พบแล้ว 1 ใน 7 ถวายงานในหลวงอย่างใกล้ชิดเจ้าตัวปลาบปลื้มดีใจ

หลังกระทรวงวัฒนธรรมจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองในหลวงครองราชย์ 70 ปี ตาหา 7 บุคคลในภาพถวายรายงาน ขณะทรงประกอบพระราชกรณียกิจทั่วทุกภาค และมีการเผยแพร่ภาพเพื่อตามหาบุคคลในภาพ โดย 1 ในนั้น มีบุคคลในพื้นที่ จ.สกลนคร ได้ถวายรายงานในหลวง ขณะเสด็จพระราชดำเนินไปยัง บ.นานกเค้า ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร เพื่อเตรียมสร้างอ่างเก็บน้ำตาดไฮใหญ่เมื่อปี พ.ศ.2522 ผ่านมาแล้ว 37 ปี

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 มิถุนายน นาย อดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผวจ.สกลนคร จนท.วัฒนธรรม จ.สกลนคร ลงพื้นที่ไปพบ นาย วินัย วงศ์สีดา ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 บ.นานกเค้า ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร เพื่อสืบหาบุคคลในภาพ เพราะคาดว่าจะอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวและยังคงมีชีวิตอยู่ เมื่อไปถึงพบ นายวินัย วงศ์สีดา แจ้งว่า บุคคลดังกล่าว คือนายส่อม วงศ์สีดา อายุ 78 ปี เป็นลูกบ้านของตนเองยังมีชีวิตอยู่อาศัยอยู่กับลูกหลาน จึงพาเดินทางไปตรวจสอบเพื่อเยี่ยมเยียนและแจ้งให้ทราบว่า นายส่อม วงศ์สีดา คือบุคคลในภาพที่กระทรวงวัฒนธรรมกำลังตามหาอยู่

เมื่อไปถึง เป็นบ้านเลขที่ 20 ม.10 ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร พบว่าสภาพบ้านอาศัยเป็นไม้ยกสูงชั้นเดียว ด้านล่างเป็นใต้ถุน มีนายส่อม วงศ์สีดา อายุ 78 ปี กำลังนั่งทำเครื่องจักรสานอยู่ สุขภาพยังแข็งแรง เดินเหินได้สะดวก ตามองเห็นชัด หูฟังได้ชัดเจน อาศัยอยู่กับภรรยาชื่อ นางหนูพร วงค์เตชะ อายุ 67 ปี แต่ก็สร้างความแปลกใจอยู่เช่นกันว่า ทำไมถึงมีบุคคลมาพบจำนวนมาก จึงชี้แจงให้ทราบว่า นายส่อม วงศ์สีดา เป็นบุคคลที่กำลังตามหา เพราะได้เข้าเฝ้าถวายรายงานในหลวงอย่างใกล้ชิด โดยนายส่อม วงศ์สีดา ยืนยันว่า บุคคลดังกล่าวเป็นภาพของตนจริงพร้อมกับพาขึ้นบ้านไปดูภาพถ่ายที่แขวนไว้ตรงกันกับภาพที่กระทรวงวัฒนธรรมประกาศหา และอธิบายถึงเหตุการณ์ในวันนั้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือที่ได้เข้าเฝ้าพระองค์อย่างใกล้ชิด

นายส่อม วงศ์สีดา เล่าว่า ขณะตนและครอบครัวไปไถ่ไร่ไถ่นาตามปกติ โดยที่นาของตนห่างจากบ้านไม่ไกลนัก ขณะนั้น บ.นานกเค้า มีชาวบ้านอาศัยประมาณ 30 หลังคาเรือน พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งเข้ามายังหมู่บ้านและเสด็จพระราชดำเนินเข้ามาบริเวณที่ตนกำลังทำไร่ทำนาอยู่ มองเห็นพระหัตถ์ในหลวงทรงหอบเอาเอกสารและแผนที่เพื่อใช้ทรงงาน คาดว่าในนั้นจะมีแปลนการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำอยู่ด้วย จังหวะนั้นจึงรอรับเสด็จอยู่ใกล้ๆ พระองค์ทรงนั่งลงและตรัสถามว่า “ตนเองอยู่กับใครบ้าง” ตนจึงตอบพระองค์ไปว่า “อยู่กับครอบครัว ลูกหลาน 4-5 คน” พระองค์ทรงถามอีกว่า น้ำท่าเป็นอย่างไรบ้าง “จึงตอบไปว่าค่อนข้างแห้งแล้ง ทำไร่ทำนาลำบาก” พระองค์จึงตรัสว่า “ต่อไปนี้ไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำ จะทำที่เก็บน้ำให้ จะได้มีน้ำใช้ทำไร่ทำนา และทำกิน” จากนั้นพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังบริเวณจุดสร้างอ่างเก็บน้ำตาดไฮใหญ่ ดำเนินการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ และใช้เพื่อการเกษตรจวบมาจนถึงทุกวันนี้ จึงรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นจนหาที่สุดไม่ได้ รู้สึกดีใจที่จะได้เข้าร่วมงานกิจกรรมเฉลิมฉลองในหลวงครองราชย์ 70 ปี ซึ่งจะเดินทางเข้า กทม.วันที่ 7 มิ.ย.นี้

Advertisement

นายส่อม วงศ์สีดา กล่าวอีกว่า ต่อจากนั้นในหลวงยังเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานประทับแรม ที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ทุกปี เพื่อทรงงานดูแลทุกข์สุขพสกนิกร และทรงห่วงใยอยากเห็นพสกนิกรของพระองค์ หลุดพ้นจากความยากจน และพัฒนาความเป็นอยู่คุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น จึงพระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มาตั้งแต่ปี 2525 ที่ บ.นานกเค้า ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร ในเนื้อที่ 2,300 ไร่ และมีที่ดินส่วนหนึ่งที่ตนได้บริจาคจำนวน 14 ไร่ เพื่อสร้างศูนย์พัฒนาภูพานฯ ก่อเกิดงานสาธิตในด้าน ป่าไม้ ประมง ปศุสัตว์ พัฒนาอุตสาหกรรมในครัวเรือน งานถ่ายทอดเทคโนโลยี เน้นการพัฒนาอาชีพให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผวจ.สกลนคร กล่าวว่า นายส่อม วงศ์สีดา นับเป็นบุคคลที่สำคัญ และเป็นตัวแทน ชาว จ.สกลนคร ที่ได้ถวายงานต่อพระองค์อย่างใกล้ชิด จนเกิดโครงการพระราชดำริต่างๆมากมาย นายส่อม แม้จะยากจนทำไร่ทำนา แต่พอทราบว่าทางการต้องการที่ดินนำไปสร้างศูนย์พัฒนาภูพานฯ จึงได้มอบให้กับทางราชการ โดยบริจาคที่ดินจำนวน 11 ไร่ เพื่อสาธิตการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมนำไปสู่อาชีพการทอผ้าไหม อีก 3 ไร่ นำไปพัฒนางานด้านปศุสัตว์ ปัจจุบันใช้เป็นพื้นที่เลี้ยงกวางรูซ่า และนอกจาก นายส่อม วงศ์สีดา บุคคลในภาพที่พบเจอแล้ว นับว่าโชคดีที่ยังเจอลูกหลานในภาพแสดงตนและเล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ที่ได้เข้าเฝ้ารับเสด็จอย่างใกล้ชิดอีกด้วย.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image