เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ทรงย้ำ ‘โอกาสเท่าเทียมสตรี’ นำสู่สังคมมีเสถียรภาพ-สงบสุข

เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ทรงย้ำ ‘โอกาสเท่าเทียมสตรี’ นำสู่สังคมมีเสถียรภาพ-สงบสุข

เพื่อเป็นกำลังใจและเป็นแบบอย่างแก่ผู้หญิง ว่าหากเรามีความรู้ความสามารถและลงมือทำอย่างไม่ย่อท้อ วันหนึ่งก็จะบรรลุผลสำเร็จและได้ไปยืนหยัดในแถวหน้าของคนแวดวงสังคมและธุรกิจอย่างภาคภูมิ

เฉกเช่นผู้หญิงที่มีผลงานโดดเด่นแห่งอาเซียน เข้ารับพระราชทานรางวัล จากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ในงานประชุมเครือข่ายผู้ประกอบการสตรีอาเซียน ภายใต้แนวคิด “พลังสตรีเปลี่ยนโลกเศรษฐกิจ มุ่งขับเคลื่อนก้าวล้ำ…สหัสวรรษ 4.0” จัดโดย กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับเครือข่ายผู้ประกอบการสตรีอาเซียน (AWEN) ณ แกรนด์ บอลรูม โรงแรม เจ ดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ

การนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ พระราชทานพระราชดำรัสภายหลังพระราชทานรางวัล ความตอนหนึ่งว่า ข้าพเจ้าได้มีส่วนร่วมในความพยายามของโลกเพื่อที่จะยกระดับสถานภาพของผู้หญิงและเสริมพลังผู้หญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของข้อเสียเปรียบที่สนใจเป็นพิเศษ งานของข้าพเจ้าในกระบวนการยุติธรรมทำให้ข้าพเจ้ามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องของสภาพของผู้หญิงที่ด้อยโอกาส โดยเฉพาะผู้ต้องขังหญิงในประเทศไทยและทั่วโลก

Advertisement

“การมุ่งเน้นความท้าทายที่ต้องเผชิญในเรื่องของผู้ต้องขังหญิง พวกเรามุ่งเน้นไปที่การสร้างอิสรภาพที่ยั่งยืนและความเป็นอิสระทางเศรษฐกิจหลังจากออกจากพ้นโทษ เพื่อให้ผู้ต้องขังหญิงมีโอกาสไปสู่ความเป็นอยู่ และการใช้ชีวิตใหม่และกลับคืนสู่สังคม แต่จะต้องตระหนักถึงข้อปฏิบัติกรุงเทพ ที่กำหนดในเรื่องที่เกี่ยวกับความจำเป็นของผู้ต้องขังหญิงว่า จะทำงานในสถานประกอบการขนาดเล็กและกลางได้อย่างไร การจัดเตรียมทักษะเพื่อเริ่มประกอบธุรกิจที่จะนำสู่โอกาสการจ้างงานอย่างยั่งยืน”

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ตรัสอีกว่า ในปี 2018 โครงการ Model Prison Plus ที่ถูกจัดขึ้นในประเทศไทยเพื่อเตรียมความพร้อมแก่ผู้ต้องขังที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการอบรมเรื่องการวางแผนทางการเงินและการจัดการหนี้ ทำให้เกิดการสนับสนุนในทางจิตวิทยาเพื่อช่วยให้ผู้ต้องขังหญิงกลับคืนสู่สังคมและตลาดงาน ซึ่งหลักสูตรผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมก็ถูกรวมเข้าไปในหลักสูตรนี้ด้วย

“การประชุมเช่นนี้ มีบทบาทที่เป็นประโยชน์ต่อการช่วยสร้างกระแสและกระตุ้นให้เกิดความตระหนักมากขึ้น ถ้าผู้หญิงได้รับโอกาสที่เท่าเทียมทางการเงินและความรับผิดชอบทางเศรษฐกิจ โดยมีส่วนร่วมต่อการจัดอันดับความเป็นผู้ประกอบการ รายได้ที่เพิ่มขึ้น จะยกระดับมาตรฐานการดำรงชีพที่นำไปสู่สังคม ที่มีเสถียรภาพและสงบสุขมากขึ้น” สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ รับสั่ง

จากนั้นเสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ นิทรรศการเครือข่ายผู้ประกอบการสตรีอาเซียน (AWEN) และเสด็จกลับ

ด้านผู้ประกอบการสตรีไทยเข้ารับพระราชทานรางวัลทั้งสิ้น 10 คน ต่างตื่นเต้นและมีสีหน้าภาคภูมิใจที่ได้รับเกียรตินี้ อย่าง นางสาวณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมบัติเลิศ จำกัด บริษัทในเครือนายเลิศ กรุ๊ป เล่าด้วยสีหน้าตื่นเต้นสุดสุดว่า รู้สึกเซอร์ไพรส์ที่ได้รับรางวัลนี้ เพราะปกติตั้งใจทำงานอย่างเดียว ไม่เคยได้รับโล่หรือประกาศนียบัตรอะไร

“ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เริ่มใส่ใจในรายละเอียดมากขึ้น ใจเย็นลง เปิดใจฟังผู้ใหญ่มากขึ้น เริ่มเข้าใจคำว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน จากเมื่อก่อนเล็กเคยคิดว่าตัวเองทำงานแล้ว คือมาโรงแรมกับคุณยายตลอด แต่เป็นในลักษณะแต่งตัวสวยๆ มาทำงานแล้ว แต่สมองยังไม่มา และยังมีความคิดว่าตัวเองเก่ง เจ๋งที่สุดแล้ว ไม่ค่อยฟังผู้ใหญ่ เพราะเรียนจบจากอังกฤษ”

เล็ก-ณพาภรณ์เป็นทายาทเจนเนอเรชั่นที่ 4 ของปาร์คนายเลิศ แม้ที่ผ่านมาอาจเผชิญปัญหาจนล้มลุกคลุกคลานไปบ้าง แต่เธอพยายามสานต่อและต่อยอดธุรกิจครอบครัว ด้วยการปั้นแบรนด์ปาร์คนายเลิศ ให้เป็นแบรนด์ที่คนไทยและต่างประเทศรู้จัก เป็นแบรนด์ที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ

ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร

เธอยังฝากข้อคิดไปยังนักธุรกิจรุ่นใหม่ว่า อยากให้นักธุรกิจรุ่นใหม่หาตัวเองให้เจอ เพื่อให้ชอบในสิ่งที่จะต้องทำ อย่างเล็กแม้จะเป็นธุรกิจครอบครัว แต่ในพี่น้อง 4 คน ก็มีคนถามว่าทำไมต้องเป็นเล็ก ก็บอกเขาไปว่า “เล็กชอบ” เพราะ หากเราทำอะไรที่รักที่ชอบแล้ว มันจะไม่เหนื่อย ไม่ท้อ อยากจะตื่นแล้วมาที่ทำงาน และฝากว่าอย่ากลัวที่จะลองผิดลองถูก คือมีเงินทุกอย่างพร้อมแล้ว ต้องมีกึ๋นด้วย

รางวัลสตรีไทยที่มีผลงานโดดเด่นแห่งอาเซียนปีนี้ ยังเป็นหนแรกที่มีการคัดเลือกนักธุรกิจสตรีจากภูมิภาคให้ได้รับรางวัล ทำให้ได้รับทราบเรื่องราวนักธุรกิจสตรีที่ยิ่งใหญ่ อย่าง นางสุภาสรณ์ แต้รัตนชัย เจ้าของร้านเพชรทองเซ่งเฮงล้ง ตราดาว จ.อุดรธานี เศรษฐินีชาวอุดร ที่หลังประสบความสำเร็จทางธุรกิจ ก็หันมาช่วยเหลืองานสังคม ทั้งด้านสนับสนุนการศึกษา รักษาวัฒนธรรม ส่งเสริมอาชีพพื้นบ้าน จนได้รับรางวัลมากมาย อาทิ คนดีศรีอุดร, สตรีไทยดีเด่น, แม่ดีเด่น

นางสุภาสรณ์เล่าทั้งรอยยิ้มว่า รู้สึกดีใจที่ได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่นี้ ขณะที่ด้านธุรกิจดิฉันทำร้านเพชรและทอง เป็นธุรกิจครอบครัวที่ดิฉันมาบริหารต่อเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งกว่าจะประสบความสำเร็จได้นั้น ดิฉันทำงานอย่างมีเป้าหมาย มีความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะทำงานให้สำเร็จ ขยัน อดทน ซื้อสัตย์ กตัญญู

“สำคัญที่สุดคือ เราต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด หาความรู้ พยายามเท่าทันเทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้ทำให้ดิฉันทำงานได้ไม่แพ้ผู้ชายเลย อีกทั้งใช้ข้อได้เปรียบของลักษณะผู้หญิงที่มีความละเอียดอ่อน ความรอบคอบสูง เพิ่มเติมด้วยความอดทนสุดสุด”

เหล่านี้เป็นสิ่งที่สุภาสรณ์เรียนรู้จากบรรพบุรุษ ไม่ใช่คำสอน แต่เป็นการปฏิบัติตัวเป็นตัวอย่างให้เห็นสั่งสมกันมารุ่นต่อรุ่น

สุภาสรณ์ยังฝากทิ้งท้ายถึงนักธุรกิจสตรียุคใหม่ว่า อย่าทิ้งคำสอน ทิ้งตำรารุ่นเก่าที่พ่อแม่ได้ให้ไว้ แต่นำมาพัฒนา สืบสานต่อให้เจริญมั่นคงยั่งยืนขึ้นไปเรื่อยๆ

สุภาสรณ์ แต้รัตนชัย
สตรีไทยที่ได้รับรางวัล
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image