ร.10-ราชินี พระราชทานนวัตกรรม ‘ห้องตรวจหาเชื้อ’ แห่งที่ 14 ให้รพ.พหลพลพยุหเสนา

ร.10-ราชินี พระราชทานนวัตกรรม ‘ห้องตรวจหาเชื้อ’ แห่งที่ 14 ให้รพ.พหลพลพยุหเสนา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานนวัตกรรม “ห้องตรวจหาเชื้อ” พัฒนาโดยเอสซีจี ลดเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ติดตั้งที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จังหวัดกาญจนบุรี เป็นแห่งที่ 14

วันนี้ 29 พ.ค.63 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน “ห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)” เป็นแห่งที่ 14 ให้แก่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งใน “โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน” โดยได้พระราชทานพระราชทรัพย์ให้เอสซีจีดำเนินการก่อสร้างให้โรงพยาบาลต่างๆ 20 แห่งทั่วประเทศเพื่อเสริมความพร้อมหากมีการระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่

ทั้งนี้โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ให้บริการผู้ป่วยในเขตจังหวัดกาญจนบุรี 13 อำเภอ และจังหวัดใกล้เคียง อีกทั้งเป็นศูนย์รับ-ส่งต่อผู้ป่วยในเขตจังหวัดกาญจนบุรี และเนื่องจากเป็นจังหวัดท่องเที่ยวรวมทั้งมีชายแดนติดต่อกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ทำให้ในแต่ละวันมีผู้ป่วยทั้งชาวไทยและต่างประเทศเข้ามารักษาเป็นจำนวนมากโดยห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าวจะช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19 ให้บุคลากรทางการแพทย์ในขณะปฏิบัติหน้าที่ด้วยการแยกพื้นที่ระหว่างทีมแพทย์และคนไข้ห่างออกจากกัน และใช้ระบบควบคุมแรงดันและคุณภาพอากาศที่เหมาะสม พร้อมกับมีระบบฆ่าเชื้อ ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคซึ่งสามารถติดตั้งในพื้นที่จำกัดได้อย่างรวดเร็วภายใน 3 วัน เพื่อให้พร้อมบริการแก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนได้ทันที ยังความปลื้มปีติแก่ทีมแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนประชาชนทุกหมู่เหล่าต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น โดยมี นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายแพทย์นิพนธ์ พัฒนกิจเรือง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี นายแพทย์สมเจตน์ เหล่าลือเกียรติผู้อำนวยการโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา นายประกอบ พิกุลกานตเลิศ กรรมการผู้จัดการ บริษัทไทยเคนเปเปอร์ จำกัด (มหาชน) ในเอสซีจี แพคเกจจิ้ง ร่วมพิธีรับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าว

Advertisement

นวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)นี้ พัฒนาจากเทคโนโลยีของ SCG HEIM และ Living Solution ภายในห้องตรวจผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ได้ออกแบบให้มีระบบ Smart Indoor Air Quality (IAQ Smart) ที่ช่วยควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศให้สะอาด ปลอดภัย และระบบการป้องกันอากาศรั่วไหล (Air Tightness) ที่ทำให้ห้องปิดสนิท ป้องกันอากาศเข้า – ออกตัวอาคาร ทำให้ในตัวอาคารสามารถควบคุมแรงดันอากาศได้เป็นอย่างดี

โดยทีมแพทย์จะอยู่ในห้องความดันบวก ที่ไม่มีอากาศเสีย จากภายนอกเข้าไป อากาศภายในจึงบริสุทธิ์ปลอดภัย ส่วนผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงติดเชื้อจะอยู่ในห้องความดันลบ และมีระบบดูดอากาศเสียออกไปกำจัดอย่างต่อเนื่อง จึงป้องกันไม่ให้มีอากาศฟุ้งกระจายออกไปภายนอก เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้แก่ทีมแพทย์ ซึ่งการเก็บตัวอย่าง (Swab) จะทำผ่านแผ่นอะคริลิกที่เจาะเป็นช่อง โดยแพทย์สามารถสอดมือผ่านช่องที่มีถุงมือคลุมด้วยพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งเพื่อเก็บตัวอย่าง จึงลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนจากผู้ที่เข้ารับการตรวจพร้อมใช้แสงยูวีเข้มข้นสูง ฆ่าเชื้อโรคต่างๆ (UV Germicide) หลังจากการใช้งานในห้องทุกครั้ง ทั้งนี้ โครงสร้างกว่าร้อยละ 80 ประกอบขึ้นรูปภายในโรงงานที่มีการควบคุมคุณภาพและความสะอาดตลอดกระบวนการผลิต และยังสามารถติดตั้งได้รวดเร็ว

Advertisement

ทั้งนี้ โรงพยาบาล 20 แห่งทั่วประเทศ ที่ได้รับพระราชทานนวัตกรรม “ห้องตรวจหาเชื้อ ”พัฒนาโดย “เอสซีจี” ได้แก่ 1.รพ.ภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ 2.รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว 3.รพ.กลาง 4.สถาบันโรคทรวงอก 5.สถาบันบำราศ-นราดูร 6.รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก 7.รพ.ตำรวจ 8.รพ.ราชบุรี 9.รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา 10.รพ.นครปฐม 11.รพ.อุตรดิตถ์ 12.รพ.สวรรค์ประชารักษ์ 13.รพ.นครพิงค์ 14.รพ.พหลพลพยุหเสนา 15.รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 16.รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ 17.อุดรธานี 18.รพ.สุราษฎร์ธานี 19.รพ.สงขลานครินทร์และ 20.รพ.หาดใหญ่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image