ลูกเสือ-ยุวกาชาด 200 คน สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวง ร.9 ทรงรื้อฟื้นกิจการลูกเสือ

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 22 ธันวาคม ในการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินเป็นวันที่ 70

นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานบำเพ็ญพระกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จากนั้นถวายภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรม 8 รูป จากวัดราชสิทธารามราชวรวิหาร และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร

ทั้งนี้ นับเป็นวันที่ 16 ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีสำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง(องค์การมหาชน)
กรมชลประทาน กรมประมง สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร องค์การสะพานปลา ร่วมเป็นเจ้าภาพในการบำเพ็ญพระกุศลพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

ทั้งนี้ สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม มีจำนวนทั้งสิ้น 54,339 คน รวม 52 วัน มี 2,081,918 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 5,082,062.75 บาท รวม 52 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 165,088,553 บาท

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเข้ากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง สำนักพระราชวัง เปิดประตูวิเศษไชยศรี ตั้งแต่เวลา 04.45 น. จากปกติเปิดเวลา 08.00 น. เพื่อให้พสกนิกรทุกเพศทุกวัยจากทั่วทุกสารทิศ ที่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพ ซึ่งพสกนิกรต่างเข้าแถวรออย่างเป็นระเบียบ ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว

นายพัสกร โตเสน่ห์ อายุ 43 ปี หัวหน้ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โรงเรียนนครไทย จ.พิษณุโลก นำคณะลูกเสือ ผู้บำเพ็ญประโยชน์ และยุวกาชาด กว่า 200 คน ร่วมกันสวมชุดเครื่องแบบกิจกรรมมากราบสักการะพระบรมศพ เปิดเผยว่า เราต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อลูกเสือ พระองค์ทรงทำให้กิจการลูกเสือได้ถูกรื้อฟื้นให้คืนคงสถานะเดิมขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ทำให้การลูกเสือในประเทศไทยได้เริ่มต้นเคลื่อนไหวเข้มแข็งขึ้นมาใหม่ และเพื่อถวายความเคารพต่อพระองค์ ในปีนี้จึงไม่ได้จัดให้มีการเข้าค่ายลูกเสือ

นายพัสกร กล่าวว่า ในฐานะของลูกเสือ เราได้สูญเสียประมุขไป แต่สิ่งที่พระองค์ทรงทำยังคงอยู่ ที่ผ่านมาพระองค์ทรงสนพระราชหฤทัยในลูกเสือ ทั้งลูกเสือสากลและลูกเสือชาวบ้าน ทรงเข้าพระราชหฤทัยในหลักจิตวิทยาพฤติกรรมมนุษย์และจิตวิทยาสังคมอย่างลึกซึ้ง ทรงเล็งเห็นว่ากิจกรรมลูกเสือนั้นสามารถพัฒนาคนให้เป็นคนดี มีคุณธรรมเพื่อเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติได้ ทรงเป็นองค์ประมุขคณะลูกเสือแห่งชาติที่พวกเราเคารพรัก และเทิดทูน การมาครั้งนี้อยากให้ลูกเสือรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ในตรงนี้ ตระหนักถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อคณะลูกเสือไทย

Advertisement

S__51273793

ด.ญ.ธุมวดี อินจัน หรือ ตวง อายุ 14 ปี นักเรียนผู้บำเพ็ญประโยชน์ ชั้นม.3 โรงเรียนนครไทย จ.พิษณุโลก กล่าวด้วยความตื้นตันใจที่ได้มากราบสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ว่า อ.นครไทย อยู่ค่อนข้างไกลจากกรุงเทพฯ โอกาสที่จะได้เดินทางมามีไม่มากนัก เมื่อทราบจากทางโรงเรียนว่าจะมีการจัดพานักเรียนมากราบสักการะพระบรมศพก็ตั้งตาคอย ได้ออกเดินทางโดยรถบัสจากโรงเรียน ตั้งแต่ 5 โมงเย็น วันที่ 21 ธันวาคม และเดินทางมาถึงยังบริเวณท้องสนามหลวง ราวตี 1-2 วันนี้ ก่อนจะรอต่อแถวและได้เข้ากราบถวายสักการะ ซึ่งความรู้สึกขณะที่ได้กราบสักการะในหลวงรัชกาลที่ 9 ตื้นตันใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

“หนูได้ฟังเรื่องราวของในหลวงรัชกาลที่ 9 จากครอบครัวและครูที่โรงเรียน รวมทั้งยังได้ดูข่าวพระราชกรณียกิจของพระองค์ที่ทรงงานหนักเพื่อประชาชน หนูจึงได้ยึดในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติตน เพราะพระองค์เป็นถึงพระมหากษัตริย์ แต่ทรงปฏิบัติกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง ไม่ได้ถือพระองค์ ทั้งนี้ ยังยึดพระองค์เป็นแบบอย่างด้านดนตรี ซึ่งพระองค์ทรงมีระเบียบวินัยและมีความอดทนในการฝึกซ้อม ปัจจุบันหนูเรียนกีตาร์ เมื่อมีการฝึกซ้อมแล้วเหนื่อยหรือท้อ พ่อแม่ก็ให้กำลังใจโดยให้นึกถึงพระองค์ที่ทรงเหนื่อยมากกว่าพวกเรามาก ทำให้มีกำลังใจกลับมา นอกจากกีตาร์แล้ว ยังอยากที่จะฝึกเป่าแซกโซโฟนเหมือนอย่างพระองค์ โดยเพลงพระราชนิพนธ์ฝึกร้องเป็นเพลงแรก คือเพลงใกล้รุ้ง และเพลงพระราชนิพนธ์ที่ชอบเป็นพิเศษ คือเพลงชะตาชีวิต” ด.ญ.ธุมวดี เล่า

S__51273795
ธุมวดี อินจัน

ด.ญ.ธุมวดี กล่าวอีกว่า แม้ว่าจะมีความชื่นชอบด้านดนตรี แต่เมื่อโตขึ้นอยากจะเป็นแพทย์ทหาร เพราะเห็นจากการทรงงานของพระองค์ที่เมื่อเสด็จฯ ไปเยี่ยมเยือนประชาชนในพื้นที่ทุรกันดารทั่วประเทศ จะมีแพทย์ตามเสด็จไปด้วย ซึ่งตนเองอยากจะปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ

นายก่อเกียรติ พานพรม อายุ 15 ปี และนายสุวัชชัย วัฒนวิทย์ อายุ 15 ปี ลูกเสือที่เดินทางมาวันนี้ เปิดเผยว่า ตนรู้สึกปลาบปลื้มที่ได้มีโอกาสเข้าสักการะพระบรมศพ และภูมิใจที่ได้สวมชุดลูกเสือที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็นองค์ประธาน และตนก็เคยเห็นพระองค์ทรงเครื่องแบบลูกเสือ รู้สึกถึงความสง่างาม ตนมีความประทับใจในหลวง ร.9 ในทุกเรื่อง ทรงช่วยเหลือให้ประชาชนสามารถเลี้ยงตัวเองได้ โดยอนาคตอยากทำงานด้านการพัฒนาคนให้เป็นคนดีต่อไปด้วย

S__51273798
ก่อเกียรติ พานพรม-สุวัชชัย วัฒนวิทย์

ขณะที่ นางอัมพร ศรีเสน่ห์ อายุ 70 ปี ในชุดแต่งกายนักเรียนชั้นม.ต้น สมาชิกโรงเรียนผู้สูงอายุ อ.สนม จ.สุรินทร์ ที่รับเฉพาะวัยเกษียณอายุ 60 ปีขึ้นไป เพื่อทำกิจกรรมสันทนาการสำหรับผู้สูงวัย อย่างการพบปะสังสรรค์และออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ กล่าวว่า ได้เดินทางพร้อมเพื่อนๆ รวม 150 คน โดยรถบัสจากจังหวัดสุรินทร์เมื่อเวลา 20.00 น. ถึงบริเวณท้องสนามหลวงในเวลา 03.00 น. ทุกคนมาด้วยความรักที่มีต่อในหลวง รัชกาลที่ 9 โดยก่อนหน้านี้ทางโรงเรียนได้ร่วมกันทำกิจกรรมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ อาทิ การแปรอักษรเป็นรูปเลขเก้าไทย และจุดเทียนถวายความอาลัย จำได้ว่าตอนเด็กๆ เคยมีโอกาสรับเสด็จฯ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่วัดบ้านธาตุ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ มีความสุขมาก รู้สึกว่าตัวเองเกิดมามีบุญที่ได้เห็นในหลวงครั้งหนึ่งในชีวิต

อัมพร ศรีเสน่ห์ (ซ้ายสุด)
อัมพร ศรีเสน่ห์ (ซ้าย)

นายพิสิญจ์ สุวรรณชัย อายุ 59 ปี ตัวแทนกลุ่มศรัทธาประชาชน ได้มีการจัดพิมพ์ภาพพระพุทธเจ้ากว่า 1 แสนรูป โดยจะทยอยแจกจ่ายแก่พสกนิกรที่ได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพ บริเวณประตูเทวาภิรมย์ ในช่วงเช้าของแต่ละวันต่อเนื่องจนกว่าจะหมด กล่าวว่า การจัดพิมพ์ภาพพระพุทธเจ้าครั้งนี้จะแจกจ่ายเพื่อให้ประชาชนนำไปบูชาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งพระองค์ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ทุกศาสนา กลุ่มศรัทธาประชาชน จึงอยากจะทำความดีเพื่อตอบแทนพระองค์

พิสิญจ์ ริมซ้ายของรูป
พิสิญจ์ สุวรรณชัย (ซ้าย)

ด้าน น.ส.ไพริน ดุมพรหม ชาวเขาเผ่ากระเหรี่ยงอายุ 41 ปี อาศัยอยู่ ต.สองพี่น้อง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ประกอบอาชีพชาวไร่ปลูกกล้วยและมะนาวเลี้ยงชีพ เดินทางมาพร้อมชาวบ้านในละแวกเดียวกัน โดยเหมารถบัสโดยสารมา 5 คัน จำนวน 200 คน ตั้งแต่เวลาตีหนึ่งมาถึงสนามหลวงเวลาตีสี่ของวันนี้ กล่าวด้วยความซาบซึ้งใจที่ได้มาถวายสักการะเป็นครั้งแรกว่า ตลอดชีวิตไม่เคยมาเหยียบกรุงเทพฯ เลย เมื่อทราบข่าวว่าคนละแวกบ้านนัดหมายจะมาวันนี้ ก็ดีใจมากรีบไปแจ้งความจำนงค์เดินทางมาด้วย

“แม่ดิฉันมีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อหลายสิบปีก่อนที่แก่งกระจาน แม่ยังได้รับพระราชทานสร้อยคอลูกปัดสีส้มจากพระหัตถ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นับแต่นั้นครอบครัวเราก็เก็บรักษาเป็นอย่างดี และในวันนี้ได้ติดตัวมาด้วย ในหลวงรัชกาลที่ 9 มีพระมหากรุณาธิคุณต่อพวกเรามาก ทรงสร้างโรงเรียนบ้านสองพี่น้อง (สายปัญญาสมาคมในพระบรมราชินูปถัมภ์) ให้พวกเราได้มีสถานศึกษา มีความรู้ติดตัว จึงตั้งใจสวมชุดประจำเผ่ามาเพื่อถวายความอาลัยอย่างสูงสุด” น.ส.ไพรินกล่าว

S__51273809
ไพริน ดุมพรหม (ขวา)
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image