นร.หญิงตั้งมั่นน้อมนำคำสอน ‘ในหลวง ร.9’ มาใช้ อยู่อย่างพอเพียง-มีจิตอาสา ขอบคุณที่ทรงดูแลคนไทยตลอดมา

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 7 มกราคม บรรยากาศการเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ประชาชนยังทยอยเดินทางมาต่อแถว บางส่วนที่ได้เข้ากราบถวายสักการะแล้ว ได้เล่าถึงความซาบซึ้งพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อคนไทย เริ่มดังนี้

เด็กหญิงณภัทรกมล ช่างต่อ อายุ 11 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพวงคราม ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กล่าวว่า เดินทางมากับแม่ซึ่งเป็นครูพร้อมเพื่อนๆแม่รวม 11 คน และพอรู้ว่าแม่จะพามากราบสักการะพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ตนจึงเริ่มวาดภาพในหลวง ร.9 เพื่อบรรยายถึงความรู้สึกที่มีต่อพระองค์ และโครงการในพระราชดำริที่พระองค์ทรงจัดทำขึ้นเพื่อช่วยเหลือประชาชน

“ในภาพบรรยายถึงความรู้สึกที่อยากขอบพระคุณในหลวงฯที่อยู่เคียงข้างและคอยช่วยเหลือประชาชน ความรักที่มีต่อพระองค์รักโดยไม่มีข้อแม้ รักที่พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถ ที่ทรงมีโครงการต่างๆมาช่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชน และขอขอบพระคุณที่พระองค์รักและห่วงใยประชาชนตลอดมา หนูอยากรับเสด็จฯในหลวง ร.9 แต่ไม่มีโอกาสเพราะพ่อแม่งานยุ่งไม่มีเวลาพามารับเสด็จฯ รู้สึกเสียดาย และเสียใจมากร้องไห้ที่พระองค์สวรรคต ทั้งนี้ หนูจะนำคำสอนเรื่องความพอเพียงมาปฏิบัติ ที่บ้านแม่ก็ปลูกผักกินเอง จะอดออม ทำความดี มีจิตอา ก็ร่วมกิจกรรมเพื่อสังคม อาทิ เก็บขยะรอบโรงเรียน หนูก็จะขยันเรียนเพื่อเป็นสถาปนิก ถ้ามีรายได้ส่วนหนึ่งก็จะแบ่งให้พ่อแม่ ส่วนหนึ่งก็เพื่อตนเอง และอีกส่วนหนึ่งก็นำไปช่วยเหลือคนยากจน” ด.ญ.ณภัทรกมล กล่าว

นางสุกัญญา คล้ายแก้ว อายุ 65 ปี ชาวเขตจอมทอง กรุงเทพฯ อดีตพนักงานการไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า รู้สึกรักในทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ปูพื้นฐานให้กับประเทศและคนไทย ก็อยากให้คนไทยเจริญรอยตามพระองค์ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ทุกบ้าน ทั้งเรื่องความซื่อสัตย์ ขยันอดทน โดยเฉพาะในเรื่องการใช้จ่ายอย่างประหยัด ส่วนตัวก็ยึดมั่นในคำสอนของพระองค์อยู่แล้ใ ตั้งแต่เรื่องความซื่อสัตย์ ซึ่งดิฉันทำงานเกี่ยวกับบัญชีเงินเดือนพนักงานการไฟฟ้าฯไม่เคยทุจริต ตรงไปตรงมา ส่วนการใช้จ่ายของตนเองก็รู้จักประหยัดใช้ของให้คุ้มค่า เช่น รองเท้าพังนิดหน่อยก็เอาไปซ่อมใช้ต่อได้

Advertisement

“ในหลวง ร.9 ทรงมีโครงการในพระราชดำริช่วยเหลือประชาชนเยอะมาก ซึ่งในย่านดาวคะนองก่อนนี้น้ำจะท่วมประจำ แต่หลังจากที่มีโครงการประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ก็ช่วยให้น้ำไม่ท่วม รวมถึงการสร้างสะพานภูมิพล ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ก็ทำให้แก้ปัญหารถติดในย่านนั้นได้มาก และโครงการกังหันน้ำชัยพัฒนาช่วยบำบัดน้ำเน่าเสียในแหล่งน้ำให้กลับมาใช้ได้ และโครงการหลวงต่างๆที่ช่วยให้ชาวเขาเลิกปลูกฝิ่นหันมาปลูกผักผลไม้แทน ซึ่งวันนี้เราไม่มีในหลวง ร.9 แล้ว ก็อยากให้คนไทยสามัคคีกัน ช่วยเหลือกันแบบนี้ มีน้ำใจให้อภัยกัน เพราะพระองค์ท่านก็คงอยากเห็น ไม่เช่นนั้นประเทศก็เดินต่อไปไม่ได้” นางสุกัญญากล่าว

ขณะที่ นางทัน ช่อมะลิ อายุ 77 ปี อาชีพเกษตรกร จาก จ.สุรินทร์ เดินทางมาพร้อมลูกสาวและญาติ เปิดเผยหลังกราบสักการะพระบรมศพว่า ตื้นตันใจมากที่ได้มากราบสักการะใกล้ๆ เราคนไทยก็ต้องมาให้ได้ ขนาดคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ หรือคนต่างชาติที่เคารพรักพระองค์ท่านก็ยังมาเลย เพราะสิ่งที่พระองค์ทรงทำในการช่วยเหลือคนมาตลอดได้แซ่ซองไปไกลทั่วโลก ส่วนตัวได้น้อมนำปรัชญาที่ในหลวง ร.9 ทรงชี้แนะให้กับคนไทยมาใช้ โดยปลูกข้าว ปลูกผักและผลไม้ต่างๆ ไว้กินไว้ใช้ในครัวเรือน โดยข้าวเปลือกพระราชทานที่ได้รับจะนำไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อไป

 

Advertisement
ด.ญ.ณภัทรกมล ช่างต่อ
ด.ญ.ณภัทรกมล ช่างต่อ
ทัน ช่อมะลิ
ทัน ช่อมะลิ
สุกัญญา คล้ายแก้ว
สุกัญญา คล้ายแก้ว (กลาง)
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image