กระทรวงการคลัง นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในแถลงข่าวความพร้อมของมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ได้รับผลกระทบอื่น ๆ ของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) หรือ มาตรการเยียวยา 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ว่า ขณะนี้เตรียมระบบไว้แล้ว และเปิดให้ แรงงาน ลูกจ้างชั่วคราวและอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบการแพร่จากโควิด-19 ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2563 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com เปิดให้ลงทะเบียนตลอด 24 ชั่วโมง
นายอุตตม กล่าวว่า ทั้งนี้ขอให้ผู้ที่มาลงทะเบียนใช้โทรศัพท์มือถือที่สามารถติดต่อได้ เพื่อระบบจะได้แจ้งผลการลงทะเบียนและสิทธิตามมาตรการให้แก่ท่านผ่านทางข้อความผ่าน SMS ได้ ในส่วนของการรับเงินเยียวยา จะสามารถรับได้ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ บัญชีธนาคารที่ชื่อและนามสกุลเจ้าของบัญชีตรงกับชื่อและนามสกุลที่นำมาลงทะเบียน หรือพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประจำตัวประชาชน และหากไม่จำเป็นควรเดินทางมาที่สาขาของธนาคาร แนะนำให้ลงทะเบียนผ่านออนไลน์ ส่วนพร้อมเพย์สามารถดำเนินการผ่านตู้เอทีเอ็มของธนาคารได้ตลอด 24 ชั่วโมงเช่นกัน
“ไม่ต้องไปแออัดที่ธนาคาร เพราะครั้งนี้ไม่เหมือนการลงทะเบียนชิมช้อปใช้ และขอยืนยันว่าแม้ถือบัตรสวัสดิการ(คนจน) ได้รับเงินช่วยเหลือ เพราะขณะนี้มีการไปลงในโลกออนไลน์ว่าผู้ถือบัตรคนจนไม่ได้ นั้นไม่เป็นความจริง ส่วนพ่อค้า แม่ค้าได้อยู่แล้ว ส่วนเกษตรกรต้องดูว่าเข้าเงื่อนไขหรือไม่ ถ้าไม่มั่นใจให้มาลงทะเบียนไว้ก่อน กระทรวงการคลังคัดครองให้เอง”นายอุตตม กล่าว
นายอุตตม กล่าวว่า ผู้ที่ลงทะเบียนและผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 5,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ระบบจะสามารถดำเนินการให้จ่ายเงินเยียวยาเข้าบัญชีของท่านได้เร็วสุดภายใน 7 วันทำการ
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า ถ้าลงทะเบียนรับเงินในวันที่ 28 มีนาคม จะได้รับเงินภายในวันที่ 8 เมษายน ซึ่งในการช่วยเหลือหากผ่าน 3 เงื่อนไขคือ เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ,ไม่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรการ 33 ส่วนอยู่ในมาตรการ 39 และมาตรา 40 สามารถมาลงทะเบียนได้ และต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 ถ้าไม่อยู่ใน 3 เงื่อนไขขอความกรุณาว่าอย่ามาลงทะเบียน ไม่ต้องเผื่อว่ารัฐจะให้ เพราะมีระบบเอไอในการตรวจสอบและคัดครองอย่างดี
นายลวรณ กล่าวว่า เมื่อลงทะเบียนแล้วจะมีการส่งข้อมูลแจ้งไปยังเบอร์มือถือว่าผ่านหรือไม่ภายใน 7 วัน โดยจะแบ่งเป็น 3 กรณี คือ 1.กรณีที่ผ่านจะส่ง SMS ยืนยัน ให้รอรับเงินที่จะโอนให้ผ่านพร้อมเพย์ หรือบัญชีธนาคาร 2. หากไม่ผ่านจะแจ้งให้ทราบพร้อมเหตุผล สามารอุทธรณ์ได้ 3.ขอข้อมูลเพิ่มเติม
นายลวรณ กล่าวว่า ทั้งนี้แม้จะมีการประเมินว่าแรงงานนอกระบบมีประมาณ 20 ล้านคน แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้รับเงินช่วยเหลือ เพราะต้องดูว่าต้องมีงานทำหรือไม่ ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จน ตกงาน ถูกลดเงินเดือน ค้าขายไม่ได้หรือไม่ ทั้งนี้คนที่ลงทะเบียนต้องเตรียมข้อมูล เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล ถ้าเป็นอิสระไม่มีนายจ้าง ต้องระบุข้อมูลให้ชัดเจน และถ้าทำงานต้องระบุว่าบริษัท หรือร้านอะไร ตั้งอยู่ที่ไหน กำหนดอายุผู้ลงทะเบียนคือต้อง 18 ปีขึ้นไป และหากอายุเกิน 60 ปี แต่ยังทำงาน เช่น ค้าขาย ขับรถรับจ้าง และได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สามารถมาลงทะเบียนได้
“ตัวเลขการช่วยเหลือ 3 ล้านคน เป็นตัวเลขประมาณการที่จัดสรรงบประมาณมาช่วยเหลือ แต่ถ้าลงทะเบียนแล้ว และตรวจสอบแล้วต้องช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถของบจากรัฐบาลได้ ดังนั้น ไม่จำเป็นรีบมาลงทะเบียน เพราะไม่ได้ใช้ระบบมาก่อนได้ก่อน ถ้าผ่านคุณสมบัติ 3 ข้อ จะได้รับเงินทุกคน โดยไม่ได้ปิดกั้นการลงทะเบียน ถ้าเป็นแรงงานลูกจ้าง หรืออาชีพอิสระ เช่น คนขับแท็กซี่ หาบเร่ แผงลอย เกษตรกร ทุกคนมีสิทธิ์ แต่ระบบจะมีการตรวจสอบ ไม่ใช่ลงแล้วจะได้เงินทันทีทุกคน”นายลวรณ กล่าว
