…เป็นที่ “ปลื้มปีติ” ของประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงออกทางทีวีพูลเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 15 ต.ค. ความว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และ “พล.อ.ประยุทธ์” ได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อ “ถวายรายงานข้อราชการ” ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
…ในการเข้าเฝ้าฯครั้งนี้ “สมเด็จพระบรมฯ” ทรงห่วงใยประชาชนไทย ในยามบ้านเมืองกำลังทุกข์โศก และยังเดือดร้อนจากปัญหาอุทกภัย ขออย่าให้ประชาชนกังวลใจเกี่ยวกับราชการแผ่นดิน บิ๊กตู่ยังอัญเชิญ “พระราชปรารภสำคัญ” มาถ่ายทอด ได้แก่ เรื่องของการสืบราชสันตติวงศ์ ซึ่งพระองค์ทรงขอประชาชนอย่ากังวล สับสน
…ทรงมี “พระราชปรารภ” ใจความว่า การสืบราชสันตติวงศ์ มี “รัฐธรรมนูญ กฎมนเทียรบาล และจารีตประเพณี” กำหนดไว้แล้ว แต่ในช่วงนี้ ทุกฝ่าย แม้แต่พระองค์ท่าน ก็อยู่ระหว่าง เศร้าโศก โทมนัสอาลัย ดังนั้น ควรให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อน ให้ “การพระราชพิธีพระบรมศพ” ผ่านพ้นไปสักระยะ ก็น่าจะถึงเวลาสมควรดำเนินการ
…“บิ๊กตู่” เผยว่า ได้ปรึกษา “ประธานสภานิติบัญญัติฯ” แล้ว ขอ “รับสนองพระราชบัณฑูร” ใส่เกล้าใส่กระหม่อม ขอให้ประชาชนคลายความกังวลใจ นั่นคือข้อความโดยสรุปจากการเข้าเฝ้าฯ ที่นายกฯรายงานให้ประชาชนทราบ และตอนท้าย นายกฯ ยังได้ขอบคุณ “พี่น้องวินมอเตอร์ไซค์” ที่อำนวยความสะดวก ส่งประชาชนไปถวายสักการะ โดยไม่คิดค่าโดยสาร
…ขั้นตอน “การสืบราชสันตติวงศ์” ถึงเวลานี้มีความชัดเจน ตามพระราชปรารภของ “สมเด็จพระบรมฯ” คำชี้แจงของ “นายกฯประยุทธ์”, ของรองนายกฯ วิษณุ เครืองาม และ ธงทอง จันทรางศุ กล่าวคือ “เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม” นายกฯประยุทธ์จะมีหนังสือถึง “รัฐสภา” ซึ่งก็คือ “สนช.” เพื่อให้ประชุม “รับทราบ” ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ได้ทรงแต่งตั้ง “พระรัชทายาท” ไว้แล้ว เมื่อรัฐสภาหรือ สนช.รับทราบ แล้ว “ออกประกาศ” ว่า ประธานรัฐสภา หรือประธาน สนช.ในขณะนี้ได้ “เชิญพระรัชทายาท” ขึ้น “ครองราชย์” เป็นพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใหม่
…บรรยากาศที่ “หน้าพระบรมมหาราชวัง” ในวันอาทิตย์ที่ 16 ต.ค. แม้ “ฝนกระหน่ำ” ลงมา แต่ประชาชนยังคง “หลั่งไหล” มารอเข้าแสดงความอาลัย “ในหลวงในพระบรมโกศ” และลงนามใน “สมุดหลวง” ที่ “ศาลาสหทัยสมาคมฯ” อย่างเนืองแน่น และหลังจาก “การพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล” หรือ “พิธีหลวง” ครบ 15 วัน กล่าวคือ ตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค. เป็นต้นไป จะเปิดให้ “พสกนิกร” ได้เข้าถวายสักการะที่เบื้องหน้าพระบรมโกศ ในท้องพระโรง พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทได้
…และหลังจากครบ 50 วัน จะเปิดให้ “ภาคต่างๆ บุคคล-คณะบุคคล-ประชาชนทั่วไป” ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญพระราชกุศล สวดพระอภิธรรมพระบรมศพได้ ก็จะเป็นโอกาสของประชาชนทั่วไปที่จะถวายความอาลัยต่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ต่อไป
กาแฟป่า
