ในหลวง ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูหนาว ‘พระแก้วมรกต’ เพื่อทรงเครื่องสำหรับฤดูร้อน

ในหลวง ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูหนาว ‘พระแก้วมรกต’ เพื่อทรงเครื่องสำหรับฤดูร้อน

เมื่อเวลา 18.08 น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วย เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูหนาว พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) เพื่อทรงเครื่องสำหรับฤดูร้อน

ครั้นเสด็จฯ ถึง พสกนิกรพร้อมใจสวมใส่เสื้อสีเหลือง ต่างร่วมใจเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง พร้อมพนมมือก้มกราบแทบพื้นเมื่อเสด็จฯ ผ่านด้วยความปีติยินดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงแย้มพระสรวล และโบกพระหัตถ์ทักทายพสกนิกร ยังความปลาบปลื้มเป็นล้นพ้น

Advertisement

เมื่อเสด็จเข้าพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปด้านหลังฐานชุกซี ขึ้นเกยไปยังบุษบกที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ถวายพวงมาลัยสักการะพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ทรงกราบ แล้วทรงถอดมงกุฎจากพระเศียรพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร มอบเจ้าพนักงานภูษามาลา ทรงหยิบพระมหาสังข์ประจำพระองค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่ตั้งอยู่ด้านข้าง ทรงสรงพระสุคนธ์ที่พระอังสาซ้ายขวาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เสร็จแล้วทรงวางพระมหาสังข์ไว้ที่เดิม ก่อนทรงรับพระมหาสังข์ทักษิณาวัฏจากเจ้าพนักงานภูษามาลา ทรงสรงพระสุคนธ์ที่พระอังสาซ้ายขวาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เสร็จแล้วทรงคืนพระมหาสังข์ทักษิณาวัฏให้เจ้าพนักงานภูษามาลา และทรงรับผ้าขาวจากเจ้าพนักงานภูษามาลาซับตามองค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เสร็จแล้วทรงรับมงกุฎประจำฤดูร้อนจากเจ้าพนักงานภูษามาลา ทรงสวมถวายที่พระเศียรพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ทรงคม

ต่อมา เสด็จลงจากเกยไปประทับพระราชอาสน์ที่จัดไว้ข้างฐานชุกชี ทรงหยิบผ้าขาวที่ซับองค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรแล้วนั้น ชุบพระสุคนธ์ในโถแก้ว แล้วทรงบีบลงในโถแก้วและหม้อน้ำ เสร็จแล้ว เสด็จฯ ไปที่ฐานชุกชีทรงรับกระทงดอกไม้จากเจ้าพนักงานพระราชพิธี วางบนพานหน้าฐานชุกชี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่ง แล้วทรงจุดเทียนห่วงบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ทรงคม ก่อนเสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ ทรงคม และเสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธเลิศหล้านภาไลย ทรงคม

Advertisement

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่ ที่หน้าธรรมาสน์ศิลา ทรงกราบ ต่อมา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศ ที่หน้าธรรมาสน์ศิลา ทรงกราบ

เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระมหาสังข์เพชรน้อยเข้าทูลเกล้าฯ ถวาย ทรงรับพระมหาสังข์เพชรน้อย แล้วสรงที่พระเศียร ก่อนพระราชทานน้ำพระมหาสังข์เพชรน้อยแก่ เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญสังข์นครเข้าทูลเกล้าฯ ถวาย พระราชทานน้ำสังข์นครแก่พระราชวงศ์ที่มาเฝ้าฯ แล้วเสด็จฯ ไปทรงพระสุหร่ายน้ำพระพุทธมนต์ที่สรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร แก่ข้าราชการที่มาเฝ้าฯ ภายในพระอุโบสถ เสร็จแล้ว ประทับพระราชอาสน์ ณ ที่เดิม

เวลาต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ เสด็จออกจากพระอุโบสถ ทรงพระสุหร่ายน้ำพระพุทธมนต์ที่สรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร แก่ประชาชนที่มาเฝ้าฯ เสร็จแล้ว เสด็จฯ เสด็จพระราชดำเนินกลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนจากทุกสารทิศต่างพร้อมใจสวมใส่เสื้อสีเหลือง และหน้ากากอนามัย เดินทางมาปักหลักเฝ้าฯ รับเสด็จตั้งแต่ช่วงเที่ยง ท่ามกลางอากาศร้อนจัด โดยผ่านจุดคัดกรองบริเวณท้องสนามหลวงทิศใต้ ตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจค้นอาวุธ ก่อนผ่านรับสติ๊กเกอร์ และสแกนคิวอาร์โค้ดลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ไทยชนะเข้าภายในพระบรมมหาราชวัง ทั้งนี้ สำนักพระราชวังได้ตั้งเต็นท์ พร้อมปูเสื่อ จัดบริการน้ำดื่มและเจลล้างมือพระราชทานแก่ประชาชนที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จด้วย

นายโสภณ การะพิมพ์ อาจารย์ประจำวิทยาลัยเทคโนโลยีตั้งตรงจิตรพณิชยการ มาพร้อม นางสาวพรพรรณ มาตุการุญ ลูกศิษย์กลุ่มยุวพุทธ ชมรมศาสนาและวัฒนธรรม สวดโอ้เอ้วิหารราย และสวดมนต์สรภัญญะ กล่าวร่วมกันว่า ตั้งใจเดินมาเฝ้าฯ รับเสด็จตั้งแต่ช่วงบ่าย แม้อากาศจะร้อนมากแต่อดทนรอได้ เพราะชื่นชมในพระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์ จึงอยากมาแสดงความจงรักภักดี ซึ่งถือเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและวงศ์ตระกูล

“วิทยาลัยของเราตั้งอยู่ในรั้ววัดพระเชตุพนฯ เราจึงซึมซับไปกับกิจกรรมทางศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างทุกวันพระใหญ่ เช่น วันออกพรรษา วันอาสาฬหบูชา ลูกศิษย์ของวิทยาลัย จะได้รับโอกาสมาสวดโอเอ้เฝ้าฯ รับเสด็จตามวิหาร ถือเป็นกิจกรรมตามความสมัครใจ พวกเด็กๆ ทำด้วยความภาคภูมิใจ ไม่ใช้คะแนนบังคับ” นายโสภณกล่าว

“ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้ามาเฝ้าฯ รับเสด็จ ณ ที่แห่งนี้ได้ ฉะนั้นเมื่อมีโอกาสก็จะมาเฝ้าฯ รับเสด็จตลอด วินาทีที่ได้เห็นพระองค์ รู้สึกดีใจและปลาบปลื้มเป็นล้นพ้น” นางสาวพรพรรณกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image