ป้าวัย 67 ปีสุดอาลัย เดินทางจาก จ.อยุธยามาสักการะพระบรมศพแล้ว 14 ครั้ง เผยพระองค์เป็นดั่งเทวดาที่มีลมหายใจ

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน บรรยากาศการเข้ากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศในช่วงบ่าย มีพสกนิกรจากทุกสารทิศเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางอากาศจะร้อนและมีแดดแรง แต่ประชาชนก็คงไม่ย่อท้อยังคงทยอยเข้าแถวต่อคิวเพื่อเข้าสักการะพระบรมศพอย่างเป็นระเบียบ ขณะที่การเปิดให้เข้าเที่ยวชมวัดพระศรีรัตนศาสดารามนั้น วันนี้สำนักพระราชวังได้ปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมตั้งแต่เวลา 12.00 น. และงดเข้าชมพระอุโบสถทั้งวัน เนื่องจากจะมีพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูฝนพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เพื่อทรงเครื่องสำหรับฤดูหนาว ณ พระอุโบสถ ในประมาณเวลา 16.00 น.

นางทองคำ จังอินทร์ อายุ 67 ปี ชาวต.หัวเรือ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวทั้งน้ำตานองน้ำว่า ไม่อยากจะพูดอะไรมาก เพราะพอจะกล่าวถึงพระองค์ท่านทีไหร่แล้ว ก็รู้สึกเศร้า น้ำตาก็จะไหลออกมาไม่หยุด เนื่องพระองค์ทรงเป็นบุคคลเปี่ยมไปด้วยความดีงาม เป็นดั่งเทวดาที่มีลมหายใจ ไม่ว่าจะยากดีมีจนสักเพียงใด พระองค์ก็ทรงเมตตาต่อราษฎรทุกคน ไม่มีการเลือกปฏิบัติ ซึ่งแม้ว่าในช่วงชีวิตนี้ ตนอาจจะไม่ได้มีโอกาสรับเสด็จฯพระองค์เลย แต่ก็รู้สึกรักพระองค์ อย่างไม่มีข้อแม้ เพราะพระองค์ทรงงานหนักเพื่อพสกนิกร โดยไม่หวังผลใดๆทั้งสิ้น

“การเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 14 ของยายแล้ว และตั้งใจจะมาอีกเรื่อยๆจนครบ 19 ครั้ง เนื่องจากยายเชื่อว่าเป็นตัวเลขที่เป็นมงคลของยาย มีเลข 9 ซึ่งหมายถึง รัชกาลที่ 9 อันเป็นรัชกาลของพ่อหลวง โดยครั้งแรกที่ยายเดินทางมาสักการะพระองค์ ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในวันที่ 29 ตุลาคมนั้น ยายเดินทางมาจากบ้านที่จ.พระนครศรีอยุธยา ประมาณ 4 ต่อ จากเรือ ต่อรถจักรยานยนต์ ต่อรถไฟ ต่อรถเมล์ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ถึงจะถึงพระบรมมหาราชวัง จากนั้นยืนรออีกหลายชั่วโมง ถึงจะได้เข้ากราบสักการะพระองค์ แต่ก็รู้สึกเหนื่อย และไม่เจ็บปวดใดๆทั้งสิ้น แม้ว่าตาทั้ง 2 ข้างของยายจะเป็นต้อหินและต้อลม ซึ่งพอเข้าไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ขณะที่ยายกำลังก้มลงกราบ น้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด ไม่คิดว่าพระองค์จะสวรรคตเร็วอย่างนี้ ไม่เชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นจริง แม้ว่าจะพอทำใจมาก่อนหน้านี้แล้วแต่ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น” นางทองคำกล่าวด้วยเสียงสะอื้นและน้ำตานองหน้า

 

Advertisement
ทองคำ
ทองคำ จังอินทร์

 

นางกุศล จันทร์สิทธิ์ อายุ 58 ปี ชาวจ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ได้ร่วมเงินกับเพื่อนในหมู่บ้านบางปู อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เหมารถตู้กันมา 14 คน โดยออกเดินทางกันมาตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายนถึงกรุงเทพฯประมาณ เวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 15 พฤศจิกายน จากนั้นก็อาบน้ำแต่งตัว ที่พุทธมณฑล แล้วมาถึงพระบรมมหาราชวัง ประมาณเวลา 04.00 น. เพื่อต่อแถวเข้าสักการะพระบรมศพ ซึ่งเมื่อได้เข้ากราบพระองค์ท่านแล้ว ก็รู้สึกตื้นตันใจพร้อมกับเสียใจในเวลาเดียวกัน รู้สึกตื้นตันใจที่ครั้งหนึ่งได้เข้ามากราบ เนื่องจากอยู่ไกลคงไม่มีโอกาสที่จะมามากนัก แต่ก็เสียใจที่พระองค์ได้จากไปแล้ว เปรียบเหมือนการขาดของเสาหลักของบ้าน

“ในช่วงชีวิตนี้ แม้ว่าจะไม่ได้มีโอกาสรับเสด็จฯพระองค์ท่าน แต่ดิฉันก็ต้ังใจจะน้อมนำเอาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและแนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่ของพระองค์มาปรับใช้ในการดำรงชีวิต โดยขณะนี้ดิฉันได้นำเอาที่ดินประมาณ 5 ไร่ มาทำเกษตรผสมผสาน ขุดบ่อน้ำ เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ ปลูกกล้วย มะพร้าว และผักสวนครัว พบว่า สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้เป็นอย่างดี” นางกุศลกล่าว

Advertisement

 

กุศล จันทร์สิทธิ์
กุศล จันทร์สิทธิ์

 

201611151533513-20061002145636

201611151600051-20061002145636

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image