‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’ พระราชทานความช่วยเหลือ ด้านการแพทย์ 2 จังหวัด กัมพูชา
เมื่อ 08.30 น. วันที่ 11 กรกฎาคม ที่จ. มณฑลคีรี ประเทศกัมพูชา คณะอำนวยการโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นำโดย พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ สมาชิกวุฒิสภา ประธานกรรมการอำนวยการโครงการพระราชทานความช่วยเหลือราชอาณาจักรกัมพูชาฯ พล.อ.อธิคม สุขสมสถาน ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม นายสุรพล มณีพงษ์ อดีตทูตกัมพูชา นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าฯจ.อุบลธานี และนายแพทย์เศวต ศรีศิริ ผอ.รพ.50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ จ. อุบลราชธานี เดินทางเข้าตรวจรักษาชาวกัมพูชา
การออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ทางโครงการฯได้จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนในหมู่บ้าน ซึ่งด้อยโอกาสที่จะเข้าถึงการบริการทางการแพทย์ได้มีสุขภาพอนามัยที่ดีขึ้น โดยเน้นการตรวจโรคทั่วไปทันตกรรมและสายตา นอกจากนี้ยังมีจิตแพทย์ แพทย์แผนไทยและแพทย์แผนจีน มาให้บริการประชาชนด้วย โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุนคือ จังหวัดอุบลราชธานีซึ่งให้การสนับสนุนหน่วยแพทย์จากโรงพยาบาล 50 พรรษามหาวชิราลงกรณ กรมความร่วมมือระหว่างประเทศซึ่งเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณ บริษัท ไทยนครพัฒนา และมูลนิธิวีระภุชงค์ สนับสนุนเวชภัณฑ์ยา สหพันธ์เยาวชนแห่งกัมพูชา (Union of Youth Federations of Cambodia) ซึ่งสนับสนุนยุวชนกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา จ.มณฑลคีรี มีเป้าหมายรักษาผู้เข้ารับบริการรวม2,000 คน
สืบเนื่องจากการที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานความช่วยเหลือในสองจังหวัดชายแดนกัมพูชาซึ่งเชื่อมต่อกับสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามคือจังหวัดรัตนคีรีและจังหวัดมณฑลคีรี ตามคำกราบบังคมทูลขอจากสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุนเซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อแก้ปัญหาโรคมาลาเรียของชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ห่างไกลตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา
จากความสำเร็จในการควบคุมโรคมาลาเรียที่ผ่านมาในพื้นที่ ที่โครงการฯรับผิดชอบร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่จึงทำให้มีการขยายไปถึงการควบคุมโรคไข้เลือดออกและโรคอื่นๆที่มียุงเป็นพาหะโดยที่หมู่บ้านใกล้เคียงได้ให้ความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อนำไปพัฒนาใช้กับชุมชนของตนเองในทั้งสองจังหวัดด้วย นอกจากนี้โครงการฯยังได้มุ่งเน้นด้านการพัฒนาบุคลากร โดยมีการพระราชทานทุนการศึกษาในประเทศไทยระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจนจบปริญญาตรี ด้านที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุขศาสตร์และพยาบาลศาสตร์ ปัจจุบันมีนักเรียนในสองจังหวัดนี้ที่กำลังศึกษาอยู่ และสำเร็จการศึกษาแล้ว จำนวนกว่า 80 คน รวมถึงการพัฒนาบุคลากรตามมาตรฐานสากล ด้านการสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง โดยอบรมทั้งในกัมพูชาและในประเทศไทย ตั้งแต่ชาวบ้านอาสาสมัครเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในทุกระดับจนไปถึงระดับชาติ
นอกเหนือจากการช่วยเหลือด้านการควบคุมโรคแล้วทางโครงการฯ ยังได้มอบสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับทั้งสองจังหวัดเพื่อประโยชน์ในภาพรวมของการสาธารณสุขและการมีสุขภาพที่ดีได้แก่อาคารสำนักงานมาลาเรียจำนวนสองแห่ง ศูนย์สุขภาพจำนวนสามแห่ง รถพยาบาลจำนวนสองคัน เพื่อการส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลประจำจังหวัด ไปยังโรงพยาบาลปลายทางในกรุงพนมเปญหรือประเทศเวียดนามและรถยนต์กระบะจำนวนสองคันเพื่อให้สามารถเข้าถึงพื้นที่ทุรกันดารได้ รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆที่จาเป็นสำหรับใช้ในศูนย์สุขภาพและโรงพยาบาลประจำจังหวัด นอกจากนี้โครงการฯยังมีแผนงานที่จะสร้างศูนย์สุขภาพในพื้นที่ทุรกันดารให้อีกหนึ่งแห่งหนึ่งในจ.มณฑลคีรี
ด้านพล.อ.วิชิต กล่าวว่า สำหรับวันนี้เป็นวันที่สอง ที่ทางโครงการฯของเราได้มารักษาในจ.มณฑลคีรี ก่อนหน้านี้ไปรักษาที่จ.รัตนคีรี เราได้รับความร่วมมือจาก รพ.50 พรรษามหาวชิราลงกรณ ผอ.รพ. นำแพทย์พยาบาลมาทำการรักษาในสองจังหวัดดังกล่าว มีประชาชนมารักษาแล้ว 2,000 กว่าคน ผมเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง แก่พี่น้องชาวกัมพูชาที่อยูห่างไม่สามารถเข้าถึงทางการแพทย์ได้ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสองประเทศคือไทยและกัมพูชา
นายแพทย์เศวต ผอ.รพ.50 พรรษามหาวชิราลงกรณ กล่าวว่าคนไข้ส่วนมากจะเป็นโรคทางเดินอาหารและโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ส่วนเด็กๆจะเป็นโรคขาดสารอาหาร สำหรับโรคมาเลเรียน่าจะลดน้อยลง หลังจากออกตรวจครั้งนี้ไม่พบชาวบ้านที่ป่วยเป็นโรคนี้ คงดูแลตัวเองเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังให้คำแนะนำกับพ่อ-แม่เด็กเรื่องพัฒนาการทางสมอง โดยให้รับประทานอาหารมี่มีประโยชน์มีโปรตีนสูง ที่มีอยู่ในไข่ ผัก
ด้าน นายซึมกานรอง ผู้ว่าจ.มณฑลคีรี กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณพล.อ.วิชิต ที่ได้นำโครงการฯนี้เข้ารักษาชาวกัมพูชา และขอบคุณคณะแพทย์พยาบาล ด้วยในนามตัวแทนประชาชนมีความยินดีอย่างยิ่งที่คณะแพทย์ได้มาตรวจรักษาชาวกัมพูชา การมาของคณะแพทย์เข้ามารักษาพวกเราเป็นการกระชับสัมพันธไมตรีที่มีมายาวนานระหว่างสองประเทศ
“ต้องขอขอบคุณ ในคณะนามกรรมการจ.มณฑลคีรี ที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานความช่วยเหลือกับชาวมณฑลคีรี
