พสกนิกรหลั่งไหลสักการะพระบรมศพด้วยความมุ่งมั่นแม้ฝนตกหนัก

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่พระบรมมหาราชวัง ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายหลังสำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน จนถึงเวลา 24.00 น.ของวันที่ 5 ตุลาคม

โดยวันนี้ สำนักพระราชวังเปิดให้เข้าสักการะพระบรมศพเป็นวันที่ 335 มีพสกนิกรทั่วสารทิศเดินทางมากราบพระบรมศพอย่างล้นหลาม และสามารถต่อแถวเข้ากราบได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยไม่ต้องหยุดรอให้เสร็จสิ้นการสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ เนื่องจากสำนักพระราชวังได้ปิดให้หน่วยงานร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลตั้งแต่วันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา แม้มีฝนตกลงมาตลอดทั้งวัน ทว่าประชาชนผู้จงรักภักดียังมุ่งมั่นเดินทางมาต่อแถวรอคิวสักการะพระบรมศพจนแถวยาวจากสนามหลวงออกไปหลายกิโลเมตร โดยมีเจ้าหน้าที่และจิตอาสา นำร่ม อาหาร และเครื่องดื่มมาแจกจ่ายภายในแถวประชาชน

Advertisement

ทั้งนี้ สำนักพระราชวังสรุปยอดประชาชนที่เดินทางมากราบพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 2 ตุลาตม ตั้งแต่เวลา 00.01-24.00 น. ว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 78,948 คน รวม 334 วัน มี 12,443,890 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 5,465,677.50 บาท รวม 334 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 870,377,871.51 บาท

น.ส.อลิสา ศิริวิบูลย์ อาชีพลูกจ้างบริษัท อายุ 62 ปี ออกเดินทางมาจากบ้านพักย่านดินแดง กรุงเทพฯ กล่าวว่า ตนได้เดินทางมาตั้งแต่ 06.00 น. เพื่อต่อแถวรอคิว ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ใช้ระยะเวลายาวนานในการต่อแถวกราบพระบรมศพ เนื่องจากมีประชาชนเดินทางมาสนามหลวงจำนวนมาก ทั้งนี้ ตนได้เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพเป็นครั้งที่ 8 แล้ว เพราะอยากอยู่ใกล้ชิดพระองค์ในห้วงสุดท้าย ตนรู้สึกปลื้มใจทุกครั้งที่ได้ก้มกราบหน้าพระบรมโกศอันงดงาม

น.ส.อลิสา ศิริวิบูลย์

ด้าน นางนวลอนงค์ ผกาแก้ว อายุ 52 ปี จาก จ.ชลบุรี เดินทางมาพร้อมครอบครัวและญาติพี่น้องกว่า 10 คน ด้วยรถตู้ ตั้งแต่ค่ำคืนที่ผ่านมา ก่อนจะมาถึงสนามหลวงในเวลา 02.00 น. และเข้ากราบในเวลา 09.00 น. เปิดเผยว่า มากราบสักการะพระบรมศพเป็นครั้งที่ 3 ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยพาลูกชายวัย 12 ปี มาด้วยทุกครั้ง แม้ว่าจะเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่เกิดไม่ทันในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ ไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อช่วยเหลือราษฏรชาวไทย แต่ก็บอกลูกเสมอในสิ่งที่พระองค์ทำ อยากให้ลูกได้รับรู้ว่าเราโชคดีขนาดไหนที่ได้เกิดมาใต้ร่มโพธิ์ของพระองค์ และภูมิใจที่ได้เกิดในรัชกาลที่ 9

นางนวลอนงค์ ผกาแก้ว พร้อมครอบครัว

“เมื่อขึ้นกราบสักการะพระบรมศพบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ตื้นตันใจมาก ไม่คิดว่าชาตินี้จะมีโอกาสได้กราบใกล้ชิดขนาดนี้ ยิ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ขยายวันให้ประชาชนได้เข้ากราบถึงวันที่ 5 ตุลาคม ก็ยิ่งดีใจ เพราะยังมีคนอีกมากที่อยากเข้ามากราบพระองค์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นพระราชาที่ทำเพื่อปวงชนชาวไทยมาตลอดพระชนม์ชีพ ทรงทำให้เราดูเป็นแบบอย่างให้เห็น อยากให้คนไทยน้อมนำไปใช้ในชีวิต ส่วนตัวประทับใจในเรื่องของความพอเพียงที่ได้น้อมนำมาดำเนินรอยตาม หากเรามีแค่ไหนก็ใช้แค่นั้น ไม่ทะเยอทะยาน แต่มีความพยายาม” นางนวลอนงค์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image