‘ด้วยพลังแห่งรัก’ ในหลวง ร.9-พระพันปีหลวง สู่พสกนิกรไทย ผ่านฉลองพระองค์สุดวิจิตรงดงาม

ประจักษ์ ‘พลังแห่งรัก’ ในหลวง ร.9-พระพันปีหลวง สู่พสกนิกรไทย ผ่านฉลองพระองค์สุดวิจิตรงดงาม

 

“…การได้เยี่ยมราษฎรทุกครั้ง ทำให้เราทั้งสองมีความสุข และชุ่มชื่นในไมตรีจิตของประชาชน…ความจริงที่เราได้ประสบกับตัวเองนี้ ทำให้เราทั้งสองตั้งใจแน่วแน่ว่า จะพยายามกระทำทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อตอบแทนบุญคุณและน้ำใจของประชาชนที่มีต่อเรา และครอบครัวของเรา….”

พระราชดำรัส สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา วันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ.2515

เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 87 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2562 พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้จัดนิทรรศการขึ้นใหม่ ได้แก่ นิทรรศการ “ด้วยพลังแห่งรัก” เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจในด้านต่างๆ นับตั้งแต่ทรงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระบรมราชินี เมื่อพุทธศักราช 2493 เป็นต้นมา

โอกาสนี้ พิพิธภัณฑ์ผ้าฯได้จัดงาน Private View โดยได้ ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ ราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และ ปิยวรา ทีขะระ เนตรน้อย ผู้อำนวยการ พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ร่วมเผยถึงความเป็นมาของนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “ด้วยพลังแห่งรัก” โดยมีผู้ที่เคยถวายงานมาร่วมงานคับคั่ง อาทิ ธีระพันธ์ วรรณรัตน์ และ พิจิตรา บุณยรัตพันธุ์ แฟชั่น ดีไซเนอร์ชื่อดัง, น้อย กฤติพร ช่างฉลองพระองค์, อรนภา กฤษฎี, บุษกร วงศ์พัวพันธ์, มีเรีย เบนเนเดดตี้ และ น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ นางแบบแถวหน้าของไทย และ สกุล อินทกุล นักจัดดอกไม้มือฉมัง ณ พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ณ หอรัษฎากรพิพัฒน์ ในพระบรมมหาราชวัง

Advertisement

เรื่องเล่า “พระพันปีหลวง” จาก “ผู้ถวายงาน” ใกล้ชิด

ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ ราชเลขานุการในพระองค์ฯ เล่าถึงการถวายงานในการตามเสด็จฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงห่วงใยในทุกข์สุขของประชาราษฎร์ และทรงมุ่งหวังที่จะให้ราษฎรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นว่า ทุกครั้งที่พระองค์เสด็จฯ อยู่ท่ามกลางราษฎร นั่นคือ พลังที่ทำให้พระองค์เสด็จฯ ไปทุกหนทุกแห่งไม่ว่าดินฟ้าอากาศจะเป็นอย่างไร ถ้าที่ไหนมีราษฎรที่คอยพระองค์อยู่ พระองค์ไม่ทรงย่อท้อเลย จะเสด็จฯ ไปเยี่ยม และเมื่อพระองค์ประทับอยู่ท่ามกลางพวกเขาแล้ว ทรงพระสำราญ ทรงมีความสุข ที่ได้ทรงงาน และเห็นพวกเขามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

“หลายแห่งเสด็จฯ ไปทุกปี โดยเฉพาะราษฎรที่อาศัยตามชายแดน หรือในชนบทที่ห่างไกลความเจริญ ซึ่งพระองค์ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะเสด็จฯ ไปพระราชทานกำลังใจในสิ่งต่างๆ ที่เขาทำ ด้วยพลังแห่งรักที่พระองค์ทรงมีต่อประชาชนโดยแท้” ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์กล่าว

ตลอด 70 ปี พระองค์ทรงงานหนักเพื่อพสกนิกรชาวไทยเสมอมา ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์เล่าว่า ในแต่ละปี เวลาที่ประทับในพระราชวัง ไม่มากเท่าที่เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎร เพราะทรงเห็นว่า คนในเมืองก็มีความสุขแล้วพอประมาณ แต่คนที่อยู่ตามชายแดน หรือในชนบทที่ห่างไกล ความเจริญเข้าไปไม่ถึง จึงทรงอยากจะไปพระราชทานกำลังใจให้ทำในสิ่งต่างๆ และเมื่อเสด็จฯ กลับมา ก็จะทรงวางแผนที่จะเสด็จฯ ต่อในเดือนต่อไป หรือในทริปต่อไป

“พระองค์เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมประชาชนด้วยความรักจริงๆ และทรงรักตลอดเวลา”

จากพระราชกรณียกิจที่ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงปฏิบัติมาตลอดรัชสมัยแห่งรัชกาลที่ 9 ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ จึงฝากถึงคนรุ่นใหม่ว่า คนรุ่นใหม่ ถ้าได้ศึกษา ค้นคว้า เรียนรู้ สิ่งที่เกิดมาแล้วในอดีต ก็จะเห็นว่า เมืองไทยเรามีของดีหลายอย่าง และพระองค์ทรงเก็บไว้ให้

