แม่ทัพภาค 4 บัญชาการ รับคนไทยกลับจากมาเลย์ ด่านสะเดายกมาตรการเข้ม! (คลิป)

แม่ทัพภาค 4 บัญชาการ รับคนไทยกลับจากมาเลย์ ด่านสะเดายกระดับมาตรการ “เข้ม”

คนไทยในมาเลเซียเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาทางด่านพรมแดนสะเดาอย่างต่อเนื่อง ล๊อตแรก102 คน มีการคัดกรองอย่างเข้มข้น

เมื่อวันที่ 18 เมษายน บรรยากาศที่ด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา ซึ่งเริ่มเปิดให้แรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในประเทศมาเลเซียกลับประเทศได้เป็นวันแรก และชุดมีการอนุญาตให้เดินทางเข้ามาประมาณ 102 คน

แรงงานไทยเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาในช่วงเช้า ได้มีมาตรการคัดกรองอย่างรัดกุมที่สุด โดยมี พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 และ นายจารุวัฒน์ เกลี้ยวเกลา ผู้ว่าฯสงขลา ไปดูแลทุกขั้นตอนการปฏิบัติ

ทันทีที่เข้ามาฝั่งไทยมีการฉีดยาฆ่าเชื้อทั้งร่างกายและกระเป๋าสัมภาระ การตรวจสอบรายชื่อว่าตรงกับลงทะเบียนไว้หรือไม่ จุดพักรอเพื่อให้อุณภูมิร่างกายปกติ จุดวัดไข้ ค่อยเข้าสู่กระบวนการตรวจหนังสือเดินทางและคัดแยกภูมิลำเนา และหากรายใดมีไข้สูงกว่า 37.3 องศา จะต้องถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสะเดาและโรงพยาบาลปาดังเบซาร์ เพื่อเพาะเชื้อว่าป่วยโควิด 19 หรือไม่

รายงานข่าวว่าส่วนผู้ที่อาการปกติก็จะนำเข้าสู่กระบวนการกักตัว14 วัน ตามภูมิลำเนาของแต่ละคน จ.สงขลาและ3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนจังหวัดอื่นๆได้เตรียมสถานที่กักตัวไว้ที่โรงแรมสาธิตแกรนด์วิว และโรงแรมเอ็มโซโฮ ชายแดนไทยมาเลเซีย

Advertisement

รายงานข่าวว่าในส่วนของด่านพรมแดนสะเดา มีคนไทยที่ได้ลงทะเบียนไว้กับสถานกงสุลไทยในมาเลเซียเดินทางเข้ามาประมาณ 1,500 คน

แม่ทัพภาคที่ 4 พอใจผลการบริหารจัดการนำคนไทยจากมาเลเซียกลับประเทศทางด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก

พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งลงพื้นที่มาติดตามการเดินทางกลับเข้าประเทศไทยของคนไทยในประเทศมาเลเซียที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก กล่าวว่า เนื่องจากเป็นวันแรกที่เปิดให้คนไทยในต่างประเทศเดินทางกลับเข้ามา โดยช่วงเช้ามีคนไทยเดินทางเข้ามาจำนวน 42คน โดยเป็นกลุ่มเหลือง ที่มาจากรัฐยะโฮร์บารู ซึ่งเป็นพื้นที่พบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สูงจำนวน 21คน และ สีเขียวที่มาจากพื้นที่ที่พบการแพร่ระบาดน้อย จำนวน 20 คน และสีแดงที่มีอาการไข้รอการตรวจสอบจำนวน 1 คน ซึ่งก่อนเดินทางไปยังศูนย์กักกันจะมีการแจกข้าวกล่องและน้ำดื่มให้กับทุกคน

ทั้งนี้ในภาพรวม พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่4 พอใจกับมาตรการที่ได้ดำเนินการตามแผน เพราะมีการจัดรถให้บริการพร้อมอาหารและน้ำดื่มรวมทั้งจัดศูนย์กักกันที่แยกเป็นรายจังหวัดในพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้จึงง่ายต่อการควบคุมกำกับ

Advertisement

ด้าน นายมานาเซ แวกาจิ คนไทยที่มาจากรัฐยะโฮร์บารู ประเทศมาเลเซียกล่าวว่าการเดินทางออกมาจากที่พักถึงด่านตรวจคนเมืองรันเตาปันยัง ใช้เวลาประมาณ 13 ชั่วโมง ตลอดเส้นทางมีเจ้าหน้าที่ของประเทศมาเลเซียตรวจเอกสารการเดินทางอย่างเข้มงวดทุกด่าน ซึ่งโชคดีที่ตนมีเอกสารการเดินทางครบจึงสามารถเดินทางมาถึงจุดหมายปลายทางได้ ส่วนหนังสือรับรองแพทย์กลุ่มของพวกตนจ่ายค่าออกเอกสารจากทางคลีนิคในประเทศมาเลเซียคนละ 30 ริงกิตหรือประมาณ 270บาทไม่ใช่ 600 ริงกิตอย่างที่มีการพูดถึงกัน

ทั้งนี้ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ช่วยให้พวกตนสามารถเดินทางกลับประเทศไทยและดูแลตลอดการเดินทาง เช่นเดียวกับเมื่ออยู่ในประเทศมาเลเซียก็ได้รับการดูแลจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง รวมทั้งอาสาสมัครคนไทยในมาเลเซียที่นำถุงยังชีพมาช่วยเหลืออย่างเต็มที่

คลิป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image