| ที่มา | หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน หน้า 20 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
เจ้าหญิงดีไซเนอร์ ออทั่ม-วินเทอร์ 2020/21 เฟรนช์แฟลร์ กลิ่นอายยุค 90s
ในยุคทศวรรษที่ 90 นับว่าเป็นยุคที่โลกแฟชั่นถึงจุดรุ่งเรืองสูงสุดอีกยุคหนึ่ง จนถึงขนาดที่หญิงแกร่งในยุคนั้นต่างเชื่อในค่านิยมที่เรียกว่า เพาเวอร์ เดรสซิ่ง (Power Dressing) สอดคล้องกับเทรนด์แฟชั่นในยุคปัจจุบัน อย่าง ซุปเปอร์โมเดล สีนีออน วัฒนธรรมป๊อป และแคชวล ชิค ก็ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในยุค 90s ทั้งสิ้น
และความโดดเด่นนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นในแรงบันดาลพระทัยของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI และ S?Homme (เอส ออม) ใน “เฟรนช์แฟลร์” (French Flair) คอลเล็กชั่นทรงออกแบบประจำฤดูกาลออทั่ม-วินเทอร์ 2020/21 ที่ทรงนำเอาโครงเสื้อแบบเซมิกูตูร์ซึ่งเป็นไอคอนของแบรนด์มาผสมผสานกับรายละเอียดของสไตล์แห่งยุค 90s
โดยเพิ่มเสน่ห์ของปารีเซียงสตรีตสไตล์เพื่อลุคอันโมเดิร์น เป็นคอลเล็กชั่นที่ต้องการให้อิสระกับหญิงสาวได้แสดงถึงสไตล์ของตัวเองได้อย่างไร้ขีดจำกัด และสนุกกับการมิกซ์แมตช์และการทำสไตลิ่งสำหรับฤดูหนาว ดูสวยสง่าและโรแมนติกภายใต้สีเอิร์ธโทน แต่งแต้มด้วยสีสันบาดตาอย่างสีชมพูนีออน สีเขียวนีออน และสีเหลืองนีออน
การนี้ ทรงนำคอลเล็กชั่นดังกล่าวจัดแสดงแฟชั่นโชว์ ณ ห้องรอยัล บอลรูม โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ท่ามกลางรันเวย์ที่เนรมิตอย่างอลังการ และบรรดาเซเลบริตี้ คนดังแวดวงต่างๆ ของเมืองไทยเดินทางมาร่วมรับชมอย่างคับคั่ง
หลังแฟชั่นโชว์อันน่าตื่นตาตื่นใจเสร็จสิ้นลง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จออกมาในฉลองพระองค์ชุดสูทกระโปรงในคอลเล็กชั่นปัจจุบัน ทรงพนมพระหัตถ์ขอบพระทัยและโบกพระหัตถ์ทักทายผู้มาร่วมงาน ทรงแย้มพระสรวลด้วยพระพักตร์แจ่มใส และทรงทำพระหัตถ์เป็นรูปหัวใจ สร้างความประทับใจแก่ผู้ร่วมงานเป็นอย่างมาก เสียงปรบมือจึงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ทรงปรากฏพระวรกายกระทั่งเสด็จกลับ
ความพิเศษของคอลเล็กชั่น “เฟรนช์แฟลร์” นั้นปรากฏให้เห็นในเสื้อผ้าทั้งหมด 38 ลุค แบ่งเป็นเสื้อผ้าสุภาพสตรีของ SIRIVANNAVARI 31 ลุค และเสื้อผ้าสุภาพบุรุษของ S’Homme 7 ลุค
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI รับสั่งถึงคอลเล็กชั่นนี้ว่า “ข้าพเจ้าตั้งใจที่จะแสดงให้เห็นถึงวิธีการมิกซ์แอนด์แมตช์ วิธีการสไตลิ่ง วิธีการเลเยอร์เสื้อผ้าหลายๆ ชิ้นทับกันให้ดูสวยงาม โมเดิร์น และสามารถสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวันในช่วงฤดูหนาว โดยข้าพเจ้าได้นำเอารายละเอียดของสไตล์แห่งยุค 90s มาผสมผสานกับเทคนิคการตัดเย็บแบบเซมิกูตูร์ (Semi Couture) แล้วเพิ่มความโมเดิร์น ความขัดแย้งและความสนุกสนานด้วยการทำให้เสื้อผ้าดูเป็นสตรีตสไตล์แบบชาวปารีเซียง ซึ่งก็จะทำให้คอลเล็กชั่นดูทันสมัย จับต้องได้ และสวมใส่ได้ง่าย แต่ยังคงความสมาร์ทและโก้อยู่”
ความพิเศษของคอลเลคชั่นนี้มีมากมาย อาทิ งานปักชั้นเยี่ยมจาก SIRIVANNAVARI Atelier and Academy ลายพิมพ์ภาพกราฟิกฝีพระหัตถ์ ซึ่งพระองค์ได้ทรงออกแบบลายพิมพ์โดยทรงนำภาพศิลปะการเป่าสี มาเป็นสัญลักษณ์ประจำซีซั่นนี้
นอกจากนี้ ยังมีเครื่องประดับจิวเวลรี ที่สร้างสรรค์รูปแบบของเครื่องประดับแบบใหม่ๆ หรือเครื่องหนังที่โดดเด่น อาทิ กระเป๋าหนังลูกวัวพิเศษจากอิตาลีสีดำขลิบสีชมพู ตกแต่งด้วยพู่หนังยาวที่ฝากระเป๋า
คอลเล็กชั่นรองเท้าก็โก้หรูไม่แพ้กัน เพิ่มความน่าสนใจด้วยรองเท้าบูตหุ้มข้อส้นตึก และรองเท้าบูตสูงที่ใช้เทคนิคการตัดเย็บหนังชั้นสูงจากอิตาลี
ไฮไลต์อีกหนึ่งอย่างคือเป็น “ครั้งแรกของแบรนด์” ที่สร้างสรรค์แว่นตากันแดด โดยดีไซน์แรกนี้ มีกรอบแว่นที่เป็นทรงแปดเหลี่ยมและผลิตจากอาซิเตตชั้นดี ซึ่งประดับเหรียญประทับโลโก้นกยูงที่ขาแว่น
สำหรับ คอลเล็กชั่นสุภาพบุรุษออทั่ม-วินเทอร์ 2020/21 ของ S’Homme มีความโก้หรูสไตล์แมสคิวลีน ซึ่งนำเอาโครงเสื้อแบบคลาสสิกมาดัดแปลงโดยใช้เทคนิคต่างๆ ทำให้มีสไตล์ที่ดูโมเดิร์นและโก้หรูมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ “เฟรนช์แฟลร์” ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์อื่นๆ อย่างครบครัน ตั้งแต่แฟชั่นจิวเวลรี อาทิ แหวน สร้อยคอ และเข็มกลัดประดับเสื้อสูทไปจนถึงผ้าพันคอ สามารถชมคอลเล็กชั่นทรงออกแบบประจำฤดูกาลออทั่ม/วินเทอร์ 2020-2021 ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI และ S’Homme ได้ที่ร้าน SIRIVANNAVARI ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
ประมวลภาพแฟชั่นโชว์
