เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่ห้องสุรศักดิ์มนตรี อาคารโฆษก กระทรวงกลาโหมชั้น 2 กองอำนวยการร่วมพระราชพิธี (กอร.พระราชพิธี) ถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร แถลงข่าวเรื่องการควบคุมอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
โดย พล.อ.ท.มานัต วงษ์วาทย์ รองเสนาธิการทหารอากาศ กล่าวว่า การบันทึกภาพประวัติศาสตร์เป็นเรื่องสำคัญ แต่การดูแลความปลอดภัยแขกคนสำคัญที่จะมาร่วมงานพระราชพิธีก็สำคัญเช่นกัน เราจึงให้ความสำคัญกับการลงทะเบียนและการขออนุญาต โดรนที่จะบินเพื่อบันทึกภาพในวันที่ 26 ตุลาคมได้ จึงต้องลงทะเบียนกับสำนักการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือลงทะเบียนวิทยุคมนาคมกับสำนักงาน กสทช.เรียบร้อยแล้ว ก่อนจะนำเอกสารที่ได้รับอนุญาตมาให้ กอร.พระราชพิธีพิจารณาวัตถุประสงค์และความเหมาะสมอีกครั้งว่าจะอนุญาตหรือไม่ ถ้าอนุญาตแล้วจะบินได้ในพื้นที่ใด ห้วงเวลาใด ความสูงเท่าใด ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด และทุกพื้นที่ที่จัดพระราชพิธีจะมีเจ้าหน้าที่ควบคุมการบินโดรนทั้งหมด ฉะนั้นหากประชาชนพบเห็นการบินโดรนที่ไม่ชอบมาพากล สามารถโทรแจ้งสายด่วน 1441 โดยอย่างพื้นที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงห้ามโดรนที่ไม่ได้รับอนุญาตขึ้นบินในรัศมี 19 กิโลเมตร หากฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่มีอำนาจทำลายทิ้ง และผู้ฝ่าฝืนต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า กสทช.ได้ประสาน กพท.พบว่าขณะนี้มีโดรนขึ้นทะเบียนอยู่เพียง 350 ลำ เรากังวลเรื่องนี้จึงได้อำนวยความสะดวกให้ผู้มีโดรนมาลงทะเบียนที่สำนักงาน กททช.ใน 21 สาขา โดยพบว่าตั้งแต่เวลา 08.30-11.00 น. วันนี้มีผู้มีลงทะเบียนแล้ว 60 ราย ขณะดียวกันได้ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อขอให้อำนวยความสะดวกรับลงทะเบียนในส่วนต่างจังหวัด โดยขณะนี้ได้ส่งมอบแบบฟอร์มการขึ้นทะเบียนเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม กสทช.ได้ประชุมร่วมกับ กพท.โดยมีมติ ดังนี้ ข้อมูลที่มาลงทะเบียนกับ กสทช.แล้ว จะส่งให้ กพท. เช่นเดียวกันการมาลงทะเบียนกับ กพท.ก็จะส่งข้อมูลให้ กสทช.เพื่ออำนวยความสะดวกในการขออนุญาตถ่ายงานพระบรมศพในช่วงนี้ไปก่อน แต่ในระยะยาวผู้ใช้โดรนต้องไปขออนุญาตกับ กพท.เพื่อรับใบอนุญาตบังคับโดรนต่อไป
