ด่วน! กทม.สั่งปิด ‘ร้านค้า-ศูนย์มือถือ-สะดวกซื้อ’ เที่ยงคืน-ตี 5 เริ่มคืนนี้เป็นต้นไป

กทม.สั่งปิด ‘ร้านค้า-ศูนย์มือถือ-สะดวกซื้อ’ เที่ยงคืน-ตี 5 เริ่มคืนนี้เป็นต้นไป

กทม.-เมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ศาลาว่าการ กทม. 2 (ดินแดง) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร เพื่อพิจารณาถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่าได้เชิญคณะกรรมการทั้ง 26 คน มาหารือในรายละเอียด โดยที่ประชุมไม่เห็นด้วยในการอนุญาตให้เปิดร้าน หรือศูนย์ให้บริการโทรศัพท์มือถือในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร เนื่องจากมองว่าจะกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อ ดังนั้น จึงมีมติไม่ให้เปิดศูนย์บริการและร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ ยังมีมติให้ร้านค้าทุกร้าน ปิดทำการตั้งแต่เวลา 24.00-05.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยจะมีผลบังคับตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป

“ส่วนเรื่องจะมีการออกประกาศเพิ่มเติมในข้อกำหนดต่างๆ อย่างไรนั้น จะต้องรอการแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) (ศบค.) ในเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล” พล.ต.อ.อัศวินกล่าว

นอกจากนี้ พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า ยืนยันว่า กทม.จะไม่ประกาศเคอร์ฟิว เพราะการประกาศเคอร์ฟิวไม่ใช่อำนาจของ กทม. แต่เป็นอำนาจของ ศบค. ที่จะดำเนินการ ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งในตามต่างจังหวัดที่ประกาศออกมานั้น ไม่ได้เป็นการเคอร์ฟิว แต่เป็นการขอความร่วมมือให้ประชาชนไม่ออกจากบ้านหรือออกจากบ้านน้อยที่สุด

“นอกจากนี้ ได้รับการประสานจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) ในการตั้งด่านตรวจคัดกรองทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ แต่จะเพิ่มอีกกี่จุดนั้น บชน.จะเป็นให้รายละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม กทม. ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวอย่างเคร่งครัด ลดการเดินทางไปยังสถานที่ที่มีการรวมตัวของประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโอกาสเป็นกลุ่มเสี่ยง ขอให้อยู่ที่บ้าน ส่วนกลุ่มที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่มที่อยู่ในวัยทำงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีเชื้อแล้วแสดงอาการน้อยมาก หรือไม่แสดงอาการเลย ซึ่งนโยบายที่จะลดการทำงาน ให้ทำงานที่บ้าน หรือให้หยุดงาน อาจจะต้องเข้มข้นขึ้น เพื่อลดโอกาสที่กลุ่มคนดังกล่าวจะแพร่กระจายเชื้อโรคต่อ และหากมีความจำเป็นหรือสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น การเคลื่อนย้ายคน หรือการเคลื่อนย้ายในรูปแบบต่างๆ อาจจะต้องเข้มงวดมากขึ้นด้วยเช่นกัน” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image