กรมสมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯ สถานีกลางบางซื่อ ทรงเปิดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 50 ทอดพระเนตรนิทรรศการ 125 ปีรถไฟไทย
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 26 มีนาคม สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงเปิดงาน “สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 50 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 20”
โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม, น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ, นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย, นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, นางสุวดี จงสถิตย์วัฒนา ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย และนางสาวทิพย์สุดา สินชวาลวัฒน์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย เฝ้าฯ รับเสด็จ
ครั้นเสด็จฯ ถึง เสด็จฯ เข้าภายในสถานีกลางบางซื่อ ประทับพระราชอาสน์
โอกาสนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กราบบังคมทูลรายงานประวัติสถานีกลางบางซื่อ ความว่า กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ดำเนินการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อเพื่อให้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมระบบรางแห่งใหม่ของไทย เชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง และเชื่อมโยงสู่ทุกภูมิภาค ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีมาตรฐานเทียบเท่าสถานีชั้นนำของโลก โดยได้รับการออกแบบตามหลักอารยสถาปัตย์ เพื่อให้ผู้โดยสารทุกคนสามารถใช้บริการต่างๆ ได้อย่างสะดวกปลอดภัย ทันสมัย และประหยัด บนพื้นที่ 2,475 ไร่ รวมพื้นที่ใช้สอยกว่า 304,000 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 624,000 คนต่อวัน
ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 กระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมมือกันจัดตั้งและให้บริการศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ ณ สถานีกลางบางซื่อแห่งนี้ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีการให้บริการฉีดวัคซีนให้แก่บุคลากรด้านการขนส่งและประชาชนเป็นจำนวนกว่า 5 ล้านโดส และเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เริ่มเปิดให้บริการรถไฟฟ้าเส้นทางสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน โดยให้บริการเดินรถไปแล้วมากกว่า 26,000 เที่ยว และให้บริการผู้โดยสารกว่า 900,000 คน
ประชาชนที่ใช้บริการสามารถเชื่อมต่อการเดินทางกับรถไฟฟ้ามหานคร รถโดยสารประจำทาง และโครงข่ายสายหลัก ได้อย่างสะดวก ซึ่งโครงการนี้มีบทบาทสำคัญในการลดปัญหาการจราจรติดขัดและมลพิษทางอากาศของกรุงเทพมหานคร
ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 50 ฯ นี้ กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ร่วมสนับสนุนพื้นที่การจัดงานทั้งหมด ด้วยตระหนักว่าการอ่านเป็นพื้นฐานสำคัญ สำหรับการเรียนรู้ของชีวิต ทั้งนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ร่วมจัดนิทรรศการบอกเล่าประวัติศาสตร์ เรื่องราวเหตุการณ์สำคัญของกิจการรถไฟไทย และยังบอกเล่าถึงวิสัยทัศน์ของกระทรวงคมนาคม ที่จะพัฒนาโครงข่ายและคุณภาพการให้บริการของระบบการขนส่งทางรางให้ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพ อันจะช่วยสนับสนุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อนำพาประเทศไทยไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน สืบไป
