แข็งแรง มีจิตใจที่แจ่มใสต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บและสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข