ม.ล.ประทิ่นทิพย์ย้อนเล่าถึง ‘พระองค์ภาฯ’ เมื่อครั้งทรงเป็น ‘นักเรียน ร.ร.ราชินี’ ทรงไม่มีสิทธิพิเศษอะไร ทรงเหมือนเด็กทั่วไป และมีบ้างที่จะซน
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ภายหลังสำนักพระราชวังออกแถลงการณ์เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวร โดยทรงเข้ารับการรักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565
ตั้งแต่ช่วงเช้ามีหน่วยงาน องค์กร คณะบุคคล และประชาชนจากทุกสารทิศ เดินทางมาลงนามถวายพระพรและนำแจกันดอกไม้มาถวายเบื้องหน้าพระรูป สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เป็นวันแรก ณ ชั้น 1 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ไม่เว้นวันหยุดราชการนั้น
หม่อมหลวงประทิ่นทิพย์ นาครทรรพ ผู้จัดการโรงเรียนราชินี กล่าวว่า ดิฉันเป็นผู้ถวายการดูแลตั้งแต่พระองค์ทรงเข้าศึกษาโรงเรียนราชินี เป็นพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ที่ให้ทรงเข้าศึกษาและให้โรงเรียนดูแลพระองค์เหมือนเด็กปกติทั่วไป ไม่มีสิทธิพิเศษอะไร ซึ่งพระองค์ก็ทรงมีความสบายใจที่จะเหมือนเพื่อนๆ ทั่วไป เวลาประทับที่โรงเรียนมีบ้างที่จะซน เพราะยังทรงพระเยาว์มาก
“พระองค์จะสนุกสนาน และเวลาเรียนก็ทรงนิ่ง ทรงตั้งใจเรียน เวลาทำผิดก็โดนลงโทษเหมือนเพื่อนทุกคน ที่โรงเรียนเราสอนให้ทำงานร่วมกัน ตรงนี้เป็นหลักสำคัญที่จะปลูกพื้นฐานการทำงานกับผู้อื่น แรกๆ ทรงไม่โปรดวิชาคณิตศาสตร์ แต่ต่อมาก็ทรงเรียนได้ดีทุกวิชา อาหารโรงเรียนก็เสวยได้เหมือนเพื่อนๆ ทั่วไป ทรงเล่นกีฬาบ้าง แต่ยังเด็กจะยังไม่เด่นชัดมาก แต่ทรงเล่นกีฬาได้ทุกอย่าง”
“พอทราบข่าวก็ตกใจเหมือนประชาชนทุกคน สิ่งที่เกิดขึ้นกะทันหันมาก ทุกคนก็ภาวนาให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว เราทุกคนมีความเป็นห่วงในอาการประชวรครั้งนี้” ม.ล.ประทิ่นทิพย์กล่าว
นางอรชร ตรีทอง อายุ 58 ปี มาถึงโรงพยาบาลตั้งแต่ 06.00 น. จากเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ด้วยรถประจำทาง กล่าวว่า อยากมาให้กำลังใจพระองค์ ขอให้พระพลานามัยพระองค์แข็งแรง ทรงโบกพระหัตถ์ให้ประชาชนที่มารอรับเสด็จเหมือนเดิม ส่วนภาพที่นำมาเป็นเหตุการณ์วันพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 ตอนนั้นในหลวง พระราชินี และพระองค์เสด็จผ่านข้างหน้า ดิฉันขอให้พระองค์วางพระหัตถ์ลงบนศรีษะ ทรงบอกไม่ได้ อาจด้วยดิฉันเป็นผู้สูงอายุ แต่ดิฉันก็ขอพระหัตถ์มาจับ ทรงยื่นพระหัตถ์มาให้จับ ก่อนที่ดิฉันจะนำมาวางที่ศรีษะของตัวเองเพื่อเป็นสิริมงคล ตั้งแต่นั้นก็มีความรู้สึกว่าต้องตามรับเสด็จพระองค์ไปทุกที่ที่จะตามได้
“ประทับใจพระองค์ทรงเป็นกันเองกับประชาชน เวลาเปล่งเสียงทรงพระเจริญ ทรงพยักพระพักตร์ ยกพระหัตถ์ และกล่าวขอบคุณค่ะ ให้ประชาชนทุกคน หากมาลองเฝ้ารับเสด็จที่วัดพระแก้วจะเห็น อย่างไรก็ตาม ประทับใจพระกรณียกิจของพระองค์ทุกโครงการ เช่น โครงการเพื่อนพึง (ภาฯ) ยามยาก ที่ช่วยเหลือประชาชนที่ตกทุกข์ได้ยาก หากมีโอกาสดิฉันจะไปสนับสนุนผลิตภัณฑ์” นางอรชรกล่าว
ส่วน นางมณีรัตน์ เลาวเลิศ มาจากสมุทรสาคร ถึงกรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม แต่เกรงว่าเจ้าหน้าที่ยังจัดสถานที่ไม่พร้อมและยังไม่สะดวก จึงยังไม่มา แต่วันนี้มาถึงตั้งแต่เวลา 05.00 น. กล่าวว่า อยากมาให้กำลังใจพระองค์ เมื่อวานที่บข่าวว่าทรงพระประชวร ก็ตกใจมาก เพราะพระองค์ทรงช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็ว ผ่านโครงการเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ทรงปิดทองหลังพระ ดิฉันรู้สึกได้ว่าพระองค์ทรงรักประชาชนจริงๆ
“ย้อนไปวันที่ 12 สิงหาคม 2563 พระองค์โดยเสด็จตามในหลวง พระราชินี ออกมาบริเวณหน้าพระบรมมหาราชวัง วันนั้นฝนตกปรอยๆ พระองค์พระดำเนินมาหยุดตรงหน้าดิฉัน ทรงจับพระหัตถ์พระองค์ที (สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร) แล้วบอกว่า “ฝากน้องหนูด้วยนะคะ” เป็นความประทับใจ ทรงไม่ถือพระองค์เลย” นางมณีรัตน์กล่าวด้วยสีหน้าซาบซึ้ง
นางสาวกัณจนา มาลัยทอง อายุ 67 ปี มาจากย่านสุทธิสาร กรุงเทพฯ กล่าวด้วยสีหน้าประทับใจว่า พระองค์ทรงเป็นกันเองมาก มีอยู่ครั้งหนึ่ง เสด็จวัดไตรมิตรฯ เจ้าหน้าที่ไม่ให้ดิฉันและเพื่อนเข้าอาคาร พระองค์เสด็จกราบพระหลวงพ่อทองคำ ดิฉันและเพื่อนๆ เห็นก็รีบเปล่งเสียงทรงพระเจริญ พระองค์หันพระพักตร์มา และทรงโบกพระหัตถ์ให้กับดิฉันและเพื่อนๆ รู้สึกประทับใจมาก นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ครั้นเสด็จงานกฐินพระราชทานวันนั้นแม้ฝนตกหนัก ก็ยังทรงทักทายประชาชน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- แถลงการณ์ สำนักพระราชวัง เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ทรงพระประชวร
- ในหลวง พระราชินี เสด็จฯไปทรงเยี่ยม เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา พสกนิกรทูลเกล้าฯถวายดอกไม้ กำลังใจ
- สภากาชาดไทย เปิดลงนามถวายพระพร เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ตั้งแต่ 16 ธ.ค.
- ในหลวง พระราชินี เสด็จฯ ทรงติดตามพระอาการประชวร ‘พระองค์ภาฯ’ เป็นการส่วนพระองค์
