09.00 INDEX แนวทาง ของ บุรีรัมย์ อุทัยธานี แนวทาง ปิดเมือง มาตรการเข้ม
ไม่ว่าจะชอบ ไม่ว่าจะไม่ชอบ ไม่ว่าจะสุกงอม เปี่ยมด้วยความพร้อม ไม่ว่าจะหงุดหงิด หดหู่ ไม่พอใจ แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไว รัส โควิด-19 ก็แสดงทิศทางอันแน่ชัด
ไม่อยากปิด อยากจะเปิดประเทศอย่างอ้าซ่าเพียงใด ก็ไม่อาจจะทำได้ตามใจปรารถนา
รูปธรรมเด่นชัดเป็นอย่างยิ่งก็คือ “ชายแดน”
เด่นชัดว่า มาเลเซียประกาศปิดชายแดนกับไทยทั้งทางบกและทางน้ำไปเรียบร้อยแล้ว แนวโน้มที่จะตามมาคือ การประกาศปิดชาย แดนจากลาว กัมพูชาและเมียนมาร์
ทั้งนี้ แทบไม่ต้องกล่าวถึง สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป อิสราเอล ออสเตรเลีย
ความเป็นจริงต่างหากที่จะนำไปสู่ภาวะจำต้อง “ปิดประเทศ”
ถามว่าการเคลื่อนไหวจากพรรคการเมืองขนาดเล็ก 3 พรรคเสนอให้นำพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาประกาศและบังคับใช้คืออะไร
ตอบได้เลยว่า คือการขานรับและประสานเข้ากับการปล่อยคำขวัญที่ว่า
“อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”
นี่คือทิศทางอย่างเดียวกับที่จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดอุทัยธานี ได้นำร่องด้วยมาตรการเข้ม “ปิดจังหวัด” ไปแล้ว
นี่คือทิศทางเดียวกันกับอู่ฮั่น ทิศทางเดียวกันกับมิลาน
น่าสังเกตว่าทิศทางนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เคยเสนอมาแล้วแต่มิได้รับการขานรับจากรัฐบาล จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยความสุกงอมอย่างแท้จริง
บุรีรัมย์ อุทัยธานี เพียงแต่ถือ “ธง” นำหน้าไปก่อนเท่านั้นเอง
คำถามที่จะตามมาหากรัฐบาลจะนำเอาพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินมาใช้ ก็คือ ได้มีการตระเตรียมรองรับเอาไว้อย่างรอบคอบรัดกุมเพียงใด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาตรการที่จะช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนที่จะได้รับผลกระทบจากพระราชกำหนด
การเรียกร้องให้ “เสียสละ” อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ
เพราะว่าการเสียสละนั้นจะต้องดำรงอยู่อย่างมีหลักประกันจากอำนาจรัฐตามสิทธิ์ที่พลเมืองพึงจะได้ด้วย
“โจทย์” นี้ต่างหากคือสิ่งสำคัญต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา