ผอ.บริหารสาธารณสุข ยัน ยาฟาวิฯ เพียงพอทั่วไทย เปิดงบซื้อยาทะลุ 6พันลบ.

ผอ.บริหารสาธารณสุขยันยาฟาวิฯ เพียงพอทั่วไทย เปิดงบซื้อยาทะลุ 6 พัน ลบ. เผย อภ.เตรียมซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ 600 บ./คอร์ส ถูกลงกว่าเดิม 16 เท่า แนะโควิดโอมิครอนไร้อาการไม่จำเป็นต้องใช้ยา

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม นพ.กรกฤช ลิ้มสมมุติ ผู้อำนวยการกองบริหารการสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการบริหารจัดการยารักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังเป็นประเด็นว่ายาฟาวิพิราเวียร์มีจำนวนไม่เพียงพอ ว่าตามหลักการให้ยากับผู้ป่วยโควิด-19 ทาง นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. และท่านรองปลัด สธ. เน้นย้ำว่าให้มุ่งเน้นการจ่ายยาตามแนวทางการรักษา เพื่อให้การบริหารจัดการสถานการณ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ ข้อมูลคลังยาโดยประมาณ วันที่ 25 มี.ค. ยาฟาวิพิราเวียร์กระจายในภูมิภาครวม 10 ล้านเม็ด และอยู่ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) 2-3 ล้านเม็ด

นพ.กรกฤช กล่าวว่า สำหรับยาที่ใช้ปัจจุบันจะมี 3 สูตร คือ 1.กลุ่มผู้ติดเชื้อโควิดที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย สามารถให้ยาตามอาการได้ เช่น แก้ไข้ แก้ไอ ลดน้ำมูก ลดไข้ 2.กลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการปานกลางและไม่มีความเสี่ยงร่วม จะให้ยาฟ้าทะลายโจร และ 3.กลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการและมีความเสี่ยงร่วม เช่น สูงอายุ โรคประจำตัว จะให้ยาต้านไวรัส

เช่น ยาฟาวิพิราเวียร์ ยาโมลนูพิราเวียร์ ยาแพกซ์โลวิด เป็นต้น ข้อมูลที่มีการศึกษา พบว่า ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว จำเป็นต้องได้รับยาฟาวิพิราเวียร์เพียง 30% หรือ 1 ใน 3 ของผู้ป่วยทั้งหมด ซึ่งต่างจากการระบาดช่วงสายพันธุ์เดลต้าที่ทำให้มีอาการรุนแรง เราจำเป็นต้องใช้ยามาก แต่ขณะนี้เป็นสายพันธุ์โอมิครอน อาการไม่รุนแรงมาก ดังนั้น ความจำเป็นใช้ยาก็จะลดลง อย่างไรก็ตาม เราต้องปรับการใช้ยาคู่กับศึกษาการใช้ยาต้านไวรัสโมลนูพิราเวียร์ เพื่อบริหารสถานการณ์และจัดซื้อยาตามหลักฐาน เพื่อให้งบประมาณถูกใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

Advertisement

“ทั้งนี้ การใช้ยาขึ้นอยู่กับแนวทางรักษา ยกตัวอย่างในเขตสุขภาพที่ 4, 5 และ 6 มีข้อมูลศึกษาว่าคนไข้เกือบ 50% ไม่ได้รับยาต้านไวรัสและยาฟ้าทะลายโจร ส่วนอีกครึ่งที่เหลือจะแบ่งเป็น รักษาตามอาการ เช่น ยาพาราเซตามอล แก้ไข้ ยาแก้ไอ อีกครึ่งหลังจะเป็นยาฟ้าทะลายโจร และยาฟาวิพิราเวียร์ หรือยาโมลนูพิราเวียร์” นพ.กรกฤชกล่าว

นพ.กรกฤช กล่าวต่อว่า ทางรัฐบาลพร้อมสนับสนุนเรื่องยาเต็มที่ เราก็สนับสนุนยาลงไปในสถานพยาบาลตามจำนวนคนไข้ แต่เราก็เข้าใจมุมของคนไข้ที่อยากรับยาฟาวิพิราเวียร์ เพื่อให้อาการดีขึ้นโดยเร็ว แต่เราก็จะต้องทำคู่กับการบริหารจัดการต่างๆ ด้านงบประมาณยาเราใช้ไปรวมๆ 6 พันล้านบาท และก็ยังเตรียมไว้อีกเพื่อสนับสนุนยาไม่ให้ขาดแคลน

นพ.กรกฤช กล่าวด้วยว่า ยาโมลนูพิราเวียร์ที่กรมการแพทย์จัดซื้อมา 50,000 คอร์ส ราคาคอร์สละ 10,000 บาท ขณะเดียวกัน เราได้มอบให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) หายาจากแหล่งอื่นเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดทางเลือก ที่สำคัญคือต้องเป็นบริษัทที่มีคุณภาพ ราคาเหมาะสมในการนำเข้า คาดว่าอยู่ระหว่างหารือกับบริษัทผู้ผลิตที่อินเดีย หากมีการนำเข้ามาก็คาดว่าจะตกราคาคอร์สละ 600 บาท เท่ากับยาฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งจะนำมาใช้ในผู้ป่วยอายุ 18 ปีขึ้นไปได้ แต่อายุต่ำกว่า 18 ปี ก็ใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ได้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image