เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศด้านในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่ช่วงเช้ามีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาจับจองพื้นที่ริมทางเสด็จพระราชดำเนินของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในการพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยส่วนมากมารอตั้งแต่เวลา 08.30 น. หลังเจ้าหน้าที่เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของสำนักพระราชวังต่างอำนวยความสะดวกด้วยการจัดเตรียมเสื่อเพื่อปูให้ประชาชนได้สำรองที่นั่งและรับเสด็จอย่างเป็นระเบียบ
นางจิตตินันท์ อินทรวิเชียร อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.ท่างิ้ว อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ กล่าวว่า ตนและเพื่อนบ้านกว่า 10 คน เดินทางออกจากบ้านมาตั้งแต่ 05.00 น. และเดินทางมาถึงท้องสนามหลวงเวลา 08.00 น. โดยทุกคนที่เดินทางมาในวันนี้มีความตั้งใจเพื่อมาร่วมรับเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
“ตนไม่เพียงมารับเสด็จเท่านั้น แต่ตนและเพื่อนบ้านอยากมาร่วมฟังเสียงย่ำระฆังที่เขาว่ากันว่าเป็นเสียงระฆังที่ไพเราะเสนาะหูมากที่สุด แม้ในวันนี้อากาศค่อนข้างร้อน แต่ทุกคนก็ไม่ย่อท้อ ต่างวางสิ่งของที่มีอยู่ เช่น แผนที่ กระเป๋า ร่มพับ เพื่อรอชื่นชมพระบารมีของทั้งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ ซึ่งตนคิดว่าอาจเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของตนและพร้อมนำเอาประสบการณ์เหล่านี้กลับไปบอกต่อลูกหลาน” นางจิตตินันท์กล่าว
ด้านนางธิระดา สุขสุทิตย์ อายุ 77 ปี จาก อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เดินทางมาพร้อมลูกสาว นางมธุรส นาคเสน แม่บ้านวัย 57 ปี จาก จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ตนได้นั่งแท็กซี่จากบ้านมาตั้งแต่ 08.00 น. มาจับจองพื้นที่ตั้งแต่ 09.00 น. ตอนนั้นเริ่มเห็นคนเดินทางมารอจับจองพื้นที่บ้างแล้ว โดยที่ตนเองตั้งใจมารอรับเสด็จทั้งวัน ไม่ว่าจะดึกแค่ไหนก็พร้อมรอ ทั้งนี้ ได้เตรียมน้ำและเสบียงอาหารมื้อกลางวันมาด้วย
“ตนเคยรับเสด็จในหลวง รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระสังฆราชองค์ก่อนมาหลายครั้งแล้ว ส่วนครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จะได้รับเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 พร้อมกันเป็นครั้งแรก ซึ่งอยากให้ลูกสาวได้เดินมารับเสด็จด้วย” นางธิระดากล่าว
ด้านนางมธุรสกล่าวว่า รู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมากที่ได้มากับแม่เพื่อรับเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระสังฆราช เนื่องจากตัวเองยังไม่เคยมีประสบการณ์รับเสด็จมาก่อน เพราะตัวเองทำงานอยู่ต่างจังหวัด นานๆ จะลงมากรุงเทพฯ สักครั้ง วันนี้ถือเป็นจังหวะดีของชีวิตที่ได้อยู่กรุงเทพฯในวันสำคัญ เลยไม่ลังเลที่จะตามคุณแม่มานั่งรอรับเสด็จ