“หลายสิ่งหลายอย่างที่มีมาแล้วในอดีตเป็นของดี บรรพบุรุษไทยทรงสร้างสมเอาไว้ให้ และถ้าคนในปัจจุบันละเลย ทอดทิ้ง ไม่ดูแล และไม่รักษาเอาไว้ ก็จะไม่มีอะไรที่เป็นหน้าเป็นตา หรือว่าเป็นสมบัติของเราเลย”

“ซึ่งสิ่งดีๆ เหล่านี้ พระองค์ทรงทำมาแล้วมากมาย อยากให้คนรุ่นใหม่ ศึกษาให้ถ่องแท้ เรียนรู้ให้ลึกซึ้ง และรักในสิ่งที่เป็นไทย และเก็บรักษาต่อไป เราไม่มีเสียหายแน่นอน ของดีเมืองไทยมีเยอะมาก และถ้าเราสืบทอดต่อไปได้เรื่อยๆ ประเทศไทยไม่น้อยหน้าใครแน่นอน” ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ทิ้งท้าย

 

นิทรรศการแห่งความรักของ “สองพระองค์” และ “พสกนิกร”

ปิยวรา ทีขะระ เนตรน้อย ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ กล่าวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ครั้งนี้ว่า ด้วยสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงมีพระราชปณิธานที่จะขจัดทุกข์บำรุงสุขแก่พสกนิกรชาวไทยในฐานะคู่พระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาตลอดระยะเวลา 70 ปี ทรงมีพระวิริยอุตสาหะในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจและทรงอุทิศพระองค์ช่วยเหลือพสกนิกรอย่างไม่ทรงเห็นแก่เหน็ดเหนื่อย

“ด้วยพลังแห่งรักที่มีต่อแผ่นดินและประชาชนชาวไทย โดยนิทรรศการครั้งนี้จะเป็นการเล่าจากจุดเริ่มต้นของทั้งสองพระองค์คือ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยจะเป็นการเล่าถึงความรักของทั้งสองพระองค์ ผ่านภาพวาดฝีพระหัตถ์ ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ และบทเพลงพระราชนิพนธ์ รวมทั้งมีการจัดแสดงฉลองพระองค์ของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง คู่กับพระฉายาลักษณ์ที่พระองค์ประทับเป็นแบบในการฉายพระฉายาลักษณ์ในแต่ละโอกาส รวมทั้งมีการจำลองบรรยากาศรถไฟพระที่นั่ง ซึ่งจะได้เห็นถึงความรักของทั้งสองพระองค์สู่ความรักต่อประชาชนตลอดระยะเวลา 70 ปี ผ่านพระราชกรณียกิจในด้านต่างๆ อีกด้วย” ปิยวรากล่าว

 

“ฉลองพระองค์” เล่าเรื่องราวแห่งความรัก

เมื่อก้าวเข้าไปในนิทรรศการด้วยพลังแห่งรัก “ห้องแรก” ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสถึงพลังแห่งรักของทั้งสองพระองค์ ผ่านวิดีโอพระราชทานสัมภาษณ์ พระราชนิพนธ์ เพลง “เทวาพาคู่ฝัน” ในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รวมถึงพระฉายาลักษณ์ฝีพระหัตถ์ที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ฉายสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยพระองค์เอง

จากความรักของทั้งสองพระองค์ ใน ห้องที่ 2 จัดแสดงความรักที่ทั้งสองพระองค์มีต่อพสกนิกรชาวไทย ผ่านการเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรในท้องถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ และพระราชกรณียกิจนานัปการที่ทรงปฏิบัติมาตลอด 70 ปี โดยจัดแสดงผ่าน “ฉลองพระองค์” ที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงในการเสด็จฯ ทรงงานต่างๆ อาทิ ฉลองพระองค์ที่ตัดเย็บจากผ้าชาวไทยภูเขา, ฉลองพระองค์ที่ตัดเย็บจากผ้าไหมและขนสัตว์, ฉลองพระองค์แบบผสมผสานไทย, ฉลองพระองค์ที่ตัดเย็บจากผ้าไหมมัดหมี่, ฉลองพระองค์ชุดราตรี, ฉลองพระองค์เครื่องแบบสนาม, กระเป๋าทรงถือ, พระมาลาและพระพัชนี และปิดท้ายนิทรรศการด้วย ฉลองพระองค์ที่ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตามเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ประกอบพระราชกรณียกิจคู่กันอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ปี 2549-2555

นับเป็นนิทรรศการที่เปี่ยมไปด้วยความรักที่ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีต่อกัน และความรักที่ทั้งสองพระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย

ดั่งพระราชดำรัส สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย พระราชวังดุสิต วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2525

“…ความรักของประชาชนนี้มีค่ายิ่งกว่าสิ่งใดในโลก ทรัพย์สมบัติอะไรในโลกมาเทียบกับความรัก ความนับถือเชื่อถือของประชาชนมิได้เลย…”

ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ ราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ปิยวรา ทีขะระ เนตรน้อย ผู้อำนวยการ พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ

นิทรรศการ ด้วยพลังแห่งรัก เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ.2562-พ.ศ.2565 ณ ห้องจัดแสดง 1-2 พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบรมมหาราชวัง เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-16.30 น. ปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมเวลา 15.30 น. บัตรเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ ราคา 150 บาท ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) ราคา 80 บาท นักเรียนหรือนักศึกษา (โปรดแสดงบัตรประจำตัว) และเด็กอายุ 12-18 ปี ราคา 50 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่เสียค่าใช้จ่าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image