ชาวสหรัฐต่อแถวถวายสักการะฯตั้งแต่เช้ามืด เทิดทูน ‘ในหลวง ร.9’ หลังได้อ่านพระราชกรณียกิจ

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ที่สำนักพระราชวังเปิดให้สักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศเป็นวันที่ 17 ประชาชนยังคงเดินทางมาเข้าคิวต่อแถวเพื่อเข้าสักการะตั้งแต่ช่วงเช้ามืด หลายคนจูงบุตรหลานมาเพื่อให้เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติหลายคนก็ทยอยเดินทางมาสักการะพระบรมศพด้วย โดยในวันนี้ เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพทางประตูวิเศษไชยศรี ก่อนจะเปลี่ยนให้ประชาชนเข้าทางประตูมณีนพรัตน์เมื่อเวลา 08.00 น. และออกทางประตูเทวาภิรมย์

นายพยอม ฉัตรทอน อายุ 73 ปี ซึ่งเดินทางมากับจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า เมื่อได้ทราบข่าวว่าจังหวัดจะพามาสักการะพระบรมศพ จึงรีบไปลงชื่อที่อบต.แหลมใหญ่ เพราะอยากจะมาให้ได้ด้วยตัวเองสักครั้งหนึ่ง โดยออกจากจังหวัดเมื่อเวลา 02.00 น. และมาถึงที่นี่เมื่อเวลา 03.00 น. ก่อนจะมาเข้าคิวนาน 6 ชั่วโมงจึงได้เข้าสักการะ แต่ก็ไม่ย่อท้อ แค่ได้อธิษฐานจิตด้วยตัวเองให้พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัยก็เพียงพอใจแล้ว

“ประทับใจพระองค์ที่ทรงช่วยเหลือประชาชนให้พ้นจากความยากลำบาก ทั้งเรื่องปากท้องและคุณภาพชีวิต เวลาที่ข่าวพระราชสำนักมา จะนั่งดูโทรทัศน์เสมอ เมื่อมีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ก็จะก้มกราบทุกๆ ครั้ง รู้สึกโชคดีที่ได้เกิดในแผ่นดินรัชกาลที่ 9 ซึ่งเราได้พึ่งบุญญาธิการของพระองค์มาตลอดชีวิต เมื่อทราบข่าวพระอาการจากแถลงการณ์สำนักพระราชวังก็เป็นห่วงมาตลอด ขณะนี้แม้จะผ่านมา 1 เดือนแล้วแต่ก็ยังรู้สึกเสียใจอยู่ จากนี้จะปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ อย่างง่ายๆ คือเศรษฐกิจพอเพียง ที่หากเราทำได้ รู้จักประหยัด ก็จะมีกินมีใช้ และมีความสุขเอง” นายพยอม กล่าว

 

Advertisement
พยอม ฉัตรทอน
พยอม ฉัตรทอน

ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจากรัฐเวอร์จีเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มาพร้อมเพื่อนคนไทย พักอาศัยย่านพัทยา จ.ชลบุรี โดยหลังจากทราบข่าวว่าในหลวง รัชกาลที่ 9 สวรรคต ก็ไม่ได้เปลี่ยนแผนการเดินทางมาประเทศไทย และพร้อมใจกันมาสักการะพระบรมศพ ในหลวง รัชกาลที่ 9 ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยได้เตรียมตัวในเรื่องของการแต่งกายสุภาพเรียบร้อย และเดินทางมาถึงตั้งแต่ตี 4 เพื่อเข้าคิวแต่เช้า

นายเอเดรียน ลอว์ อายุ 77 ปี อาจารย์มหาวิทยาลัยมิสซูรี แคนซาส ซิตี้ อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องดินจากสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า แม้มาเมืองไทยเป็นครั้งแรก แต่ได้รับรู้เรื่องราวของพระองค์จากหนังสือพิมพ์มาบ้าง ครั้งนี้ได้มาเมืองไทยได้เรียนรู้พระราชประวัติและการทรงงานของพระองค์ ทราบว่าทรงทำเพื่อประชาชนชาวไทยมากมาย โดยเฉพาะเรื่องดินที่ทรงศึกษาค้นคว้า แก้ปัญหาให้ชาวบ้านสามารถทำเกษตรกรรมได้ อีกทั้งยังทรงสามารถถ่ายทอดสอนให้ชาวบ้านปลูกพืชผักเลี้ยงชีพด้วยตัวเองได้ พระองค์ทรงศึกษามากกว่าที่พวกเรานักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐอเมริกาค้นคว้าในห้องทดลองเสียอีก

นางสาวอแมนด้า โบเอ็ม อายุ 44 ปี กล่าวว่า ชอบเดินทางท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ อยู่แล้ว และเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ได้มาท่องเที่ยวในเมืองไทย พร้อมได้ชมความงามของพระบรมมหาราชวัง ทำให้ได้เห็นและทราบพระราชประวัติของพระองค์แบบคร่าวๆ จากนั้นได้ศึกษาเพิ่มเติมจากการอ่านในหนังสือและอินเตอร์เน็ต ยิ่งทำให้เห็นว่าพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่แตกต่างจากพระมหากษัตริย์องค์อื่นใดในโลกนี้ เพราะทรงเสียสละเวลาและทรงงานต่างๆ นอกจากนี้ยังรู้สึกปลื้มใจที่ได้รับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีที่เสด็จฯ มาเมื่อช่วงเช้า พระองค์ทรงแย้มพระสรวลและโบกพระหัตถ์ให้แก่ประชาชน เพื่อนชาวไทยบอกว่าเป็นความโชคดีของเรา เพราะแม้แต่คนไทยบางคนยังไม่ได้ใกล้ชิดอย่างนี้

Advertisement

ปิดท้ายด้วย นายคลิฟ เช้งก์ อายุ 54 ปี กล่าวว่า ส่วนตัวตอนที่มาเมืองไทยครั้งแรกภรรยาได้พาไปเที่ยวดอยตุง ดูโครงการต่างๆ ที่พระองค์พัฒนาทำให้ชาวเขาไทย มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อยู่ดีกินดีด้วยเกษตรกรรม มีอาหาร มีน้ำกิน-ใช้ อย่างยั่งยืน และมีความพอเพียง  จำได้ว่าตอนนั้นพอรู้ว่าทั้งหมดที่เห็นมีที่มาจากพระมหากษัตริย์ รู้สึกประทับใจ และสนใจในพระองค์มาก พอเห็นนิทรรศการพระราชประวัติของในหลวงรัชกาลที่ 9  ก็ยืนอ่านอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมงมีข้อมูลที่ทำให้ตื้นตันใจมาก

 

S__1605646
นักท่องเที่ยวต่างชาติจากรัฐเวอร์จีเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มาพร้อมเพื่อนคนไทย

ทั้งนี้ สำนักพระราชวังสรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน หลังสำนักพระราชวังปิดให้ประชาชนเข้าภายในพื้นที่พระบรมมหาราชวังเพื่อขึ้นถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เมื่อเวลา 21.00 น. โดยมีจำนวนประชาชนที่ได้ถวายสักการะพระบรมศพจำนวน 33,928 คน รวม 16 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม -13 พฤศจิกายน รวมทั้งสิ้น 470,319 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระกุศลเป็นเงิน 2,238,997.25 บาท รวม 16 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 31,491,776.25 บาท

 

S__1605648

S__1605650

S__1605656

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image