กรมสมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯเปิดนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ทรงเล่า ‘ชีวิตยามอยู่บ้าน’ ช่วงโควิด 2 เดือน

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

กรมสมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯเปิดนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ทรงเล่า ‘ชีวิตยามอยู่บ้าน’ ช่วงโควิด 2 เดือน

เมื่อเวลา 08.58 น. วันที่ 10 ธันวาคม สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ทรงเปิดงานนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2563 ในหัวข้อ “ชีวิตยามอยู่บ้าน: Life@Home” โดยมี นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายดาว วาสิกศิริ นายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, รศ.ดร.บรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย ประธานกรรมการมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เฝ้าฯ รับเสด็จ ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

การนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เข้าภายในห้องออดิทอเรียม ชั้น 5 ประทับพระราชอาสน์ ทรงรับทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร และของที่ระลึก จากนั้นเสด็จฯ ไปประทับ ณ โต๊ะทรงบรรยาย ทรงบรรยายเรื่องภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ครั้งที่ 14 หัวข้อ “ชีวิตยามอยู่บ้าน: Life@Home” ประกอบด้วยภาพแขวนผนัง 145 ภาพ ภาพในห้อง 8 เหลี่ยม จำลองบรรยากาศสวน 546 ภาพ และภาพขนาดใหญ่ 10 ภาพ ซึ่งทรงฉายระหว่างปี 2562 ช่วงปลายปี จนถึงปี 2563 ความตอนหนึ่งว่า หนังสือเล่มนี้ตั้งชื่อว่าชีวิตยามอยู่บ้าน แต่จริงๆ ก็ไม่อยู่บ้านเท่าไหร่ อยู่บ้านจริงๆ ประมาณ 2 เดือน เวลาอื่นๆ ก็ออกไป หลังจากเดือนพฤษภาคมแล้ว ที่แพทย์บอกว่าพอจะออกไปข้างนอกหรือพบผู้คนได้ ปีนี้ไปต่างประเทศ 2 ครั้ง ครั้งแรกที่สิงคโปร์ แต่ไม่มีภาพในนิทรรศการครั้งนี้ อีกครั้งก็ที่อินเดีย และที่วางแผนไว้มากมายเป็นอันว่าจบสิ้นกันไป

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

จากนั้น ทรงบรรยายภาพถ่ายฝีพระหัตถ์เริ่มที่ภาพครั้งเสด็จฯ ทรงรับทูลเกล้าฯ ถวายเครื่องอิสริยาภรณ์ รัฐมิตราภรณ์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และเสด็จฯ ทอดพระเนตรพิธีสวนสนาม เนื่องในวันชาติจีน ความว่า เป็นเรื่องของปี 2562 คือช่วงปลายเดือนกันยายนถึงเดือนมกราคม ได้ไปที่สาธารณรัฐประชาชนจีน รับเครื่องอิสริยาภรณ์ รัฐมิตราภรณ์ เป็นเครื่องอิสริยาภรณ์ที่ให้แก่มิตรหรือเพื่อนที่สำคัญ ตอนแรกทางสถานทูตขอให้ปิดเป็นความลับ ก็ดูจะลับลมคมใน จะคุยจะโม้ก็ไม่ได้ เดี๋ยวผิดสัญญาเขา ก็ต้องอึกๆ อักๆ อยู่ เพราะตอนนั้นเขายังไม่ประกาศ กระทั่งพบว่ามีหลายท่านที่เป็นชาวต่างประเทศ และกลุ่มที่เป็นบุคคลดีเด่นที่เป็นคนจีนด้วยกันที่ได้ ตอนแรกจะไปเฉพาะวันรับ เพราะว่าช่วงเดือนกันยายนตุลาคม วุ่นกันอยู่นิดๆ เพราะเป็นสิ้นปีงบประมาณของเรา ในที่สุดเขาบอกว่าไปรับเสร็จแล้ว ต้องให้มาร่วมงานวันสถาปนาสาธารณรัฐจีนครบ 70 ปี ก็อยู่ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงวันที่ 1 ตุลาคม วันสถาปนา เป็นเกียรติที่ได้รับเชิญไปร่วมงาน แต่ว่าไม่ค่อยจะเห็นอะไร คนที่ดูทีวีอยู่บ้านจะเห็นขั้นตอน และมีคำบรรยาย จะรู้ชัดมากกว่า เอากล้องกดไปเรื่อยๆ

ทรงยกตัวอย่างภาพชื่อ “ไปดูการสวนสนามวันชาติจีน แต่ถ่ายรูปออกมาไม่รู้เรื่องเลย” ความว่า รูปนี้รูปอะไรก็ไม่ทราบ คล้ายกับแอร์โชว์ที่เขาโฆษณาในทีวี ก่อนหน้านี้อยากดูมาก เขาทำไว้สวยงามมาก แต่พอถ่ายจริงๆ ออกมาเป็นอย่างนี้ เขาพ่นควันและก็มีเครื่องบินนิดหน่อย บ้างตอนก็ปล่อยนกออกมา ก็ไม่แน่ใจว่าอะไร อาจควันเครื่องบินหรือนกก็ได้

