กองทัพเรือ บวงสรวงแม่ย่านาง เรือพระราชพิธี ซ้อมย่อยขบวนพยุหยาตรา ครั้งแรก

กองทัพเรือ บวงสรวงแม่ย่านาง เรือพระราชพิธี ซ้อมย่อยขบวนพยุหยาตรา ครั้งแรก

เมื่อเวลา 07.08 น. วันที่ 22 สิงหาคม พลเรือโท จงกล มีสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดเตรียมความพร้อมขบวนเรือพระราชพิธี เป็นประธานในพิธีบวงสรวงและเซ่นไหว้แม่ย่านางเรือพระราชพิธี เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนการซ้อมย่อยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคครั้งแรก ณ อู่หมายเลข 1 อู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ ถนนอรุณอมรินทร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือพระราชพิธีในพิธีบวงสรวง ประกอบด้วย เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เรือกระบี่ราญรอนราพณ์ เรือกระบี่ปราบเมืองมาร เรือพาลีรั้งทวีป เรือสุครีพครองเมือง เรืออสุรวายุภักษ์ และเรืออสุรปักษี ตลอดจนกำลังพลประจำเรือในตำแหน่ง นายเรือ นายท้าย พนักงานเห่เรือ และคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ เข้าร่วมในพิธี

พล.ร.ท.จงกล มีสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดเตรียมความพร้อมขบวนเรือพระราชพิธี กล่าวภายหลังเสร็จพิธีบวงสรวงแม่ย่านางเรือว่า การซ้อมย่อยครั้งนี้ถือเป็นการซ้อมครั้งที่ 1 อย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก โดยมีเรือพระราชพิธีทั้ง 52 ลำ รวมทั้งเรือพระที่นั่งทั้ง 4 ลำ จะได้ลงฝึกซ้อมในแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นครั้งแรก โดยมีกำลังพลทั้งฝีพายจากกองทัพเรือ จำนวน 2,200 นาย และเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง กรมศิลปากร ร่วมฝึกซ้อมในครั้งนี้ด้วย รวมแล้วเกือบ 3,000 คน ระยะทางที่ใช้ในครั้งนี้ เป็นเส้นทางที่เหมือนวันจริงทุกประการ โดยเริ่มจากท่าวาสุกรี ถึงท่าราชวรดิฐ เป็นระยะทาง 3.8 กิโลเมตร สำหรับรูปแบบขบวนเรือได้ใช้ตามโบราณราชประเพณี ยึดตามปี พ.ศ.2525 เป็นหลัก ซึ่งเป็นการจัดขบวนเรือในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ขณะที่ความยาวขบวนเรือมี 1.2 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น 5 ริ้ว 3 สาย ความกว้างขบวนเรือประมาณ 90 เมตร และมีระยะเคียงระหว่างริ้วขบวนประมาณ 20 เมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับกระแสน้ำ

Advertisement

พล.ร.ท.จงกล กล่าวว่า สำหรับบทเห่เรือที่นำมาใช้ในการซ้อมวันนี้ เป็นบทที่ใช้ในวันจริงเช่นเดียวกัน มีด้วยกัน 3 องก์ ประกอบด้วย บทเห่เรือสรรเสริญพระบารมี (บทใหม่) บทเห่ชมกระบวนเรือ และบทเห่เรือชมเมือง (สำหรับการฝึกซ้อม) ส่วนการเทียบเรือพระที่นั่งที่ท่าราชวรดิฐ จะเริ่มเทียบที่เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูป ตามด้วยเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ และเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9

Advertisement

“ประชาชน สามารถร่วมชมการฝึกซ้อมย่อยและฝึกซ้อมใหญ่เสมือนจริงได้ โดยในวันซ้อมใหญ่ทั้ง 2 ครั้ง ฝีพายจะแต่งกายเหมือนวันจริงทุกประการ เพื่อให้ฝีพายได้คุ้นชินกับชุด โดยประชาชนได้ชมทั้ง 2 ฟากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ท่าวาสุกรี ไปจนถึงท่าราชวรดิฐ และในวันที่ 24 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันพระราชพิธีเสด็จเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ขอเชิญชวนประชาชน ใส่เสื้อสีเหลือง ร่วมเฝ้าฯรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้ตลอด 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเวลา 15.30 น. ของวันนี้ จะมีการซ้อมย่อยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเป็นครั้งแรก โดยในเวลา 12.45 น.เจ้าหน้าที่จะเริ่มทำการลากจูงเรือรูปสัตว์ และเรือพระที่นั่งทั้ง 4 ลำ ออกจากอู่ทหารเรือธนบุรี ไปยังจุดจอดเรือท่าต่างๆ ต่อมาเจ้าหน้าที่อัญเชิญพระพุทธรูปลงเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช และนำเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เตรียมเทียบท่าวาสุกรี และเริ่มเคลื่อนริ้วขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ไปตามเส้นทางท่าวาสุกรี ผ่านสะพานพระราม 8 มุ่งหน้ายังท่าราชวรดิษฐ โดยจะมีการซ้อมย่อยอีก 9 ครั้ง ครั้งต่อไปในวันที่ 29 สิงหาคม และจะมีการซ้อมใหญ่ 2 ครั้ง ในวันที่ 17 และ 21 ตุลาคมนี้

ทั้งนี้ การอำนวยความสะดวกประชาชนช่วงการซ้อมขบวนเรือพระราชพิธีทางชลมารคจะปิดการจราจรทางน้ำในช่วงเดียวกับวันพระราชพิธีจริง โดยการจราจรทางน้ำปิดตั้งแต่เวลา 12.30 -18.30 น. จนเสร็จพิธีโดย ขสมก. จะจัดรถบริการประชาชนแทนเรือข้ามฟากจากฝั่งธนบุรีมาฝั่งพระนครตั้งแต่เวลา 10.30-19.30 น. ดังนี้ 1. ท่าเรือพระปิ่นเกล้าฝั่งธนบุรี (จอดหน้าตึกกายภาพบำบัด ม.มหิดล) ไป ท่าเรือพระปิ่นฝั่งพระนคร (ใต้สะพานพระปิ่นเกล้า),2. ท่าเรือรถไฟ,ท่าเรือพรานนก,ท่าวังหลัง(จุดจอดรถประตู 8 โรงพยาบาลศิริราช)ส่งปลายทางที่ท่าช้าง(โดยผ่านท่าพระจันทร์ ,ท่ามหาราช)

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image