| ที่มา | มติชนรายวัน หน้า 18 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
นับเป็น “บ้านแห่งความหวัง” ให้กับเด็กๆ ในชุมชนแออัด ภายใต้การดูแลของ “มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์” ที่ดำเนินงานในการพัฒนาคุณภาพของเด็กอ่อนยากไร้ในชุมชนแออัด และสร้างความเข้มแข็งให้กับครอบครัวที่ดูแลเด็กให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีมาอย่างยาวนาน โดยในปีนี้ดำเนินงานมาเป็นปีที่ 36 แล้ว
การนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯไปทรงเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารบ้านแห่งความหวัง และทอดพระเนตรนิทรรศการครบรอบ 36 ปี มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ ณ อาคารบ้านแห่งความหวัง มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ ซอยอ่อนนุช 88 แยก 10 เขตประเวศ กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ ระหว่างทอดพระเนตรนิทรรศการ มีพระราชดำรัสแสดงความห่วงใยต่อเด็กๆ ของมูลนิธิ ว่า “ปัญหาเรื่องเด็กอ่อนในสลัม และเรื่องคุณภาพชีวิตเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องและดำเนินการแก้ไขอยู่ตลอด เพราะในปัจจุบันจำนวนของเด็กๆ นั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทางมูลนิธิต้องให้ความสำคัญและดูแลให้ดี”
รองศาสตราจารย์ คุณหญิงวงจันทร์ พินัยนิติศาสตร์ ประธานกรรมการมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ เล่าถึงความเป็นมาของมูลนิธิ ว่า ในปี พ.ศ.2528 พญ.แอนมารี วานเดน บอสเซ่ ตรงเที่ยง จากประเทศเบลเยียม ดำเนินโครงการสาธารณสุขมูลฐานแม่และเด็กที่ชุมชนกองขยะอ่อนนุช และชุมชนกองขยะหนองแขม โดยเปิดบ้านรับเลี้ยงเด็กในบริเวณชุมชนทั้ง 2 แห่ง ต่อมาสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์ ซึ่งในขณะนี้มีบ้านรับเลี้ยงเด็กของมูลนิธิทั้งหมด 4 แห่ง ประกอบด้วย บ้านสมวัย บ้านเด็กอ่อนเสือใหญ่ บ้านศรีนครินทร์ และบ้านแห่งความหวัง
โดยบ้านรับเลี้ยงเด็กชุมชนกองขยะอ่อนนุชเรียกกันว่า “บ้านแห่งความหวัง” มีที่ตั้งอยู่บนอาคารสำนักรักษาความสะอาด กรุงเทพฯ ซึ่งในเวลาต่อมาคณะผู้บริหารบางกอกไฟลท์ เซอร์วิสเซส ได้เยี่ยมชมบ้านแห่งความหวัง และเห็นว่ามีเด็กเป็นจำนวนมากต้องอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ค่อยดี อีกทั้งยังมีกลิ่นเหม็นจากขยะ จึงจัดกิจกรรมระดมทุนจัดซื้อที่ดินใกล้เคียง เพื่อสร้างอาคารบ้านแห่งความหวังแห่งใหม่ ณ ซอยอ่อนนุช 88 แยก 10 โดยจัดสร้างเป็นอาคาร 3 ชั้น มีห้องสมุดแยกออกมาในลักษณะบ้านเรือนไทย เริ่มดำเนินการตั้งแต่ 20 มกราคม 2560 โดยรับดูแลเด็กวัย 3 เดือนถึง 5 ปี จากครอบครัวยากจนจำนวน 100 คนต่อวัน เน้นการพัฒนาเด็กควบคู่กับการพัฒนาครอบครัว อีกทั้งได้เป็นสถานที่ศึกษาดูงานของนักเรียน นักศึกษา และเป็นศูนย์ฝึกอบรมพ่อแม่ ครู ผู้ดูแลเด็กและผู้ปฏิบัติงาน เพื่อขยายโอกาสการพัฒนาเด็กเล็กในวงกว้างขึ้น
“มูลนิธิตั้งชื่อบ้านรับเลี้ยงเด็กชุมชนกองขยะอ่อนนุชว่า บ้านแห่งความหวัง เพราะต้องการให้เป็นแสงสว่าง เป็นความหวังแก่เด็กๆ ในชุมชนแออัด และครอบครัวที่มีความลำบากในการดูแลเด็ก โดยรับเลี้ยงเด็กในลักษณะ Day care คือผู้ปกครองพาบุตรหลานมาส่งในตอนเช้าและตอนเย็นมารับกลับ โดยพบว่าผู้ปกครองส่วนมากมักจะเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว แม่เลี้ยงเดี่ยว ไปจนถึงผู้สูงอายุที่ดูแลบุตรหลานเพียงลำพัง”
“ฉะนั้นทางมูลนิธิจึงไม่มีค่าธรรมเนียมในการนำเด็กมาฝากเลี้ยง ไม่มีก็ไม่ต้องจ่าย มีเท่าไหร่จะสมทบทุนเท่าที่มีก็ได้” ประธานกรรมการมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯกล่าว
