พสกนิกรยังคงมาถวายดอกไม้-พวงมาลัยอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ที่ถนนหน้าพระลาน หน้าพระบรมมหาราชวัง สนามหลวง ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาต ให้สำนักพระราชวังจัดทำซุ้มประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บริเวณริมกำแพงพระบรมมหาราชวัง ระหว่างประตูวิเศษไชยศรี และประตูมณีนพรัตน์ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ หลังจากเปิดให้ประชาชนได้เข้ากราบสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ภายหลังการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศพระบรมศพบนพื้นที่จริง ครั้งที่ 2 โดยตลอดทั้งช่วงเช้าประชาชนต่างนำพวงมาลัยดอกดาวเรือง รวมถึงดอกไม้อื่นๆ มากราบถวายอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และนักเรียนเนื่องจากเป็นช่วงเวลาปิดเทอม

นางวรานุช แซ่ตั้ง อายุ 74 ปี และลูกสาว นางสาววิรัลพัชร โชติระวีธนาศิริ อายุ 49 ปี กล่าวร่วมกันว่า เดินทางจากบ้านย่านบางบอน มาวางดอกไม้สักการะพระบรมศพ หลังจากทราบข่าวทางสื่อต่างๆ เพราะคาดว่าในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ คงจะมีประชาชนจำนวนมากอาจจะเข้าไม่ถึงการชมริ้วขบวนฯ อยากมาทำหน้าที่ครั้งสุดท้ายของคนไทยในรัชกาลที่ 9 ก่อนหน้านี้ก็ได้มีโอกาสมากราบสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทแล้ว จำได้ว่าเดินทางมาถึงเวลาตี 4 และได้ขึ้นกราบตอนบ่ายสามโมง เนื่องจากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมาก็ได้ใส่บาตรแต่เช้าถวายเป็นพระราชกุศล

ด้าน นางสุรภา ภิรมย์กิจ อายุ 60 ปี อดีตข้าราชการกรมประชาสงเคราะห์ กล่าวว่า เดินทางมาจากย่านเจริญนคร กรุงเทพฯ ตั้งใจมากราบพระองค์เป็นครั้งสุดท้าย โดยก่อนหน้านี้มีโอกาสมารับเสด็จตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม วันที่เคลื่อนพระบรมศพ หน้าศาลหลักเมือง และได้ขึ้นกราบพระบรมศพบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ช่วงวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมาก็ได้ไปตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล ในวันนี้แม้จะผ่านมานับปีแล้ว ก็ยังคิดถึงพระองค์สุดหัวใจ ยังรักและซาบซึ้งในสิ่งที่พระองค์ทรงทำเพื่อคนไทย แม้ว่าวันนี้พระองค์สวรรคตแล้ว แต่ก็ยังเหลือมรดกถึง 4,700 โครงการให้กับเราคนไทยได้สานต่อ มรดกอันเกิดจากความรักของพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำ ดิน หรือความรักและสามัคคี

Advertisement

“สิ่งที่พวกเราทำได้คือน้อมนำคำสอนเรื่องความสามัคคี ซื่อสัตย์ ทำตนให้เป็นประโยชน์แก่สังคม ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ รัก สามัคคีและให้อภัยกัน อันจะเป็นสิ่งที่สามารถทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลได้” นางสุรภา กล่าว

นางสาวแสงเดือน พรมสอน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลธนบุรี 1 วัย 44 ปี เผยว่า ก่อนหน้านี้มากราบพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 แล้วสองครั้ง เมื่อได้ทราบข่าวว่าสำนักพระราชวังจัดตั้งซุ้มให้ประชาชนกราบสักการะอีกครั้งจึงใช้วันหยุดของตัวเองเดินทางในวันนี้เพื่อเป็นการกราบทูลลาพระองค์เป็นครั้งสุดท้าย ยิ่งใกล้วันพระราชพิธียิ่งใจหาย

 

Advertisement

วรานุช-วิรัลพัชร
สุรภา
แสงเดือน
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image