Advertisement
ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์
ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์
ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์
ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์
ภาพชื่อ “ไปดูการสวนสนามวันชาติจีน แต่ถ่ายรูปออกมาไม่รู้เรื่องเลย”

“คราวนี้เปลี่ยนบรรยากาศนิดหน่อย จะเห็นตลอดนิทรรศการว่าที่ว่าอยู่บ้าน ก็ถ่ายหมู หมา แมว แมลงไปเรื่อยๆ ต้นหมากรากไม้ จะว่าไม่ทำงานก็ไม่ใช่ เพราะเวลานั้นทางการปิดทุกสิ่งทุกอย่าง โรงเรียนก็ปิดด้วย เขาบอกห้ามเข้าโรงเรียน เพราะทุกคนมีคอมพิวเตอร์ มีทีวี ก็ให้เรียนจากคอมพิวเตอร์ เรียนจากทีวี แต่ว่านักเรียนที่ดูแลอยู่ไม่มีใครมีคอมพิวเตอร์ ไม่มีใครมีทีวี จะหาให้ก็สัญญาณไม่มี ก็ค่อนข้างจะลำบาก จะไปส่งเสริมในหมู่บ้านของนักเรียน อย่างเรื่องเครื่องเขียนสมุดปากกา หนังสือก็ไม่มีให้ หลายๆ อย่างที่ต้องเข็นตั้งแต่ปีก่อน จะได้ก็ไม่ได้ซักที ตอนนี้ยิ่งไม่ได้ใหญ่ ก็พยายามจัดชุดและมีผู้คนธรรมดาบริจาคกัน ได้หนังสือ เครื่องเขียน และสื่อที่ทำไว้นานแล้ว ตอนนี้หนังสือ 60 พรรษา ก็เอามาบางส่วน ให้เรียนสหกรณ์ เรียนเลข เรียนภาษา ไปเรื่อยๆ บางคนที่พออ่านออกเขียนได้ก็ช่วยๆ กันไป เท่าที่ช่วยกันทำได้ ต้องคอยติดต่อทางมือถือหรือไลน์ แต่ไม่ค่อยได้ จะกดผิดกดถูกตามประสาคนไม่ค่อยได้ใช้”

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงบรรยายภาพถ่ายฝีพระหัตถ์สุนัขทรงเลี้ยงชื่อ “ละมุนละไม” มาพร้อมสุนัขทรงเลี้ยงตัวใหม่ “ฮ้อ เซียง โกว” และแมวทรงเลี้ยง “ใบตอง” ที่ทรงฉายไว้หลายโอกาส ในวังสระปทุม ทรงมีพระอารมณ์ขันระหว่างการบรรยาย

Advertisement
ฮ้อ เซียง โกว
ฮ้อ เซียง โกว กับใบตอง
ละมุนละไม กับใบตอง
ละมุนละไม
ฮ้อ เซียง โกว กับละมุนละไม
ละมุนละไม
ละมุนละไม

ละมุนละไม

อย่างภาพ “ป้ายชื่อที่เกาะเกร็ดคู่กับอีกป้ายว่า กูไม่ไหวแล้วโว้ย โปสเตอร์ท่องการกระจายกริยาไวยากรณ์เยอรมัน วังสระปทุม” ทรงบรรยายว่า มีป้ายซื้อมาอยู่นานแล้ว ซื้อมาจากเกาะเกร็ด เขามีป้ายอันนึงเขียนว่า “อะไรๆ ก็กู” ก็เลยซื้อมา แล้วมีอีกแผ่นเขียนว่า “กูไม่ไหวแล้วโว๊ย” อยู่ด้านบน (ทรงพระสรวล) ส่วนข้างล่างเป็นโปสเตอร์ท่องการกระจายกริยาไวยกรณ์เยอรมัน แต่จำไม่ได้เพราะไม่ค่อยได้ดู ติดไว้เฉยๆ

ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์

ก่อนทรงบรรยายถึง ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ที่มาร่วมงานเปิดนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ทุกปี ในภาพชื่อ “พระเอกตลอดกาลของเรา” ความว่า เป็นรูปของ ดร.สุเมธ พระเอกใหญ่ประจำงาน แค่นี้ก็ดีใจที่ท่านมาอีก และได้เตรียมกล้องเพื่อมาถ่ายอีกครั้ง ตอนนี้ไม่แน่ใจว่ามีรูปท่านกับภาพพลิกปู่เมธกี่ครั้ง กำลังดูว่าจะให้ยืนตรงไหน เพื่อไม่ให้บังกันเอง

ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์
ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์
ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์

