ลูกเสือชาวบ้านฉะเชิงเทรา เผย “ในหลวงร.9” ศูนย์รวมความรักสามัคคีคนไทยในชาติ

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เป็นวันที่ 7 โดยวันนี้ สำนักพระราชวังเปิดประตูวิเศษไชยศรีให้ประชาชนได้เข้ากราบถวายบังคมตั้งแต่เวลา 05.00 น. จนกระทั่งเวลา 08.00 น. จึงเปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูมณีนพรัตน์ ก่อนจะเดินตามทางระเบียงคด ผ่านพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เข้าสู่กำแพงแก้วของพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ซึ่งแม้ว่าบรรยากาศจะร้อนอบอ้าว แต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงต่อแถวเพื่อเข้าสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศอย่างต่อเนื่อง และต่างนำพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไว้แนบอกตลอดเส้นทาง ซึ่งทุกคนไม่มีสีหน้าเหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด

S__3908505

น.ส.กาญจนา ปรีดานนท์ อายุ 65 ปี วิทยากรชมรมลูกเสือชาวบ้าน จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวด้วยความตื้นตันใจว่า ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้มีโอกาสมากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ เนื่องจากอยู่ต่างจังหวัด จึงติดตามการถ่ายทอดสดงานพระราชพิธีสวดพระอภิธรรมพระบรมศพทางโทรทัศน์โดยตลอด แต่พอทางศูนย์ปฏิบัติการลูกเสือชาวบ้าน ในพระบรมราชานุเคราะห์ ได้จัดคิวให้ชมรมลูกเสือชาวบ้านจ.ฉะเชิงเทรา จำนวน 100 คน ได้มีโอกาสมาสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ ซึ่งตนได้รับโอกาสให้เป็น 1 ใน 100 คน ก็รู้สึกตื้นตันใจที่สุดในชีวิตแล้ว โดยเดินทางกันมาทั้งคณะ 100 คน จากจ.ฉะเชิงเทราตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึงพระบรมมหาราชวัง เวลา 7.20 น. และก็รอคิวประมาณ 3 ชั่วโมง ถึงได้เข้าสักการะพระบรมศพ ซึ่งแม้ว่าอากาศจะร้อนไปบ้าง แต่ก็รู้สึกเหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด เพราะความจงรักภักดีที่มีต่อพระองค์ท่าน ซึ่งหากมีโอกาสได้มาอีกก็คงจะมาเรื่อยๆ เนื่องจากรู้สึกว่าอยากใกล้ชิดกับพระองค์ให้นานที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้

“ดิฉัน เป็นรุ่นเสือชาวบ้าน ตั้งแต่ประมาณปี 2517 ซึ่งเป็นรุ่นแรกๆของการก่อตั้งชมรมลูกเสือชาวบ้าน โดยตลอดช่วงชีวิตนี้ได้เคยมีโอกาสเข้าเฝ้าพระองค์ท่านในพิธีการรับมอบผ้าพันคอ วอกเกิล และธงลูกเสือชาวบ้าน ประมาณ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งพระองค์ท่านยังมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงอยู่ โดยพระราชกรณียกิจของพระองค์ในการรับศูนย์ปฏิบัติการลูกเสือชาวบ้าน ไว้ในพระอนุเคราะห์นั้น ก็ถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเป็นปึกแผ่นของประเทศ สร้างความเข้มแข็งของคนในชุมชน สร้างความรักความสามัคคีของคนตั้งแต่ระดับชุมชน ถึงระดับชาติ การสร้างความรักถิ่นฐานบ้านเกิด รวมถึงการฝึกอบรมอาชีพเสริมให้แก่ชาวบ้าน ซี่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้”น.ส.กาญจนา กล่าว

Advertisement

นางวัชรี สมบัติทิพย์ อายุ 62 ปี ลูกเสือชาวบ้านจ.ฉะเชิงเทรา กล่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกพูดไม่ออก เพราะรู้สึกดีใจอย่างมาที่ได้มีโอกาสมาสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศสักครั้งหนึ่งในชีวิต พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างมากต่อประเทศชาติ ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติ โดยการสร้างความสามัคคีให้คนไทยรักกัน ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย หรือแบ่งสีใดๆทั้งสิ้น รวมทั้งทรงส่งเสริมและสนับสนุนกิจการลูกเสือชาวบ้านให้มีความเจริญก้าวหน้าและเข้มแข็ง ซึ่งมีส่วนในการฝึกอาชีพของชาวบ้าน และสร้างความเข้มแข็งในแต่ละชุมชน

S__3908510
วัชรี – กาญจนา
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image