จากนั้น น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) กราบบังคมทูลรายงานการจัดงาน และกราบบังคมทูลเบิก นางเกศทิพย์ ศุภวาณิช รองเลขาธิการคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐานเข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูลเปิดผู้มีอุปการคุณเข้ารับพระราชทานโล่เกียรติคุณ จำนวน 19 ราย และเบิกผู้แทนผู้ชนะการประกวดหนังสือดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2564 และประจำปี พ.ศ.2565 เข้ารับพระราชทานเกียรติบัตร จำนวน 25 ราย
น.ส.ตรีนุช เทียนทอง กราบบังคมทูลว่า การจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งนี้ เป็นการจัดแสดงงานหนังสือและการสื่อสารการศึกษาอย่างเต็มรูปแบบ โดยได้รับการสนับสนุนด้านพื้นที่ในการจัดงานจากกระทรวงคมนาคมและการทางรถไฟแห่งประเทศไทยที่ให้ใช้พื้นที่จัดงาน ณ สถานีกลางบางซื่อ ณ บริเวณประตูหนึ่งโซนรถไฟสายแดงทั้งหมด ได้แก่ บริเวณโถงชั้น 1 และชั้นลอย รวมพื้นที่จัดงานประมาณ 20,000 ตารางเมตร ซึ่งการจัดงานในปีนี้ตรงกับวันคล้ายวันสถาปนากิจการรถไฟครบ 125 ปีในวันที่ 26 มีนาคม 2565
รัฐมนตรีว่าการศธ. กราบบังคมทูลต่อว่า คณะกรรมการจัดงาน จึงได้กำหนดจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติและสัปดาห์หนังสือนานาชาติที่สถานีกลางบางซื่อเป็นครั้งแรกและยังคงมุ่งมั่นในการเป็นสื่อกลางสร้างความสุขให้แก่เด็กๆ เยาวชนและประชาชน ที่จะได้เลือกสรรหนังสือและสื่อการอ่านตามแนวคิดหลักในการจัดงานว่าอนาคต ด้วยการระดมสรรพกำลังจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องหลายสาขา องค์กร สมาคม หน่วยงานต่างๆ ที่ได้ร่วมอุดมการณ์การทำงานด้านการผลิตหนังสือดีมีคุณภาพเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงหนังสือประเภทต่างๆ และใช้การอ่านหนังสือเพื่อตามหาเส้นทางสู่อนาคตที่สดใสด้วยความมั่นใจ ก้าวข้ามความไม่รู้สู่การเป็นมืออาชีพตามความถนัดและความสนใจของตนเองได้
การนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชดำรัสเปิดงาน “สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 50 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 20” ความว่า
ข้าพเจ้ายินดีที่ได้มาเป็นประธานเปิดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 50 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 20 ที่จัดขึ้นในวันนี้ การจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ และสัปดาห์หนังสือนานาชาติในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา แม้จะต้องปรับรูปแบบเป็นการจัดงานผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือออนไลน์ เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ก็ยังได้รับความสนใจจากผู้ที่รักการอ่านจำนวนมาก ที่ชื่นชอบการอ่านหนังสือเล่มที่จับต้องได้ และพกพาไปเป็นเพื่อนร่วมทางได้ ทั้งยังได้เห็นความมุ่งมั่นของผู้จัดงานที่จะส่งเสริมและสร้างสรรค์สังคมแห่งการอ่าน การค้นคว้าหาความรู้
งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ และสัปดาห์หนังสือนานาชาติที่จัดขึ้นครั้งนี้ มีสำนักพิมพ์เข้าร่วมงานจำนวนมาก นอกจากการจำหน่ายหนังสือหลากหลายประเภทให้ผู้รักการอ่านทุกเพศวัยเลือกสรรตามความสนใจ ยังจัดให้มีนิทรรศการและกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการอ่าน ที่จะให้สาระความรู้ ความสุข ความเพลิดเพลิน แก่ผู้เข้าชมงาน นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ครั้งนี้จัดงานได้เต็มรูปแบบ ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ ได้เห็นได้สัมผัสบรรยากาศของงานด้วยตนเอง และสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้จัดพิมพ์ ผู้ประพันธ์ หรือมิตรผู้รักการอ่านเช่นกัน
