กรมพระศรีสวางควัฒนฯ โปรดให้ผู้แทนพระองค์ มอบยาฟาวิพิราเวียร์พระราชทานแก่กรมราชทัณฑ์

แฟ้มภาพ

กรมพระศรีสวางควัฒนฯ โปรดให้ผู้แทนพระองค์ มอบยาฟาวิพิราเวียร์ พระราชทานแก่กรมราชทัณฑ์

เมื่อเวลา 13.54 น. วันที่ 23 พฤษภาคม สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงพระกรุณาโปรดให้ รองศาสตราจารย์ ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล รองประธานกรรมการ บริหารสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และรองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายบริหารและอาคารสถานที่ เป็นผู้แทนพระองค์ในการมอบยา ฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ยาพระราชทานแก่ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ จำนวน 30,000 เม็ด เพื่อนำไปใช้ในการรักษาผู้ต้องขังที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ภายในเรือนจำ โดยเฉพาะเรือนจำในเขตกรุงเทพมหานคร ณ ห้องประชุม 1 ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร

โอกาสนี้ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ พบผู้ต้องขังติดเชื้อจำนวน 15,953 คน อยู่ระหว่างการรักษา 14,348 คน จำนวน 19 แห่ง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ จึงได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรมราชทัณฑ์ (ศบค.รท.) ขึ้น เพื่อเฝ้าติดตาม ประเมินสถานการณ์ และการแก้ไขปัญหาอย่างทันที ตลอดจนได้ถือปฏิบัติตามมาตรการของศูนย์ ศบค.อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ยังมีการสร้างโรงพยาบาลสนามทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค รวมถึงจัดตั้งห้องปฏิบัติการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ณ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อรองรับการตรวจของผู้ต้องขัง และเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์จะนำยาพระราชทานที่ได้รับมอบนี้ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการรักษาผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด-19 ต่อไป

Advertisement

ด้วยพระปณิธานในสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ที่มีพระประสงค์ในการช่วยเหลือผู้ป่วยที่ด้อยโอกาสให้เข้าถึงการบริการด้านสาธารณสุขได้อย่างเท่าเทียมตามหลักมนุษยธรรมจากสถานการณ์การพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในประเทศไทย และมีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในพื้นที่หลายจังหวัดนั้น ทรงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด ทรงห่วงใยและให้ความสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งคำนึงถึงการช่วยชีวิตผู้ป่วยทุกคนภายในประเทศอย่างเท่าเทียมกัน โดยพระราชทานความช่วยเหลือด้านการแพทย์และการสาธารณสุขมาอย่างต่อเนื่อง เช่น การพระราชทานเครื่องช่วยหายใจ ยาและเวชภัณฑ์ ตลอดจนเครื่องอุปโภคบริโภค เป็นต้น เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของหน่วยงานภาครัฐ และเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้ก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน นับเป็นพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ต่อประชาชนชาวไทย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image