ชายออสเตรเลียเดินเท้าจากเกาะสมุย 900 กม. สักการะพระบรมศพ สรุปยอดปชช.12วัน 3.8 แสนคน

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่พระบรมมหาราชวัง ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศประชาชนที่มาสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ตลอดช่วงเช้าประชาชนมาเข้าคิวเพื่อสักการะพระบรมศพตั้งแต่เช้าตรู่ โดยเจ้าหน้าที่เปิดให้เข้าสักการะทางประตูวิเศษไชยศรีเช่นเดิม ก่อนที่เวลา 08.30 น. เจ้าหน้าที่ได้เปลี่ยนให้ประชาชนเข้าสักการะทางประตูมณีนพรัตน์ เข้าสู่ระเบียงคด ผ่านพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เข้าสู่รั้วกำแพงแก้ว ขึ้นไปสักการะ ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบายหลังฝนตกลงมาเมื่อคืน โดยปลายแถวอยู่ในสนามหลวงตรงข้ามศาลฎีกายาวไปทางทิศเหนือ มายังฝั่งประตูตรงข้ามวัดมหาธาตุ ผ่านถนนหน้าพระธาตุเข้าสู่ประตูมณีนพรัตน์

นายแฮมมิล ไมเคิล เดวิด อายุ 46 ปี ชาวออสเตรเลีย เดินเท้าแสดงความอาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จาก อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม และมาถึงหน้าพระบรมมหาราชวังในช่วงกลางคืนของวันที่ 9 พฤศจิกายน ช่วงเวลา 20.30 น.ที่ผ่านมา รวมระยะทางกว่า 900 กม. โดยมาพร้อมกับพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่เขียนคำว่า “Walk for king” ถือไว้เบื้องหน้า และสะพายกระเป๋าเดินทางแบคแพคคู่ใจมาเพียงลำพัง

โดยมีนายเมธีพิพัฒน์ เข้มตระกูล อาสากู้ภัยปอเต็กตึ๊งตลาดพลู 068 ที่ทำหน้าที่ให้การดูแลประชาชนบริเวณสนามหลวง ได้พบเห็นและพามาแจ้งกับเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง เพื่อเข้ากราบสักการะพระบรมศพ

นายแฮมมิล กล่าวว่า เพิ่งเคยเดินทางมาประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยเดินทางมาช่วงหยุดพักผ่อนเป็นเวลา 2 เดือน ระหว่างที่อยู่ที่นี่ได้เห็นประชาชนคนไทยรักในหลวง รัชกาลที่ 9 มาก พอมีประกาศว่าพระองค์เสด็จสวรรคตเป็นช่วงเวลาที่เห็นคนไทยทั้งที่อยู่ในประเทศและต่างประเทศแสดงความโศกเศร้าในการสูญเสียพระองค์ แม้ตัวเองจะรู้เรื่องราวของพระองค์น้อยมาก แต่ขณะที่กำลังอยู่ในเมืองไทยจึงอยากทำอะไรสักอย่างที่เป็นการแสดงความอาลัย จึงเลือกที่จะเดินเท้ามาเพื่อถวายสักการะพระบรมศพ และขอแสดงความเสียใจต่อคนไทยทุกคน

Advertisement

“ขณะที่ได้เข้าไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ได้ก้มลงกราบพระบรมศพ ระลึกถึงว่าพระองค์ทรงทำอะไรหลายอย่างให้แก่ประชาชนของพระองค์ไว้มากมาย ไม่สามารถที่จะอธิบายได้ว่าเหตุใดเราจึงต้องทำแบบนี้ และเหตุใดถึงรักเมืองไทย เพราะหลังจากนี้คิดว่าอยากจะใช้ชีวิตในประเทศไทยจนวันสุดท้ายของชีวิต จากนี้ขอเดินชมรอบๆ พระบรมมหาราชวัง ก่อนเดินทางท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ จนกว่าจะได้งานทำที่สมุยแล้วค่อยเดินทางกลับ” นายแฮมมิลกล่าว

S__67084382

S__67084383

Advertisement

S__67084384

ด้าน นายสมพล สมเกียรติกุล อายุ 65 ปี นักเขียนแบบ ที่อาศัยแถวสะพานสูง กล่าวว่าเดินทางมาที่สนามหลวงวันนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว ในแต่ละครั้งก็มาฟังสวดบ้าง นั่งอยู่ในสนามหลวงบ้าง แต่วันนี้เป็นโอกาสอันดีที่ได้มาเข้าสักการะ โดยตื่นตั้งแต่ตีสองต่อแถวตอนตีสี่ เตรียมตัวทุกอย่างทั้งร่างกาย และเครื่องแต่งกายที่ให้เรียบร้อย สบายคุ้นชินเพราะต้องต่อแถวนานกว่า 4 ชั่วโมง และเลือกมาคนเดียวจะได้ไม่มีกังวล เมื่อได้สักการะก็ระลึกถึงสิ่งต่างๆที่พระองค์ทรงทำเพื่อคนไทยและระลึกถึงประสบการณ์ในอดีต

“สิ่งที่จดจำได้ตั้งแต่เมื่อตอนเป็นนักเรียนมัธยมต้นที่จังหวัดราชบุรี พระองค์เสด็จฯไปทรงเปิดงานโรงเรียนที่นั่น ตอนนั้นเราเป็นนักดนตรีแตรวง ทำให้ได้รับเสด็จฯใกล้เพียงเอื้อมมือ พระองค์รับสั่งว่า เด็กพวกนี้เล่นเก่งจัง ซ้อนนานไหม ยังเป็นเด็กเล็กๆอยู่เลย เป็นสิ่งที่ทำให้ประทับใจมากและจดจำฝังใจจนตอนนี้ หลังจากนั้นจึงได้ติดตามพระราชกรณียกิจต่างๆของพระองค์ตลอดมา โดยเฉพาะด้านศิลปะอย่างดนตรี และภาพวาด ที่พระองค์ทรงเป็นศิลปินที่มีพระอัจฉริยภาพหาใดเปรียบ ภาพวาดทุกภาพวาดจากใจ เป็นตัวของตัวเอง แสดงอารมณ์ได้ดีทุกภาพ ซึ่งเรารับรู้ได้ เพราะพระองค์ทรงวาดภาพเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ ทำให้เหล่าศิลปินยกให้ท่านเป็นบรมครู เทิดทูนไว้เหนือเกล้า ถือว่าพระองค์เป็นที่สุดแล้วในประวัติศาสตร์โลกนี้” นายสมพลกล่าว

นายสมพล
นายสมพล สมเกียรติกุล

ขณะที่ นางวรรณี มีเนียม อายุ 58 ปี อาชีพทำสวนยาง ที่นั่งรถไฟฟรีกับลูกพี่ลูกน้อง 4 คน กล่าวว่า นั่งรถไฟจากสุราษฎร์ธานีมาเมื่อวานนี้ ก่อนจะมาถึงกรุงเทพฯเมื่อช่วงค่ำ เข้าพักที่ไทยญี่ปุ่นดินแดง เพื่อเข้ามาสักการะพระบรมศพเป็นครั้งแรก และจะเดินทางกลับในวันนี้ แม้จะไกลก็ไม่ท้อ เพราะพ่อหลวงทรงทำให้เราสุขสบาย มาความสุขบนแผ่นดินนี้ ช่วยเหลือประชาชนตลอดมา ทำให้เราอยากจะแสดงออกถึงความรักสักครั้ง

นางวรรณี
นางวรรณี มีเนียม

ทั้งนี้ สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ไห้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 22.35 น. ว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 33,042 คน รวม 12 วันมี 345,850 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 2,538,854.75 บาท รวม 12 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 21,560,231.50 บาท

S__1384456

S__1384457
S__1384460

S__1384462

นางวรรณี

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image