นับเป็นอีกหนึ่งในพระปรีชาสามารถของ “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี” ที่นอกจากทรงเป็น “เจ้าฟ้านักวิทยาศาสตร์” แล้ว ในอีกมิติหนึ่งทรงเป็น “เจ้าฟ้านักออกแบบอัญมณี”
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จร่วมงานเปิดตัวผลงานเครื่องประดับและเครื่องแต่งตัวที่ทรงออกแบบเพื่อหาทุนช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ของประเทศไทย ณ บริษัท แอสปรี (Asprey) ถนนนิวบอนด์สตรีต กรุงลอนดอน โดยมีแขกผู้มีเกียรติชั้นนำจากประเทศไทย และต่างประเทศเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง
เครื่องประดับอัญมณีแต่ละชิ้นที่ทรงรังสรรค์ออกแบบด้วยความมุ่งมั่นและอุตสาหะ มีความวิจิตรของเส้นสายที่สวยงามและลงตัว
คอลเล็กชั่นแรกคือชุด “นิรันดร์รัก” (Eternal Love) ทรงได้รับแรงบันดาลพระทัยจากเครื่องหมายที่เป็น “นิรันดร์” (Infinity) โดยใช้เพชรและอัญมณีที่ทรงคุณค่า เช่น ซัฟไฟร์สีชมพู ซัฟไฟร์สีน้ำเงิน และมรกต เป็นชิ้นงานที่เปี่ยมด้วยพลังแห่งความรักและความห่วงใย เปรียบดังพระเมตตาอันไม่มีที่สิ้นสุดต่อปวงชนชาวไทย และทรงมีพระปณิธานว่าหากมูลนิธิจุฬาภรณ์มีศักยภาพมากพอก็จะสามารถขยายความช่วยเหลือไปยังผู้ป่วยยากไร้ในต่างแดนได้ด้วย
นอกจากนั้น ยังมีเครื่องประดับอัญมณี ชุด Circle of Life, Lucky in Love, H2O และ Essence of Life
โดยชุด Circle of Life เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของชีวิตที่งดงามของมนุษยชาติโดยผ่านสีสันอันหลากหลายของอัญมณีในรูปแบบซึ่งเรียบง่ายด้วยการใช้รูปทรงเรขาคณิต เช่น วงกลมเป็นตัวเชื่อมต่อได้อย่างอ่อนช้อย โดยคำนึงถึงการสวมใส่ได้ในทุกโอกาส
โดย Lucky in Love เป็นจี้รูปใบ Lucky Clover เปรียบเสมือนรูปหัวใจสี่ดวงที่มารวมกันเป็นหนึ่งเดียว โดยธรรมชาติแล้วเราจะพบใบ Lucky Clover ที่มีเพียงสามกลีบเท่านั้น หากเราพบใบที่มีสี่กลีบ ถือว่าเป็นเรื่องของความโชคดีเสมือนความหมายของจี้ในคอลเล็กชั่นนี้ ที่จะมอบพรแห่งความปรารถนาดีต่อผู้สวมใส่ โดยมีการนำเสนอในลักษณะของจี้ สร้อยข้อมือและต่างหู ในตัวเรือนที่เป็นทองคำขาวกับเพชรสีขาว นำพลอยหลากสีมาประดับได้อย่างงดงาม
ขณะที่ H2O และ Essence of Life ทรงนำเส้นสายจากสูตรเคมีที่ทรงคุ้นเคย จากปลายปากกาที่ทรงจรดลงบนกระดาษ มีเส้นสายที่มีความหมายและความงดงามสอดคล้องของเส้นสาย ที่สร้างความต่อเนื่องให้กับรูปแบบของชิ้นงานได้อย่างลงตัวในรูปแบบของสร้อยข้อมือฝังเพชรขนาดที่ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป หรือจะเป็นจี้ที่มีการออกแบบและการผลิตอย่างพิถีพิถันด้วยเทคนิคของช่างทองชั้นสูงจาก แอสปรี กรุงลอนดอน
ผลงานที่ทรงออกแบบในทุกๆ คอลเล็กชั่นจากแผ่นกระดาษ สู่ผลงาน มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวงดงามเหนือคำบรรยาย
