ส.ส.3พรรคร่วมจี้ ‘อุตตม’ แจงใช้เงินพ.ร.ก. 1.9 ล้านล.เสนอแจกประชาชนทุกคน

ส.ส.3 พรรคร่วมยื่นหนังสือจี้ ‘อุตตม’ แจงใช้เงินพ.ร.ก.  1.9 ล้านล.เสนอแจกเงินประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปทุกคน แทนดำเนินการผ่านเราไม่ทิ้งกัน

เมื่อวันที 20 เม.ย. 2563 ที่กระทรวงการคลัง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) พรรคร่วมรัฐบาล ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติพัฒนา และพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปยังกระทรวงการคลังเพื่อยื่นหนังสือถึงนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขอให้ชี้แจงพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะการใช้เงินเพื่อเยียวยาประชาชนได้รับผลกระทบจากโควิด-19 พบว่าการลงทะเบียนผ่านwww.เราไม่ทิ้งกัน.com ยังมีปัญหามาก และอยากให้ดำเนินการใช้เงินอย่างรอบครอบและโปร่งใส ทั้งนี้นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) เป็นผู้รับหนังสือแทนนายอุตตม

นายเทพไท เสนพงศ์ สภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่มายื่นหนังสือวันนี้ เป็นเพราะอยากให้รัฐบาลชี้แจงเรื่องการใช้เงินจากพ.ร.ก. กู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาทให้ชัดเจน เพราะหากมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรต้องโดนโจมตีในสภาแน่นอน  โดยเฉพาะเรื่องเงินเยียวยา 5 พันบาท ประชาชนยังสับสนจำนวนมาก โดยเสนอว่า ควรนำเงินกู้ในส่วนที่ช่วยเหลือเยียวยา 6 แสน ล้านบาท จ่ายให้กับประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป  โดยผู้ที่มีคุณสมบัติจะต้องมีเงินในบัญชีไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความเดือดร้อนเพราะยากจน ส่วนเกษตรกรควรเงินให้ครอบครัวละ 1 หมื่นบาท ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 10 ล้านครอบครัว แบบนี้รัฐบาลจะไม่โดนข้อครหาจากประชาชานว่ารัฐบาลเยียวยาไม่ทั่วถึง

นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ(ซอฟท์โลน) 5 แสนล้านบาท ให้ธนาคารพาณิชย์ เพื่อปล่อยกู้ผู้ประกอบการ ในอัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปีนั้น อยากให้ธนาคารพาณิชย์มีเกณฑ์การปล่อยกู้ที่เหมือนกันทุกธนาคาร เพราะขณะนี้แต่ละธนาคารกำหนดเกณฑ์การกู้เงินแตกต่างกัน  จึงความคลางแคลงใจว่าจะสามารถปล่อยกู้ถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและรายย่อยได้จริงหรือไม่ ส่วนการตั้งกองทุนพยุงหุ้นกู้เอกชน 4 แสนล้านบาท นั้น มีความกังวลว่าจะเป็นการช่วยเหลือแต่ผู้ประกอบการรายใหญ่ และอาจจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนได้

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวว่าจะนำข้อเรียกร้องของส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลไปเสนอให้นายอุตตม โดยในเบื้องต้น ยืนยันว่ารัฐบาลจะดำเนินทุกมาตรการอย่างรอบครอบ ขอให้สบายใจได้ ส่วนเรื่องมาตรการเยียวยา 5 พันบาทต่อเดือน ที่พรรคร่วมรัฐบาลเสนอมาว่า ควรแจกเงินให้ทุกคนตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไปนั้น  คงยังไม่สามารถตอบได้ว่าทำได้หรือไม่ แต่รัฐบาลจะดูแลทุกกลุ่มให้ครอบคลุมมากที่สุด ซึ่งการดำเนินการต้องพิจารณาในเรื่องภาระทางงบประมาณด้วย

Advertisement

นายชาญกฤช กล่าวว่า สำหรับในส่วนซอฟท์โลน เชื่อว่าทุกธนาคารพาณิชย์จะให้ความร่วมมือ เนื่องจากการพิจารณามาตรการนี้ ธปท.เชิญสมาคมธนาคารไทย เข้าร่วมหารือแล้ว ส่วนการจัดตั้งกองทุนตราสารหนี้นั้น เนื่องจากตลาดตราสารหนี้ มีขนาดเป็น 20 % ของจีดีพี และมีผู้เกี่ยวข้องในตลาดจำนวนมาก ถ้าตลาดตราสารหนี้ไม่มีเสถียรภาพ จะกระทบเป็นวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image