จากนั้นเสด็จฯ ไปฉายพระรูปร่วมกับคณะกรรมการจัดงานภาครัฐและเอกชน แล้วทอดพระเนตรนิทรรศการภายในบริเวณงาน ได้แก่ นิทรรศการ 125 ปี รถไฟไทย ในวาระครบ 125 ปีแห่งการก่อตั้ง ถวายรายงานโดย นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย และนิทรรศการอื่นๆ อาทิ นิทรรศการหนังสือดีเด่น ประจำปี พ.ศ.2565, นิทรรศการก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 รางวัลพานแว่นฟ้า วรรณกรรมการเมืองเพื่อพัฒนาประชาธิปไตย และนิทรรศการหนังสือพระราชนิพนธ์ ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แสดงถึงพระอัจฉริยภาพด้านการประพันธ์ และการแปล อันเป็นเสน่ห์แห่งวรรณกรรม
โอกาสนี้ กรมสมเด็จพระเทพฯ ได้เสด็จทอดพระเนตรบูธหนังสือต่างๆ โดยสำนักพิมพ์ต่างๆ ได้ทูลเกล้าุถวายหนังสือ รวมถึง สำนักพิมพ์มติชนด้วย สมควรแก่เวลาจึงเสด็จฯกลับ
ด้าน นางสาวทิพย์สุดา สินชวาลวัฒน์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) กล่าวว่า งานสัปดาห์หนังสือฯ จัดขึ้นเพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้คนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก เยาวชน ตลอดจนผู้ใหญ่เห็นความสำคัญของการอ่าน และยังเปิดโอกาสให้สำนักพิมพ์ในประเทศไทยเกิดความตื่นตัวปรับปรุงพัฒนาการการผลิตหนังสือให้มีคุณภาพ มีความหลากหลายเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านในหลายๆ รูปแบบตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
งานในครั้งนี้จัดภายใต้ธีม ‘อนาคต’ ซึ่งการอ่านหนังสือเปรียบเสมือนการเดินทางที่พาเราไปสู่อนาคต และยังเป็นการปักหมุดครั้งใหม่ของงานและการอ่านในพื้นที่ใหม่คือ สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการเดินทางแห่งใหม่ของประเทศไทยในอนาคต สมาคมฯ เชื่อว่า งานหนังสือครั้งนี้จะสามารถพาทุกท่านเดินทางไปสู่อนาคตแห่งความรู้และสร้างความทรงจำที่ดีให้กับผู้ร่วมงานทุกท่านเหมือนงานหนังสือครั้งที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับงานสัปดาห์หนังสือฯ มีบูธสำนักพิมพ์ทั้งไทยและต่างประเทศจำหน่ายหนังสือและสื่อการศึกษา กว่า 208 ราย รวมกว่า 583 บูธ อีกทั้งมีการอบรมสัมมนาทางวิชาการ, นิทรรศการ และเวทีเสวนาหลากหลายหัวข้อที่น่าสนใจ บนพื้นที่กว่า 2 หมื่นตารางเมตร แบ่งพื้นที่เป็น 6 โซน ได้แก่ 1.โซนหนังสือเด็กและสื่อการศึกษา 2.โซนหนังสือการศึกษา 3.โซนหนังสือต่างประเทศ 4.โซนหนังสือเก่า 5.โซน Book Wonderland (หนังสือการ์ตูนและวัยรุ่น) 6.โซนหนังสือทั่วไป
นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการที่ให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสประสบการณ์ความรู้หลากหลายรูปแบบ อาทิ นิทรรศการ 125 ปี รถไฟไทย ที่ไล่เรียงประวัติศาสตร์การรถไฟไทยตลอด 125 ปี เชื่อมโยงกับตัวอักษร ก-ฮ ที่เป็นความหมายสำคัญของประวัติศาสตร์การรถไฟไทย, นิทรรศการหนังสือดีเด่น ประจำปี 2565 ที่จัดแสดงหนังสือดีเด่นประจำปีนี้, นิทรรศการก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 รางวัลพานแว่นฟ้า วรรณกรรมการเมืองเพื่อพัฒนาประชาธิปไตย, นิทรรศการหนังสือพระราชนิพนธ์ ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แสดงถึงพระอัจฉริยภาพด้านการประพันธ์ และการแปล อันเป็นเสน่ห์แห่งวรรณกรรม ตลอดจนกิจกรรมอบรมเสวนาอีกมากมาย และยังเป็นครั้งแรกของงานหนังสือที่มี NFT หรือสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นรูปภาพศิลปะจาก “มุนิน” ศิลปินนักวาดภาพชาวไทยชื่อดังที่มีเพียง 25,000 ชิ้น 5 แบบ ให้แลกในงานอีกด้วย
โดยงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 50 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติครั้งที่ 20 จัดขึ้นระหว่างวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม-วันพุธที่ 6 เมษายน 2565 เวลา 10.00-21.00 น. ณ สถานีกลางบางซื่อ