โอกาสนี้ ทรงบรรยายภาพ “โรงแรมรูปปลา” ที่ทรงถ่ายไว้ครั้งเสด็จฯ ประเทศอินเดีย ความตอนหนึ่งว่า มีกล้องดูดาวที่ใหญ่กว่าของไทย กำลังคิดในเรื่องของความสัมพันธ์ทางวิทยาศาสตร์กับอินเดีย และน่าจะได้ผลในเรื่องดาราศาสตร์นี้ ปีหน้ากะจะไปหอดูดาวอีก แต่ว่ายังฟาวล์เสียก่อน เพราะโรคโควิด ซึ่งเปรียบเสมือนควายขวิดนี่แหละ ก่อนในช่วงท้ายของการทรงบรรยาย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงตรัสเชิญให้ถ่ายภาพในนิทรรศการได้ตามสบาย หวังว่าจะสนุกกับการชมภาพ แม้ว่าจะล็อคดาวน์อยู่บ้าน แต่ก็ถ่ายๆ จำไม่ได้ว่า ถ่ายอะไร บรรยายผิดถูกไปบ้างก็คงให้อภัย เพราะเดี๋ยวนี้ความจำไม่ดี ครั้นจบการบรรยาย ประทับพักพระราชอิริยาบถ ณ ห้องรับรอง ก่อนเสด็จขึ้นชั้น 9 ไปยังห้องจัดแสดงนิทรรศการ ทรงตัดแถบแพรเปิดนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ฯ แล้วเสด็จฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการ ก่อนเสด็จฯ ไปยังโต๊ะจำหน่ายหนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ฯ ทรงจำหน่ายหนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ และเสด็จฯ กลับ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชนิพนธ์คำนำในหนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “ชีวิตยามอยู่บ้าน: Life@Home” ไว้น่าสนใจความตอนหนึ่งว่า “ปีพ.ศ. 2563 ข้าพเจ้ามีโอกาสไปต่างประเทศ 2 ครั้ง คือไปสิงคโปร์และอินเดีย เมื่อกลับถึงเมืองไทยโรคกำลังแพร่ เริ่มมีคำแนะนำให้ใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ ถ้าไม่มีโอกาสล้างมือด้วยน้ำและสบู่ ก็ให้ใช้แอลกอฮฮล์ ข่าวลวงเริ่มปรากฏว่ารัฐบาลห้ามขายเจล จึงไปซื้อมาจากอินเดีย กลับมาก็มีใช้ มีคำแนะนำจากทางราชการว่าผู้มีอายุเกิน 65 ปี ที่มีโรคเบาหวาน โรคหัวใจต้องระวังเป็นพิเศษ ตอนนั้นไม่มีโอกาสไปต่างประเทศแน่นอน แต่ไปภายในประเทศได้ การสวมหน้ากากตอนแรกไม่ชินก็เป็นลมไปบ้าง ข้าพเจ้าไม่ได้ออกนอกบ้าน ประมาณ 2 เดือน เป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ การศึกษาของเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ที่ไม่ได้ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาที่หนึ่ง ต้องพยายามหาทางช่วย นอกจากนั้นก็เตรียมบรรยายต่างๆ ที่ไม่ทราบว่าจะไปงานได้หรือต้องอัดเทปหรือใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อ เวลาพิมพ์งานก็ทำข้อความหายไปบ้าง น่ารำคาญเป็นที่สุด

“ด้านการถ่ายภาพก็ทำอย่างเดิม ถ่ายหมา แมว หมู งู แมลง ไม้ดอกไม้ในในบ้าน เมื่อเริ่มผ่อนผันให้ออกนอกบ้านได้ ก็ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด ต่อมาเดินทางข้ามจังหวัดได้ เมื่อโรงเรียนเปิดก็พยายามไปเยี่ยมโรงเรียน ได้ไปเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ครบ 1,000 ครั้ง ไปงานอื่นๆ แต่ก็ต้องระวังสุขภาพ มีการช่วยประชาชนที่ไม่สามารถทำมาหาเลี้ยงชีพได้ปรกติ ช่วยพระเณร ช่วยโรงพยาบาลหาเครื่องมือแพทย์ ชุดแต่งกายป้องกันโรค ซึ่งถึงมีเงินก็ไม่ได้หาซื้อกันง่ายๆ”

สำหรับนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ หัวข้อ “ชีวิตยามอยู่บ้าน: Life@Home”  หัวข้อ “ชีวิตยามอยู่บ้าน” ใน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมระหว่างวันที่ 10 ธันวาคม 2563 ถึง 7 กุมภาพันธ์ 2564 (หยุดทุกวันจันทร์) เปิดระหว่างเวลา 10.00-19.00 น. และมีการจำหน่ายหนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “ชีวิตยามอยู่บ้าน: Life@Home” ในราคาเล่มละ 900 บาท ณ ห้องนิทรรศการ ชั้น 9 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (สี่แยกปทุมวัน) และศูนย์หนังสือแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งนี้ รายได้ทั้งหมดนำขึ้นทูลเกล้าถวาย โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย

หนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ "ชีวิตยามอยู่บ้าน: Life@Home"
หนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “ชีวิตยามอยู่บ้าน: Life@Home”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image